รวม 5 เรื่องราวของ “ติ่มซำ” ที่ทำให้กลายเป็นอาหารที่นิยมทั่วโลก
ติ่มซำอาหารยอดนิยมของจีนที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และเป็นอาหารที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่ว่าเราจะเคยกินติ่มซำจากภัตตาคารห้าดาวหรือร้านสะดวกซื้อในรูปแบบต่างๆ หากแต่คราวนี้เราลองมารู้จักติ่มซำแบบเจาะลึกกันว่าจริงๆแล้วมีอะไรมากกว่าที่เราคิด และสาเหตุอะไรกันที่ทำให้เมนูจานเล็กๆเหล่านี้กลายเป็นที่นิยมทั่วโลก.กับ 5 เรื่องราวของติ่มซำ
01 ติ่มซำ (Dim Sum) กับคำว่า Touch My Heart
ติ่มซำ มาจากภาภาษากวางตุ้ง แปลว่า Touch the Heart (สัมผัสที่หัวใจ) เป็นเพราะว่าการทำติ่มซำต้องใช้ความปราณีตละเอียดอ่อนในการทำ ค่อยๆปั้นไปทีละลูก.มีตำนานเล่ากันว่าสมัยก่อนตามเส้นทางสายไหมระหว่างเส้นทางจะมีสถานที่เพื่อแวะพักผ่อนระหว่างทาง ในเส้นทางสายไหมจึงเต็มไปด้วย ร้านน้ำชา (Yum Cha/ หยำฉ่า)เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ.ระหว่างทานน้ำชา ทางร้านต่างๆ จึงคิดของกินเล่นเพื่อเอาไว้ทานคู่กัน จึงเป็นที่มาของติ่มซำในเวลาต่อมา ด้วยความที่ทานง่ายและมีความแปลกใหม่ในรสชาติ ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
02 เชฟติ่มซำระดับชำนาญต้องฝึกฝนไม่ต่ำกว่า 3 ปี
คนที่จะทำติมซำให้เก่งจริง ๆ นั้นต้องผ่านการใช้เวลาในการฝึกฝนไม่น้อยกว่า 3 ปี ทั้งการตบแป้ง ความเนียนของเนื้อแป้งที่ห่อ น้ำหนักของแป้งและไส้ต้องเท่ากันทุกลูก.ความชำนาญต้องผ่านการฝึกฝน ทั้งการจับจีบ การห่อ ความสร้างสรรค์ของเชฟแต่ละคนล้วนขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของเชฟแต่ละคนด้วย.----.
03 “ฮะเก๋า” เป็นติ่มซำที่ทำยากที่สุด
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ กว่าจะตบแป้งฮะเก๋าให้บางได้นั้นอย่างน้อยเชฟผู้ทำต้องฝึกมืออยู่ถึง 2 ปีทีเดียว เนื้อแป้งจะต้องเนียนและบางเท่ากันทั้งแผ่น การจะจีบฮะเก๋านั้น ถึงจะใช้เวลาเพียง 2 วันก็หัดจีบเป็นก็จริง แต่จะจีบให้สวยให้ได้ 13 จีบนั้นก็ต้องใช้เวลาอีกเช่นกัน ทั้งนี้อยู่ที่ประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ของเชฟแต่ละคนในการพลิกแพลงรูปร่างหน้าตาของฮะเก๋ากับกุ้งเช่นเดียวกัน
04 “ติ่มซำ” มีชื่อเดิมว่า “ซิ้วไหม”
“ซิ้วไหม” ที่มีความหมายถึง "ขายร้อนๆ" เพราะปกติเราจะทานติ่มซำ ตอนที่ยังร้อนๆ เป่าอุ่นๆ แล้วจิ้มกับน้ำจิ้มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีอิ๊ว ซอสพริก ซอสซีฟู้ดเผ็ดๆ ซอสเปรี้ยว (จิ๊กโฉ่ว) ซอสเซี่ยงไฮ้ อย่างที่นิยมทานกันในปัจุบันหรือประทานกับ “ค้อมเจือง” หรือ “น้ำส้มเจือง” ที่เป็นซอสลักษณะสีแดงขุ่น รสชาติหวาน ซึ่งเป็นซอสเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตรัง ที่นิยมติ่มซำที่สุดในไทย
05 “ขนมจีบ” เมนูติ่มซำที่มีประวัติยาวนานที่สุด
เราทุกคนต่างรู้ดีว่าเมนูหลักๆของติ่มซำนั้นมีหลากหลายมากๆ ซึ่ง “ขนมจีบ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเจ้าเมนูนี้มีความยาวนานถึง 700 ปีเลยทีเดียว .โดยเริ่มมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน แต่เดิมทีขนมจีบนั้นเป็นวัฒนธรรมของเมืองฮูฮฮอตมองโกเลียใน จากการนำมาขายในร้านน้ำชาบนเส้นทางสายไหมจนได้ชื่อว่า “เฉาม่าย” (捎卖 /shao mai) ที่แปลว่า สินค้าที่ขายเป็นงานอดิเรกเครื่องเคียง นั่นเอง
“ติ่มซำเมืองตรัง” ดียังไง ทำไมจึงชิมสักครั้งในชีวิต
เมื่อครั้งอดีตที่การค้าขายเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นยุคทองของการค้า “จีน” เป็นอีกประเทศที่เข้ามาผูกสัมพันธ์ไมตรีด้านการค้ากับไทยเราซึ่งถือได้ว่าเป็นมิตรด้านการค้าขาประจำเลยทีเดียว.ซึ่งบ้างก็มาเพื่อการค้าระยะสั้น ๆ บ้างก็มาแล้วตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองไทย จึงไม่แปลกที่วัฒนธรรมต่าง ๆ ของจีน จะถูกนำมาผสมผสานกลายเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นของหลายๆพื้นที่.โดยไม่เว้นแม้ประเพณีการรับประทานอาหาร จนอาหารบางชนิดกลายเป็นอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ติ่มซำ’ นั่นเอง
จุดเริ่มต้น “ติ่มซำเมืองตรัง”.จุดเริ่มต้นของเมนูร้อนของจังหวัดตรังนั้น ไม่มีช่วงเวลาระบุที่แน่ชัด หากแต่มีเพียงเรื่องเล่าที่พอจะมาระบุได้ว่าเหตุใดเมืองตรังจึงโด่งดังเรื่องติ่มซำ.
01 การทำอาหารทานเล่นของเหล่าผู้ใช้แรงงาน
มีเรื่องเล่าว่า ผู้ใช้แรงงานในสมัยก่อนคนหนึ่งได้คิดที่จะทำอาหารไว้กินเล่น โดยนำแป้งมานวดแล้วก็ปั้นให้พอดีคำเพราะว่าเป็นของแปลกใหม่ ทำให้ในสมัยนั้นขนมชนิดนี้จึงได้รับความนิยมมากในหมู่ชาวบ้าน.ชื่อเสียงดังจนฮ่องเต้ทรงเรียกกรรมกรผู้นั้นไปทำให้เสวยแล้วก็ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก จึงให้กรรมกรคนนั้นเข้ามาเป็นพ่อครัวประจำวังหลวงเลยทีเดียว และตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับความนิยมไปทั่ว มีการดัดแปลงใส่ไส้ต่างๆ เพิ่มลงไป
02 เมนูอาหารจากพ่อค้าคนจีน
อีกตำนานที่ว่าเมื่อก่อนมีคาราวานพ่อค้าเดินทางผ่านมาเส้นทางสายไหม และมักจะหยุดพักผ่อนตามร้านน้ำชาที่มีอยู่ทั่วไปบนถนนสายนี้ พอหยุดพักทีนอกจากดื่มน้ำชา.และยังสั่งอาหารว่างเพื่อกินคู่กับน้ำชาอีกด้วย ทำให้บรรดาพ่อค้าร้านน้ำชาต้องคิดหาอาหารกินเล่นต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับ และนี่ก็ทำให้เป็นที่มาของติ่มซำที่กลายเป็นอาหารที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน.จากตำนานและที่มาดังกล่าวจึงส่งผลให้ทางตอนใต้ของประเทศไทยเรา มีร้านอาหารเช้าประเภทติ่มซำจำนวนมากเนื่องมาจากการทำการค้าระหว่างประเทศ รวมไปถึงการอพยพของชาวต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่สมัยก่อนนั่นเอง ซึ่งอาจเป็นผลพวงมาจากตำนานดังกล่าว
“ค้อมเจือง” สิ่งที่ทำให้ติ่มซำจังหวัดตรังไม่เหมือนที่ใคร.เดิมในประเทศไทยขึ้นชื่อทางด้านติ่มซำ ที่จังหวัดตรังตามร้านกาแฟยามเช้า จะขายกาแฟหรือชาพร้อมกับติ่มซำหลากหลายชนิด.หรือรับประทานคู่กับหมูหัน โดยมากแล้ว ติ่มซำจำพวกขนมจีบหรือฮะเก๋า จะรับประทานโดยจิ้มกับซอสเปรี้ยว หรือจิ๊กโฉ่ว.แต่ที่จังหวัดตรัง จะเป็นซอสลักษณะสีแดงขุ่น มีรสชาติหวาน ทำมาจากมันเทศ ถั่วลิสงต้มสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาลน้ำส้ม และเกลือ เรียกว่า “ค้อมเจือง” ที่เป็นเอกลักษณ์ของติ่มซำจังหวัดตรัง ซึ่งสันนิษฐานว่าที่มาจากซอสมะเขือเทศของฝรั่งนั่นเอง
ลองมาดู! กินติ่มซำทั้งทีต้องมีเมนูอะไรบ้าง
“ติ่มซำ” นั้น แม้จะเสิร์ฟเป็นเมนูจานเล็กๆแต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่ามีหลากหลายเมนูมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่คนจีนโบราณจะทานติ่มซำกับน้ำชานั่นเอง.โดยหากแบ่งเป็นเมนูหลักๆและ “ติ่มซำ”จะประกอบไปด้วยเมนูอะไรบ้าง
01 จำพวกแผ่นแป้งห่อ
เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมที่สุด ส่วนมากนำแผ่นแป้งมาห่อไส้ไว้ด้านในแล้วนำไปนึ่งหรือทอด.เช่น ขนมจีบ ฮะเก๋า ฝั่นโก๋ เป็นต้น โดยไส้ที่ได้รับความนิยมคือกุ้งสับรวมกับเนื้อหมูแล้วปรุงรสนั่นเอง
➤ ขนมจีบ: เป็นแผ่นเกี๊ยวหรือแผ่นแป้งมาห่อไส้ที่ทำจากเนื้อหมูบดหยาบผสมกับมันหมู เนื้อกุ้ง หรือเนื้อปู อย่างใดอย่างหนึ่ง
➤ ฮะเก๋า:ขนมจีบซึ่งใช้แป้งตังหมิ่นผสมแป้งมันซึ่งทำจากมันสำปะหลังหรือมันฝรั่ง เมื่อสุกดีแล้วแป้งจะเหนียวและใส สามารถมองเห็นไส้ด้านใน ส่วนไส้ด้านในคือเนื้อกุ้ง
➤ ฝั่นโก๋: แป้งทำจากแป้งตังหมิ่นผสมแป้งมันเช่นเดียวกับฮะเก๋า แต่แป้งบางกว่า และปั้นเป็นทรงพระจันทร์เสี้ยว ไส้เป็นหมูสับผสมผัก/หน่อไม้
02 จำพวกแผ่นแป้งม้วน
คือเมนูที่นำแผ่นแป้งมาม้วนไส้ไว้ด้านใน เช่น ก๋วยเตี๋ยวหลอด, เปาะเปี๊ยะทอด เป็นต้น
➤ เปาะเปี๊ยะทอด: แผ่นแป้งบางๆที่ทอดหรือย่างสุก ภายในจะมีไส้หลายชนิด
➤ ก๋วยเตี๋ยวหลอด: การใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวมาห่อและมีไส้ด้านใน รับประทานคู่กับน้ำจิ้มหรือน้ำซอสต่างๆ
03 จำพวกก้อนแป้งกลม
เป็นเมนูที่นำแป้งห่อไส้ให้มีรูปร่างกลมๆ แป้งนุ่มๆหนึบๆ ไม่หนาไม่บางเกินไป ไส้หมูนุ่มๆ ที่มากับน้ำซุปอุ่นๆ ในคำเดียวไปคำเดียว เช่น ซาลาเปาต่างๆ ที่มีไส้ด้านในเช่น ไส้หมูสับ, ไส้ครีม, ไส้หมูแดง หรือ หมั่นโถว ที่เป็นแป้งก้อนกลม ชาวจีนมักทานแทนข้าว
➤ ซาลาเปา: ทำด้วยแป้งสาลีหมักยีสต์หรือผงฟู เป็นต้น ปั้นเป็นลูกกลมแบน ข้างในใส่ไส้ เช่น หมูสับ หมูแดงครีม เป็นต้น แล้วนำมานึ่งสุก
➤ หมั่นโถว : เป็นซาลาเปาที่ไม่มีไส้ มีลักษณะเป็นก้อนกลมสีขาวนวลมักนิยมทานกับข้าวขาหมูด้วย
04 จำพวกก้อนแป้งตัด
เช่น ขนมผักกาด และ กุยช่ายเจี๋ยน เป็นต้น โดยจะเป็นเมนูที่นำแป้งมาห่อไส้ที่แตกต่างกันคล้ายๆเมนูแป้งกลม แต่แป้งของเมนูแป้งตัดจะไม่หนาเท่านั่นเอง โดยจะเป็นแป้งบางๆห่อไส้เอาไว้ โดยบางเมนูก็จะเป็นเมนูทอดหรือนึ่ง
➤ ขนมผักกาด: คือแป้งที่ตัดแบ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์และนำไปกับกระเทียม ไข่ และหัวไชเท้าในซีอิ๊วดำ
➤ กุยช่ายเจี๋ยน: เป็นขนมกุยช่ายแบบติ่มซำ ใช้แป้งตังหมิ่นในการห่อไส้แล้วนำมาทอด
05 จำพวกอื่น ๆ
โดยนอกจากจำพวกหลักๆที่กล่าวมา ติ่มซำก็มีเมนูอื่นๆซึ่งอาจเป็นเมนูเนื้อสัตว์หรือขนมก็ได้ เช่น ฟงจ่าว, ซี่โครงหมู, หล่อไมไก๊,โจ๊กและทาร์ตไข่
➤ ซี่โครงหมู: สไตล์ติ่มซำที่ทำได้ด้วยวัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิด มีรสที่โดดเด่นจากเต้าซี่ หรือก็คือถั่วเหลืองสีดำที่นำไปหมัก
➤ โจ๊ก: เป็นหนึ่งในตำรับอาหารที่ชาวจีน มีความคล้ายข้าวต้มแต่ข้นกว่ามักใส่เนื้อหมูสับ โรยหน้าด้วยใบหอมซอยและขิงอ่อนซอย
➤ ทาร์ตไข่:มีส่วนประกอบหลักคือแป้งพายรอบนอกส่วนตรงกลางมีไข่สังขยา แล้วนำไปอบ
➤ หล่อไมไก๊: ข้าวเหนียวไก่ คล้ายบะจ่างที่คนไทยรู้จักกันดี ต่างตรงที่ข้าวจะนุ่มกว่า และไม่เลี่ยน ไม่มันโปะหน้าด้วยไก่ย่าง
มาดูกัน! ขนมจีบ 6 แบรนด์นี้ แบรนด์ไหนที่คุณชอบ
01 ขนมจีบ จาก เจด ดราก้อน
เป็นแบรนด์อาหารจีนที่รังสรรค์จากการผสานศาสตร์และศิลป์ปรุงขึ้นจากส่วนผสมที่ถูกคัดสรรเป็นพิเศษสดใหม่ สะอาด ปราศจากสารกันเสีย และพิถีพิถันในการผลิตทุกขั้นตอน ผ่านกรรมวิธีแช่เยือกแข็งอย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิ -40 องศา และเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาจึงคงคุณค่าทางอาหาร และรสชาติความอร่อยได้อย่างสมบูรณ์ สามารถเก็บได้นานถึง 18 เดือนนับจากวันผลิต เจด ดราก้อน จึงเป็นแบรนด์ที่นิยมที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อ เนื่องด้วยความใส่ใจในกระบวนการการผลิตและคุณภาพของตัวขนมจีบนั่นเอง
➤ ราคาเริ่มต้น: 240 กรัม/ 97 บาท
02 ขนมจีบ จาก ไดมารู
เป็นแบรนด์ที่ผลิตขนมจีบและอาหารจีนอื่นๆออกมาในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายกับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป เนื่องด้วยมีราคาที่ถูก สามารถจับต้องได้นั่นเอง.โดยขนมจีบไดมารูนั้นจะมีหลายไส้ และมีแป้งห่อทั้งแบบปกติทั่วไปและแบบแป้งหยกให้เลือกสรร
➤ ราคาเริ่มต้น: 6 ชิ้น/ 43 บาท
03 ขนมจีบ จาก สุรพลฟู้ดส์
“ขนมจีบกุ้ง สุรพลฟู้ดส์” ถือเป็นเมนูติ่มซำยอดนิยมอันดับ 1 ของแบรนด์.ด้วยภาพลักษณ์ของขนมจีบหรือเมนูอื่นๆที่ถูกผลิตออกมาแบบพรีเมี่ยม เช่น ขนมจีบจักพรรดิ์ ฮะเก๋ากุ้ง รวมไปถึงซาลาเปาต่างๆ ก็จะคัดสรรวัตถุดิบที่ทีคุณภาพ อีกทั้งซื้อได้ง่ายจากร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้านั่นเอง
➤ ราคาเริ่มต้น: 192 กรัม/ 119 บาท
04 ขนมจีบ จาก โลมาเชฟ
เป็นอีกแบรนด์ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ในด้านของรสชาติและขนาดของขนมจีบมักจะทำในรูปแบบที่ใหญ่กว่าปกติเพื่อเน้นในเรื่องของรสสัมผัสของวัตถุดิบที่นำมาทำขนมจีบ.โดยแบรนด์โลมาเชฟนั้นจะโดดเด่นในเรื่องของขนมจีบกุ้ง และผลิตออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถทำรับประทานเองได้ง่ายๆด้วยตนเอง
➤ ราคาเริ่มต้น: 210 กรัม / 110 บาท
05 ขนมจีบ จาก เอโร่ (aro)
“aro” หรือ “เอโร่” หนึ่งในแบรนด์สินค้าของห้างสยามแม็คโคร ซึ่งเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมอีกเช่นเดียวกัน เนื่องจากหาซื้อได้สะดวกและยังเป็นแบรนด์ที่ผู้ซื้อต่างบอกว่าราคาสบายกระเป๋า.โดยทางแบรนด์นั้นจะทำขนมจีบออกมาให้มีหลากหลายขนาดเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ตามความสะดวกของตนเอง โดยมีทั้งแป้งห่อขนมจีบแบบธรรมดาและแบบแป้งหยก ซึ่งที่นิยมจะเป็นขนมจีบไส้หมู ซึ่งสามารถแช่แข็งและสามารถทำได้เองตามสะดวกที่บ้าน
➤ ราคาเริ่มต้น: 70 ชิ้น 6 แพ็ค / 1,650 บาท
06 ขนมจีบ จาก โชกุน
เน้นการทำขนมจีบให้มีหลากหลายรูปแบบโดยมีทั้งขนมจีบแบบดั้งเดิม ขนมจีบสาหร่ายและขนมจีบปูอัด เพื่อนำเสนอรสชาติให้มากขึ้นและราคาที่เข้าถึงได้.อีกทั้งยังเปิดเฟรนไชน์ให้มีหลายสาขา เพื่อให้เข้าถึงตลาดผู้บริโภคได้ง่ายและมากขึ้นทำให้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยนั่นเอง
➤ ราคาเริ่มต้น: 1 ถุง (100 ลูก) / 250 บาท(ราคาขายส่ง)
รวม 5 ร้านติ่มซำ ที่คนรักติ่มซำไม่ควรพลาด
01 โชคดีติ่มซำ
"โชคดีติ่มซำ เรสเตอรองค์” ได้เปิดบริการบนถนนบรรทัดทอง ( จุฬาซอย 12 ) เป็นสาขาแรกในปี พ.ศ. 2543 เป็นเจ้าแรกในกรุงเทพมหานครที่มีแนวคิดในการนำเสนอติ่มซำรูปแบบใหม่นั่นคือ ติ่มซำนึ่งสดสด ซึ่งเป็นสูตรลับที่ถ่ายทอดกันมาเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น.หลังจากเปิดดำเนินการที่สาขาแรกได้ไม่นานปรากฏว่ามีผลตอบรับในทางที่ดีอย่างมากและลูกค้าที่ได้มีโอกาสแวะเวียนมารับประทานที่ร้านก็จะกลายเป็นลูกค้าประจำ และ มีการบอกต่อกันอย่างกว้างขวางถึงความสดและอร่อยที่ไม่เหมือนใคร จนในที่สุดก็ขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันกว่า 25 สาขา
02 T-time
ติ่มซำร้าน “T-time” เป็นร้านติ่มซำแช่แข็งส่งออกตามภัตตาคารภายในประเทศ แต่สังคมเมืองทุกวันนี้ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ จึงเริ่มตีตลาดเปิดช๊อปตามสาขาต่างๆ เพื่อต้องการให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารในทุกๆมื้อ ในราคาถูก.โดย T-time ติ่มซำนั้นจะมุ่งเน้นในการทำสินค้าที่ลูกค้าสามารถซื้อกลับไปทำที่บ้านได้ด้วยตนเอง ซึ่งหากไม่ได้เดินทางมาที่สาขาแต่ก็สามารถทานติ่มซำจากทางแบรนด์ได้เช่นกัน
03 ฮั่ว เซ่ง ฮง
ติ่มซำฮั่วเซ่งฮง เริ่มต้นธุรกิจขายอาหารจีนในปี พ.ศ. 2510 จากอาคารพาณิชย์บนถนนเยาวราชซึ่งเป็นแหล่งทำมาค้าขายของชาวจีนตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ในระยะแรกฮั่วเซ่งฮง ได้จำหน่ายกระเพาะปลา และมีอาหารจีนเพียงไม่กี่เมนู ต่อมาในปี พ.ศ. 2514ได้พัฒนารูปแบบและรูปลักษณ์ของร้านในการจำหน่ายสินค้าให้มีความทันสมัย โดยมีการปรับเปลี่ยนเมนูให้มีความหลากหลายมากขึ้นและได้กลายเป็นร้าน ฮั่ว เซ่ง ฮง ติ่มซำ ในที่สุด
04 ติ่มซำอาหลง
จากจุดเริ่มต้นที่รุ่นบุกเบิกของแบรนด์ทำธุรกิจห้องเย็นซีฟู้ด สั่งสมประสบการณ์มากว่า 22 ปี และทำติ่มซำมา 18 ปี ในโรงงานของครอบครัวได้หันมาทำธุรกิจติ่มซำแช่แข็งอย่างเต็มตัวซึ่งสานต่อโดยรุ่นหลานๆ ซึ่งได้ผลักดันให้แบรนด์เป็นตัวแทนหาติ่มซำส่งตามโรงแรมใหญ่ และผลิตขายเองจนมาเป็น “ติ่มซำ อาหลง” แบรนด์ติ่มซำที่รสชาติอร่อยถูกปากของลูกค้าที่ได้ลิ้มลอง.โดยจุดแข็งของติ่มซำ อาหลง คือเรื่องของ “รสชาติสไตล์ฮ่องกง และปริมาณของสินค้า” ที่ถึงแม้จะเป็นติ่มซำแช่แข็ง แต่รสชาติและคุณภาพยังคงเดิมนั่นเอง
05 ตี๋เล็ก ขนมจีบ-ซาลาเปา
จุดเริ่มต้นมาจากความตั้งใจต่อยอดธุรกิจของครอบครัว ซึ่งทำติ่มซำขนมจีบ ซาลาเปามากว่า 30 ปี และมีความคิดที่อยากจะให้ผู้คนรู้จักและได้ลิ้มรสขนมจีบซาลาเปามากขึ้น จึงขยายสินค้าโดยการสร้างแบรนด์ขึ้นมา.โดยตี๋เล็ก ขนมจีบ-ซาลาเปาจะมุ่งเน้นในการเปิดสาขาเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายอีกทั้งยังจัดจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยาว์ และมีเมนูให้เลือกหลากหลาย และเหตุผลนี้เองจึงทำให้ ตี๋เล็ก ขนมจีบ-ซาลาเปา กลายเป็นแบรนด์ร้านติ่มซำที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ร้านอื่นๆ
#ติ่มซำ #dimsum
#EDTInsider #SEARCHING #SIGNATURE
#เพราะเราเชื่อว่าทุกอย่างมีลายเซ็นต์ #EDTGUIDE