ชาไทยแสนอร่อยที่หลายคนโปรดปรานได้รับการจัดอันดับให้เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่อร่อยอันดับ 7 ของโลก ถือว่าชาไทยของเราได้โด่งดังไปทั่วโลก และทำให้คนไทยภูมิใจมาก✨

.

ชาไทยสีส้มที่คนไทยคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานนี้ได้รับการยอมรับในความอร่อยระดับต้น ๆ ของโลก แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าต้นกำเนิดของชาสีส้มใส่น้ำแข็งหวาน ๆ เย็น ๆ ชื่นใจแก้วนี้ มาจากไหน วันนี้ edtguide จะเปิดประวัติชาไทยให้ทุกคนได้รู้ความเป็นมากัน😄

.

“ชาไทย (Thai Tea)” นั้น คนไทยไม่ได้ตั้งชื่อแบบนี้มาแต่แรก แต่เป็นชื่อที่ชาวต่างชาตินิยมเรียกกัน เพราะเป็นเครื่องดื่มชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหาดื่มได้ในประเทศไทยเท่านั้น

.

ประวัติศาสตร์การดื่มชาของคนไทย พบว่าคนไทยน่าจะรู้จักการดื่มชามานานแล้ว พบบันทึกเกี่ยวกับการดื่มชาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยมีจดหมายเหตุของ “ลาลูแบร์” (ปี พ.ศ. 2230) ได้พูดถึงวัฒนธรรมการดื่มชาในสยามประเทศไว้ว่า..“ชามีให้ดื่มกันเฉพาะในเมืองหลวง ช่วงนั้นคนไทยรู้จักดื่มชากันแล้ว และชอบชงน้ำชารับแขก คนสยามไม่ใส่น้ำตาลในชา ดื่มชาร้อนๆ แบบคนจีน การปฏิเสธไม่ดื่มชาในสยามถือว่าไม่มีมารยาท ต้องนั่งดื่มกันเมื่อได้รับการเชื้อเชิญ”

.

ในช่วงแรกๆ คนไทยมีการดื่มชากันเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูง และใช้สำหรับถวายพระเป็นส่วนใหญ่ โดยนิยมดื่มแบบไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล แต่ต่อมาคนไทยได้รับอิทธิพลวิธีดื่มชาแบบ “อินเดีย” เข้ามาด้วย ยุคต่อมาจึงมีการดื่มชาแบบใส่นมและน้ำตาล โดยดื่มเป็นชาร้อนเป็นหลัก🫖

.

จากนั้นในปี พ.ศ. 2436 ประเทศไทยเริ่มมีผู้ประกอบการวางขาย “นมข้นหวานตราแหม่มทูนหัว” ทำให้วัฒนธรรมการดื่มชาแบบใส่นมยิ่งเพิ่มขึ้น และคนทั่วไปก็ดื่มกันอย่างแพร่หลาย ต่อมาปี พ.ศ. 2446 มีการจัดตั้งโรงน้ำแข็งเป็นแห่งแรก ทำให้น้ำแข็งเข้าไปเพิ่มความเย็นสดชื่นให้กับหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม รวมถึงเกิดเมนู “ชาเย็น” ขึ้นมาในยุคนี้ด้วย🧊

.

แต่ยุคที่ถือเป็นต้นกำเนิดของ “ชานมสีส้ม” จริงๆ น่าจะเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2488 เนื่องจากเป็นปีที่ “ชาตรามือ” ถือกำเนิดขึ้นมาในไทย โดยเจ้าของแบรนด์เป็นชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในเมืองไทย และทำธุรกิจนำเข้าใบชาจากเมืองจีน🍂

.

โดยในปีนั้น ชาตรามือได้นำเข้า “ชาแดง” เข้ามาขายเป็นครั้งแรก โดยนำมาชงเป็นชาไทยใส่นม (ชาส้ม) และชาดำ ซึ่งปรากฏว่าถูกปากคนกินสมัยนั้น แถมยังราคาถูก ทำให้ชานมสีส้มหรือชาไทยกลายเป็นเมนูเครื่องดื่มมาตรฐานที่หาซื้อได้ทั่วไปในทุกๆ ร้านกาแฟตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

.

ปัจจุบัน “ชาไทย” ตามร้านเครื่องดื่มทั่วไป ถูกปรับแต่งและมีการเลือกใช้ใบชาที่แตกต่างกัน บางร้านใช้ชาแดงอัสสัม บางร้านใช้ชาซีลอน หรือบางร้านก็ใช้ใบชาทั้งสองอย่างผสมกัน แต่สูตรการชงที่เหมือนกันมาทุกยุคทุกสมัยก็คือ มีการใส่นมและน้ำตาลเข้าไป เพื่อเพิ่มความหวานมัน และนิยมดื่มแบบเย็นมากกว่าแบบร้อน หวานอร่อย เย็นสดชื่นเหมาะกับอากาศบ้านเราสุด ๆ สาวกชาไทยต้องไปจัดกันสักแก้วแล้วล่ะวันนี้🥤

ติดตามช่องทาง edtguide เพิ่มเติมได้ที่
💻เว็บไซต์ : www.edtguide.com
🎥Youtube : edtguide
📱Line@ : @edtguide
📸IG : edtguide
💃TIKTOK : edtguide
.
.
Finding your passion

#เพราะเรารู้ว่าคุณก็อยากรู้#edtguide #มาที่เดียวได้ทั้งเที่ยวได้ทั้งกิน #รีวิวกับedt #รีวิวที่เที่ยว #รีวิวที่กิน #ไปเที่ยวก็อยากกิน #ไปกินก็อยากเที่ยว