6 เมนูเด็ด จากเชฟกอล์ฟ TOP CHEF THAILAND 2023 ที่ห้องอาหาร Bangkok’78 โรงแรม สินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ, วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น
ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาใครที่ชื่นชอบในการดูรายการทำอาหารคงจะไม่พลาดกับรายการ TOP CHEF THAILAND 2023 รายการที่จะนำพาเชฟที่มากไปด้วยความสามารถมาแข่งขันกันเพื่อหาแชมป์ ที่ทำอาหารได้ดีที่สุดภายในรายการ และในซีซั่นนี้ก็ได้ผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว แต่ในวันนี้เราจะพามาร้าน Bangkok’78 ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยร้านหนึ่งที่มีแม่ทัพเป็นเชฟที่เข้าแข่งขันในรายการ TOP CHEF THAILAND 2023 ที่มากไปด้วยความสามารถและมีจุดเด่นอยู่ที่อาหารไทย
เชฟกอล์ฟ ภัควลัญชญ์ เวชมนต์ เชฟหญิงสุดแกร่งที่มากไปด้วยความสามารถ ถ้าหากเป็นคนที่ติดตามรายการอยู่แล้วละก็ จะได้พบกับอาหารไทย ที่มีไอเดียในการนำเสนอใหม่ ๆ และคำชมจากกรรมการว่าเป็นอาหารรสชาติที่ดีอยู่เสมอ และ เชฟกอล์ฟ เป็นนั้นเป็น Executive Sous Chef อยู่ที่ร้าน Bangkok’78 ซึ่งอยู่ภายในโรงแรมสินธร มิดทาวน์ บริเวณหลังสวนใกล้ ๆ กับเซ็นทรัลชิดลม เดินทางได้ด้วยบีทีเอสถึง 2 สถานีทั้งสถานีชิดลมและสถานีราชดำริ มีที่จอดรถฟรี 4 ชั่วโมง
ห้องอาหาร Bangkok’78 นั้นนับว่าเป็นห้องอาหารไทยสไตล์เรโทร ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทองของกรุงเทพฯในช่วงปี 70 มีการใช้ลวดลายแบบไทย ๆ ในการตกแต่งผนัง มีบริการห้องที่ให้ความเป็นส่วนตัวมากถึง 4 ห้อง อีกทั้งอาหารของร้าน Bangkok’78 นั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารไทย ใช้วัตถุดิบชั้นดี รสชาติกลมกล่อม มีหลากหลายเมนูที่เป็นอาหารไทย
ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม นี้ห้องอาหาร Bangkok’78 จะมีเมนูพิเศษที่เป็นเมนูที่เชฟกอล์ฟ นั้นเป็นคนรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ถึง 6 และบางเมนูนั้นเป็นเมนูที่อยู่ในรายการ TOP CHEF THAILAND ลองทายกันดูไหมว่าจะเป็นเมนูอะไรบ้าง แน่นอนต้องมีเมนูที่ทำให้เชฟกอล์ฟนั้นได้รับชัยชนะมาอย่างแน่นอน ในช่วง 2 เดือนนี้ใครที่เป็นแฟนคลับคอยเชียร์เชฟกอล์ฟอยู่ในรายการละก็ต้องมานะ เพราะจากเท่าที่ได้คุยกับเชฟกอล์ฟ เค้าได้บอกมาว่าเมนูทั้ง 6 เมนูนี้เนี่ยเป็นเมนูที่คิดขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อคนที่เป็นแฟนของรายการโดยเฉพาะ และอยากให้ได้ลองอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมที่ใช้วัตถุดิบชั้นดี ในราคาที่ไม่สูงมากนัก เดี๋ยวไปดูกันดีกว่า ว่าจะมีเมนูอะไรกันบ้างและรสชาติแต่ละจานจากได้ที่ชิมมาบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง
เรามาเริ่มกันที่จานแรก Appetizer กันก่อนดีกว่าเป็นลิ้นวัวแดดเดียวทอด น้ำจิ้มแจ่ว ที่ขนาดของลิ้นวัวนั้นหั่นออกมาเป็นชิ้นหนาพอดีคำ เข้าปากคำแรกได้สัมผัสนุ่มแต่ยังคงเคี้ยวได้เพลิน ๆ รสชาติดีโดยที่สามารถกินเปล่า ๆ หรือกับข้าวได้อย่างง่าย ๆ แต่หากใครที่ต้องการเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นมากกว่าเดิม สามารถจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วรสเผ็ดอมเปรี้ยวที่จะตัดกับความมันนุ่มของลิ้นวัวได้เป็นอย่างดี จานนี้กินเพลินมาก
หลนหมูสับ ปลาอินทรีเค็ม และเนื้อปู
ถ้วยนี้เป็นหลนที่มีความหอมและมันกินเครื่องจิ้มที่เสิร์ฟมาพร้อมกันในจานอย่าง ผักกาดหิน ขมิ้นขาว ถั่วฝักยาว มะตูมแขก ช่วยเพิ่มความหวานมันและยังมีรสเค็มโดดที่ได้จากปลาอินทรีเค็ม ผักบางชนิดมีรสชาติค่อนข้างจะพิเศษ กลิ่นและรสชาติเข้ากันได้ดีกับหลนถ้วยนี้
กุ้งแม่น้ำทอดซอสน้ำปลามันกุ้ง
กุ้งตัวใหญ่ที่นำไปทอดในน้ำมันที่มีกลิ่นและความหอมของกุ้ง จานนี้ใครที่ชอบกินกุ้งและมันกุ้งนี้น่าจะชอบมากเพราะเกือบจะทุกคำเป็นสัมผัสและรสชาติของกุ้งเน้น ๆ จานนี้ถูกปรุงรสอย่างง่าย ๆ ตามด้วยสามเกลอสมุนไพรบ้านเราและกระเทียมเจียว
กุ้งตัวค่อนข้างใหญ่เนื้อแน่น ๆ เต็มคำ เรียกได้ว่าใช้คำว่าอร่อยได้อย่างสิ้นเปลืองเลย
ต้มส้มปลาเก๋า
เมนูไทยหากินยากและถ้วยนี้จัดมาให้แบบเต็ม ๆ ด้วยเนื้อปลาเก๋า รสชาติของน้ำต้มส้มนั้นกลมกล่อมมาก ใช้เบสเป็นซุปปลา ปรุงรสด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดแถมยังใช้กะปิชั้นดีมีกลิ่นหอม เมนูนี้ตอนได้ยินตอนแรกคิดว่าจะรับประทานยาก แต่กลับเป็นเมนูที่กินง่าย ๆ คล่องคอมีกลิ่นหอม เป็นอีก 1 เมนูที่เชฟกอล์ฟนำเสนอ
ปลาหมึกสอดไส้หมูสับนึ่ง ซอสโหระพาอิตาลี
เมนูนี้เป็นหนึ่งเมนูที่ได้เห็นในรายการ TOP CHEF THAILAND 2023 ปลาหมึกขนาดพอดีคำสอดไส้หมูสับที่ปรุงรสและนำไปผัดฉ่า ได้รสชาติเผ็ดร้อนและได้กลิ่นหอม แต่กลิ่นหอมที่ได้นั้นแตกต่างไปจากโดยปกติเพราะว่าใบโหระพาที่ใช้ในเมนูนี้นั้นใช้ใบโหระพาอิตาเลียน (Italian Basil) ทำให้ได้กลิ่นหอมสัมผัสในการกินที่แตกต่าง
ไอศกรีมปลากะพง คาราเมลน้ำตาลโตนด
เมนูนี้คาดว่าหลาย ๆ คนคงจะสงสัยว่ารสชาติเป็นยังไง เมนูที่ได้เห็นในรายการ TOP CHEF THAILAND 2023 ที่ต้องนำวัตถุดิบปริศนามาทำเป็นไอศกรีม ซึ่งในไอศกรีมนี้จะเป็นปลากะพงกับข้าวโอ๊ตปรุงรสกับเนยจนได้ความมันเข้มข้น ใช้น้ำตาลโตนดจนหวานหอม เนื้อเนียน และใช้ขมิ้นที่ให้สีเหลืองสวยงาม โรยหน้าด้วยเมล็ดทานตะวัน เป็นไอศกรีมปลาที่ไม่มีกลิ่นของปลาแรงมากนักแต่กลับหอมมันด้วยกลิ่นของเนยและคาราเมล
ในส่วนของเครื่องดื่มที่ร้านจะมีบาร์น้ำให้เห็นตั้งแต่ทางเข้าซึ่งทางห้องอาหารมี เครื่องดื่มซิกเนเจอร์เป็นชา 4 ตัว และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ค็อกเทล อีก 4 ตัว ที่ใช้ชื่อจากบทเพลงฮิตในยุค 70 - 80 ซึ่งจะมีเบสเป็นชา วันนี้ได้ลอง 4 เมนูด้วยกันโดยทั้ง 2 แก้วจะมีลักษณะคล้ายกันคือเป็นสีแดงเหมือนไวน์ และสีเหลืองสดใส
Dancing Queen
ส่วนผสมหลักจะเป็นชาราสเบอรีร์ผสมไวน์มังคุดเติมด้วยสปาร์คกิ้งโซวีญงออสเตรเลียและโซดา ซาบซ่าเปรี้ยวหวานจากผลไม้
Old Time Rock and Roll
ตัวนี้จะมีความคลึงตัวข้างบนก่อนหน้ามากแต่เปลี่ยนจะเบสของชารสเบอรีเป็นชาดำและมีการเพิ่มรสของเลมอน อ่อน ๆ ลงไป ค่อนข้างจะรู้สึกถึงความสดชื่นมากกว่า
Chrysanthemum and Pandan Iced tea
ชาเก๊กฮวยใบเตยที่ซาบซ่า ไม่หวานอย่างที่คิด
I Will Survive
น้ำขิงผสมตะไคร้หอมสดชื่น แบบไทย ๆ
สุดท้ายนี้นอกจากเมนูทั้ง 6 เมนูจากเชฟกอล์ฟแล้วยังมีเมนูอาหารไทยในห้องอาหาร Bangkok’78 อีกมากมายที่เป็นอาหารไทยที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีบรรยากาศแบบไทยเรโทรน่านั่ง หากใครสนใจสามารถสำรองที่นั่งหรือมารับประทานอาหารได้ที่ โรงแรมสินธร มิดทาวน์ ที่หลังสวนตรงนี้ได้เลย
ห้องอาหาร Bangkok'78 ชั้น 2 โรงแรม สินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ, วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น
ที่อยู่ : 68 ซ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
พิกัด : https://goo.gl/maps/ReXWAhQNiGSrsXA68?coh=178572&entry=t
เปิด : 11.30 – 22.30 น.
Instagram : https://www.instagram.com/bangkok_78/
โทรศัพท์ : 02 796 8888
Finding your passion
#เพราะเรารู้ว่าคุณก็อยากรู้ #edtguide #มาที่เดียวได้ทั้งเที่ยวได้ทั้งกิน #รีวิวกับedt #รีวิวที่เที่ยว #รีวิวที่กิน #ไปเที่ยวก็อยากกิน #ไปกินก็อยากเที่ยว #Bangkok78 #SindhornMidtown #VignetteCollection #SindhornVillage #anIHGHotel #Authentic #Thaifood