ชี้เป้า! 6 ร้านเด็ด ที่ต้องตามไปกิน ที่ The Street Ratchada อยู่ไม่ไกล MRT

ถนนรัชดาภิเษก คือ ถนนที่ไม่เคยหลับใหลและมีสีสันแห่งไนท์ไลฟ์ไม่แพ้ถนนเส้นอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีออฟฟิศ ตลาด สถานบันเทิง และไนท์มาร์เก็ต ซึ่งแต่ละที่ก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน เมื่อไม่นานมานี้ มีห้างแห่งใหม่เปิดให้บริการภายใต้ชื่อ The Street Ratchada ตั้งอยู่บริเวณแยกศูนย์วัฒนธรรม วันนี้เลยถือโอกาสแวะมาเยือนกันสักหน่อย ได้ข่าวว่าที่นี่มีร้านอร่อยๆ น่าสนใจเพียบ ลงรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม ทางออกที่ 4 เดินเล่นชิลล์ๆ แป๊บเดียว นี่ไง...ถึงแล้ว The Street Ratchada ...

ห้าง The Street Ratchada แห่งนี้โดดเด่นกว่าห้างอื่นๆ ก็ตรงที่มีร้านเปิด 24 ชั่วโมงอยู่หลายร้าน จะแวะมาหาทานอาหารมื้อเช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ จะแวะมาแฮงเอาท์ แวะทานมื้อดึก หรือจะแวะมาช้อปปิ้ง มาซื้อของที่ FOODLAND ก็สะดวกสบายในทุกๆ ช่วงเวลา ที่จอดรถก็เยอะ มารถไฟฟ้า MRT ก็ง่าย รถเมล์ก็ผ่านหลายสาย คือ ดีอ่ะ!

โบว์ชัวร์ที่นี่ น่าจะช่วยให้เราหาร้านอร่อยได้ง่ายขึ้น ว่าแต่เราจะเริ่มกันที่ชั้นไหนก่อนดี ในโบว์ชัวร์บอกว่า หลักๆ แล้วร้านอาหารของที่นี่ จะอยู่บริเวณ ชั้น G, ชั้น 1 และชั้น 4 เริ่มกันที่ ชั้น G ก่อนเลยละกัน

FU.5 Coffee

เรามาชี้เป้าร้านเด็ด! ร้านแรกกันเลยดีกว่า กับร้าน FU.5 Coffee

คาเฟ่สุดโมเดิร์นเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง บรรยากาศภายในร้านตกแต่งในสไตล์ Rustic Modern เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ตกแต่งแบบอาร์ตๆ เท่ๆ ดูดีมีสไตล์ มีมุมให้เลือกนั่งทั้งแบบชิลล์ๆ จะชวนก๊วนเพื่อนมาพบปะพูดคุย หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมานัดคุยงานนอกสถานที่ ร้านนี้ตอบโจทย์ได้ทุกแนว

ที่นี่เค้ามีให้บริการทั้ง ชา กาแฟ เมนูคาว-หวาน ครบ! เมนูทานเล่นเมนูแรก คือ โบลองเนสดิป แป้งตอติญ่าทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสเนื้อโคขุนรสชาติเข้มข้น

ตามมาติดๆ กับ สปาเก็ตตี้เบคอน ที่ต้องบอกเลยว่าใครชอบทานเบคอนต้องถูกปากแน่นอน เส้นสปาเก็ตตี้ก็นุ่มมาพร้อมเบคอนทอด เพิ่มความหอมด้วยพริกแห้ง กระเทียม น้ำมันมะกอก รสชาติเข้มข้นลงตัว

ส่วนจานนี้เมนูสลายความหิว ชิคเก้นวาฟเฟิล ที่ใครจะเชื่อว่าไก่ทอดหมักสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน กับวาฟเฟิลหอมๆ จะรสชาติเข้ากันดีขนาดนี้

ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ อย่างลาเต้เย็น ซัมเมอร์แอสบีกัน และชาเขียวปั่น

Little Hong Kong

หนักท้องขึ้นมาอีกนิดกับร้านอร่อยสไตล์ฮ่องกง ของคุณเวฟ คูเป่ยจง นักแสดงและพิธีกร แห่งช่อง GMMTV ที่ทำธุรกิจร้านอาหารมานานกว่า 6 ปี แค่ก้าวเข้ามาก็สะดุดตากับสไตล์การตกแต่งที่สวยงามหรูหรา ด้วยโทนสีสดใส

เมนูแนะนำ ของร้าน Little Hong Kong เริ่มต้นที่ ถั่วแขกผัดหมูสับ เมนูเบาๆ ยอดฮิตที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะ โจ๊กหมูสับไข่เยี่ยวม้าหม้อดิน สูตรฮ่องกง เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้ข้าว 3 ชนิด เคี่ยวนาน 5-6 ชั่วโมง เพื่อความนุ่มลงตัว อร่อย ละมุนลิ้น

ข้าวผัดหอยเชลล์กับซอส XO อร่อยลงตัวด้วยรสชาติซอสที่ขึ้นชื่อจากฮ่องกง ผัดแบบแห้งๆ ข้าวเรียงเม็ดสวย มีกลิ่นหอมๆ มาเตะจมูก

มองแว๊บแรก หลายคนอาจจะคิดว่านี่คือ ขนมจีบ แต่จริงๆ แล้ว คือ เมนูก๋วยเตี๋ยวหลอด Little Hong Kong เมนูใหม่ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ด้านในเป็นกุ้งสดตัวโตห่อด้วยแผ่นรังนก ที่ทำมาจากแป้งสูตรพิเศษ และห่ออีกชั้นด้วยแป้งนุ่มๆ ราดซอสนิดหน่อยก็อร่อยได้ทันที

ไข่หงส์ลาวากรอบ เป็นการมิกซ์เมนูไข่หงส์แบบไทยๆ มาคู่กับไข่เค็มลาวา นับว่าเป็นเมนูใหม่ที่อร่อยจนอยากจะบอกต่อ

Little Hong Kong
ชั้น G The Street Ratchada
เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร. 0 2121 1998, 0 81143 1668

ถัดมาคือ So Asean เป็นการรวมตัวของอาหารจากทุกประเทศในอาเซียนมาให้คนไทยได้ลิ้มลอง

อาเซียนสะเต๊ะ จานนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะเป็นการรวมของไก่ย่างซัมบัล+ไก่ย่างกะทิ+สันคอหมูย่างแจ่ว+สันคอหมูย่างสมุนไพร จานเดียวอร่อยกับหมูสะเต๊ะและไก่สะเต๊ะ 3 สัญชาติ (อินโดนีเซีย-ไทย-ลาว)

ของหวานยอดนิยมของร้านนี้ คือ โทสต์ไอศกรีมชาเย็นเมอแรง พิเศษตรงที่มีไอศกรีมวานิลลาอยู่ด้านใน ขนมปังจะกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันกับความเข้มข้นของชาไทยที่เสิร์ฟมาคู่กัน

และนี่ คือ กาแฟดริปเวียดนาม ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วบดที่ในสไตล์เฉพาะตัว มีกลิ่นหอมๆ หวาน เข้ม กำลังดี


So Asean
ชั้น 1 The Street Ratchada
เวลาทำการ โซนคาเฟ่ บริการเครื่องดื่มและของหวาน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โซนร้านอาหารเปิด 10.00-22.00 น.
โทร. 0 2121 1909

เฝอ บาย ตำมั่ว

ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 4 กันบ้าง กับร้านเด็ดที่เรากำลังจะแนะนำ ต้องบอกก่อนเลยว่า ที่ชั้น 4 ของห้าง The Street Ratchada แห่งนี้ รวบรวมร้านอร่อยเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟู้ดคอร์ท ที่เหมาะกับชาวออฟฟิศในย่านนี้ และยังมีร้านอร่อยอีกหลายแบรนด์ กวาดสายตาไปรอบๆ ก็สะดุดตากับร้าน เฝอ บายตำมั่ว ร้านอาหารสไตล์ไทย-อีสาน ที่ผสมผสานเมนูอาหารเวียดนามเอาไว้ด้วย แค่เปิดดูเมนูก็น้ำลายสอซะแล้วสิ น่ากินทั้งนั้นเลย

ปลากะพงทอดน้ำปลาตัวใหญ่ๆ เค้าก็มีนะ และที่ไม่เหมือนใครก็ตรงที่เสิร์ฟมาพร้อมส้มตำนี่ละ

จานนี้เมนูใหม่ แซ่บนัวคั่วไก่ เป็นการนำเอ็นข้อไก่มาชุบแป้งทอดแล้วคลุกเคล้ากับน้ำยำและน้ำจิ้มแจ่ว หน้าตาและสีสันก็ว่าน่ากินแล้ว รสชาติก็ยิ่งถูกใจ คือ แซ่บ อ่ะ!

ยังไม่หมดแค่นี้ ร้านนี้ยังมีเมนูเด็ดๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ต้มแซ่บซี่โครงอ่อน รสชาติจี๊ดจ๊าดได้ใจเรามากๆ

Sushi OO

Sushi OO "ดับเบิ้ลซูชิเจ้าแรกในไทย” ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ที่นี่เค้ามีจุดเด่นตรงที่หน้าซูชิ 2 ชั้น หรือเทียบเท่าปริมาณเป็น 2 เท่าของซูชิปกติทั่วไป แถมคุณภาพปลายังสดส่งตรงจากตลาดปลาซึกิจิ นอร์เวย์ ฝรั่งเศส ในราคาที่สามารถสัมผัสได้ ซูชิของที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ 40-380 บาท

เริ่มต้นด้วยเมนูซิกเนเจอร์นั่นก็คือ Double Sushi ที่มีมาให้เลือกกว่า 150 เมนู ไม่ว่าจะเป็น โอโทโร่ ชูโทโร่ ปลาทูน่า แซลมอน ปลาไหลย่าง และอื่นๆ อีกมากมาย

ซาชิมิดับเบิ้ลโอ เสิร์ฟมาแบบจัดหนักจัดเต็ม จัดเรียงวางมาอย่างสวยงาม จานนี้ราคา 899 บาทเท่านั้น

ส่วนเมนูเบาๆ สบายท้องก็มีให้ลิ้มลองเช่นกัน จานนี้คือ สลัดเต้าหู้เหลี่ยม เนื้อเต้าหู้นุ่มๆ ตัดกับความกรุบกรอบของผักสดๆ และรสชาติน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้าน ลงตัวเข้ากันเป็นที่สุด

Salad Selection

ดีต่อใจกับเมนูเฮลท์ตี้ สำหรับคนรักสุขภาพ Salad Selection ตั้งอยู่ชั้น 4 ใกล้กับ Food Court เป็นร้านอาหารที่เน้นเมนูสลัด โดยสามารถเลือกทานได้ทั้งแบบที่จัดเซ็ตเตรียมไว้ให้ หรือจะมิกซ์แอนด์แมทช์แบบตามใจก็ได้เช่นกัน ตั้งแต่การเลือก สลัด น้ำสลัด Topping ได้ตามความชอบ