มนต์เสน่ห์สังขละบุรี ทำไมใครไปก็หลงรัก
อำเภอสังขละบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 215 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณที่ลำน้ำสามสายมาบรรจบกันอันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบีคลี่ และห้วยรันตี รวมเรียกว่า “สามประสบ” ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย
เป็นอำเภอที่มีชาวมอญมาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถพบเห็นวิถีชีวิตประเพณีเก่าแก่แบบดั้งเดิมของชาวมอญได้ที่นี่ ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ชวนนักท่องเที่ยวให้อยากมาสัมผัส มาเที่ยวสังขละบุรีต้องไปเที่ยวที่ไหนบ้างมาดูกัน
สะพานมอญ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบที่สวยงามสามารถมองเห็นลำห้วยสายต่างๆคือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตีที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ
ในวันเช้าตรู่ที่สะพานมอญจะมีการตักบาตรของชาวมอญ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากตักบาตรก็สามารถซื้ออาหารที่ชาวบ้านจัดเป็นชุดๆไว้ได้อย่างสะดวก นี่ก็เป็นประเพณีอย่างหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก
วัดใต้น้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามเก่า จัดเป็นสถานที่โบราณสำคัญอีกที่หนึ่ง เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าของหลวงพ่ออุตมะที่ชาวมอญร่วมกันสร้างขึ้น ต่อมาได้มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์เพื่อใช้ในการผลิตกระแสะไฟฟ้าทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่าทั้งหมู่บ้านรวมทั้งตัววัดด้วย จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน
การมาชมวัดใต้น้ำจะทำได้เพียงล่องเรือไปในบริเวณใกล้กับโบสถ์ จึงควรมาในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลด สามารถนั่งเรือไปจอดใกล้โบสถ์แล้วเดินเข้าไปภายในโบสถ์ได้เพื่อชมศิลปะแบบมอญ ภายในผนังโบสถ์ยังมีลวดลายศิลปะหลงเหลือให้เห็นอยู่เป็นลายซุ้มองค์พระพุทธรูปอยู่ตามผนัง แต่เดิมมีทั้งหมด 2,500 องค์ แต่ปัจจุบันเนื่องจากโดนกระแสน้ำเซาะทำให้เกิดความเสียหายหลุดล่วงหรือลอยไปกับกระแสน้ำบ้าง
วัดวังก์วิเวการาม เป็นวัดจำพรรษาของหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งชาวกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น
ปัจจุบันหลวงพ่ออุตตมะได้มรณะภาพไปแล้ว แต่ร่างของหลวงพ่อยังคงตั้งอยู่ที่วัดวังวิเวกการามและภายในวิหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมีพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามประดิษฐานอยู่ ชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า หลวงพ่อขาว
เจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเลีย
หลวงพ่ออุตตามะ ได้สร้างเจดีย์พุทธคยาจำลองขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้าที่ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารไว้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลอีกด้วย
ล่องแก่งแม่น้ำซองกาเลีย
แม่น้ำซองกาเลีย มีต้นน้ำมาจากผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ไหลเรื่อยมาเป็นน้ำตกตะเคียนทองและรวมกับสายน้ำโรคี่ รวมกันเป็นแม่น้ำซองกาเลียและไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมในเขตอำเภอสังขละบุรี
ระยะทางการล่องแก่งซองกาเลียยาวประมาณ 20 กิโลเมตร มีแก่งให้ผ่าน 15 แก่ง จุดเริ่มต้นบริเวณตอนล่างของน้ำตกตะเคียนทองสิ้นสุดที่เจดีย์เจมส์รีสอร์ท ช่วงฤดูร้อนและหนาวกระแสน้ำไม่รุนแรงมากนัก ในฤดูฝนความยาก-ง่ายอยู่ที่ระดับ 1-4 ยากง่ายสลับกันไป สามารถล่องได้ทั้งเรือยางและแพไม้ไผ่ ใช้เวลาในการล่องประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งจะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับกระแสน้ำในแต่ละฤดูด้วย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับล่องแก่งเรือยาง คือ ปลายเดือนมิถุนายน - ปลายเดือนตุลาคม ส่วนแพไม้ไผ่จะเหมาะในช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – พฤษภาคม เป็นการล่องสายน้ำเดียวกัน ดังนั้นความมันส์และความสนุกไม่แพ้กันเลย
ขอบคุณภาพจาก www.ponnateeresort.com
เขาเรดาร์
เขาเรดาร์ อยู่บนยอดเขาสูงของจังหวัดกาญจนบุรีตั้งอยู่ระหว่างน้ำตกเกริงกระเวียไปยังตัวอำเภอสังขละบุรี ซึ่งบนยอดเขานั้นเป็นเขตของทหารจะไม่เปิดให้ขึ้นไปชม โดยถนนทางขึ้นจะเป็นเขาลาดชันยาวหลายกิโลเมตร ระหว่างทางมีจุดชมวิวให้ได้แวะชมและถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกัน
ซึ่งบนยอดเขาจะสามารถมองเห็นถนนทั้งหมดและวิวบนเขาธรรมชาติที่สวยงามเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดนานาพันธุ์ถือว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด
ด่านเจดีย์สามองค์
ด่านเจดีย์สามองค์ หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อหินสามกอง เป็นจุดบอกเขตผ่านทาง พรมแดนไทย - พม่า ในแนวเขาตะนาวศรี ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนฝั่งตะวันตกของไทย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 215 กิโลเมตร บริเวณด่านมีเจดีย์ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวยาว ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม ด้านบนเป็นทรงกลม ยอดแหลม มีสีขาวขนาดไม่ใหญ่นัก
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถทำใบผ่านแดนเข้าไปในพม่าได้ภายใน 1 วัน เพื่อเข้าไปชมเมืองพญาตองซูในประเทศพม่า ที่ห่างจากบริเวณด่านไปเพียง 3 กิโลเมตร
ค่าธรรมเนียมผ่านด่านชายแดนเจดีย์สามองค์
จากฝั่งไทยไม่เสียค่าธรรมเนียม ส่วนฝั่งพม่าเสียค่าธรรมเนียมคือ ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 10 ดอลล่าร์ (ชาวต่างชาติไม่สามารถประทับตราวีซ่าใหม่ ณ จุดผ่านแดนนี้ได้) เวลาทำการด่านเข้า-ออก 6.00 น. - 18.00 น.
ติดต่อสอบถามการเปิด-ปิดด่านได้ที่ ตม.สังขละบุรี โทร 034-595-335
ชมวิวทิวทัศน์อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอสังขละบุรีและอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีสภาพป่าที่สมบูรณ์โดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ประกอบด้วยสัตว์ป่านานาชนิด สถานที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ เล่นน้ำ พายเรือเล่นในอ่างเก็บน้ำ
ขอบคุณภาพจาก dnp.go.th
จุดชมวิวป้อมปี่ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทางไปสังขละบุรีประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบของที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ถูกจัดให้เป็นลานแคมป์ปิ้ง บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักแรมและทำกิจกรรมต่างๆ
จุดไฮไลท์อยู่ที่ความสวยงามของพระอาทิตย์ตก ณ จุดชมวิวป้อมปี่ ที่ถือว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันตก
น้ำตกเกริงกระเวีย อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก สูงประมาณ 5 เมตร มีน้ำไหลลดหลั่นกันมาตามโขดหินมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ น้ำใส สามารถลงเล่นได้ ปลอดภัย มีน้ำไหลตลอดปี หน้าฝนน้ำจะค่อนข้างแรง
สามารถแวะได้ง่าย ไม่ต้องเดินไกลเพราะอยู่ริมถนนเส้นทางทองผาภูมิ-สังขละบุรี จอดรถก็ถืงตัวน้ำตกเลย เหมาะเป็นจุดพักรถ เข้าห้องน้ำ และรับประทานอาหาร