เพื่อนๆ เป็นเหมือนเรากันไหมน๊า?? ว่างเมื่อไหร่ ชอบนัดเพื่อนสาว ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันเป็นประจำ ยิ่งตอนนี้มีร้านเก๋ๆ ที่เช็คอินใหม่ ๆ ก็ยิ่งเข้าทาง
ไหนๆ ก็เหนื่อยกับการทำงานมาเยอะแล้ว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ถือโอกาสนัดเพื่อนมาเจอกัน แม้บางคนจะว่างบ้างไม่ว่างบ้างก็ไม่เป็นไร ร้านต่างๆ ที่พวกเราไปส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่ดูดีมีสไตล์ แม้ว่าบางร้านจะไกลบ้าน ก็ไม่ใช่อุปสรรค ขอแค่ไปถึงร้านแล้ว มีอาหารอร่อยๆ มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายภาพ เราว่าแค่นี้ก็คุ้มแล้ว
และนี่คือ 15 ร้าน 15 สไตล์ ที่มีความ Extra ในสไตล์ของตัวเอง Recommended by Extra gum พวกเราชอบก็เลยอยากบอกต่อ เพื่อนๆ ลองมาติดตามกันดูนะคะ ว่าร้านไหนจะโดนใจเพื่อนๆ บ้าง
Eatdustry
พวกเรามีโอกาสแวะที่ร้าน Eatdustry ย่านทองหล่อ ร้านนี้เก๋ทั้งในเรื่องการตกแต่งและความหลากหลายของเมนูอาหาร เมนูเด็ดของร้านนี้ คือ อาหารโฮมเมดสไตล์อเมริกันที่ใส่ใจทุกๆ ขั้นตอนในการปรุง เวลามีนัดกับลูกค้าแถวนี้ก็จะแวะมาฝากท้องที่นี่ประจำ
ที่มาของชื่อร้าน Eatdustry คือ การผสมผสานระหว่าง Eat และ Industry "ความ Extra ของร้านนี้ก็คือ" เจ้าของร้านเป็นสถาปนิก ทำให้ตกแต่งร้านออกมาอย่างโดดเด่น พร้อมการจำลองบรรยากาศแบบแคลิฟอร์เนียคล้ายๆ กับการนั่งอยู่ในคาเฟ่เมืองนอก ด้านในตกแต่งโดยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนชั้นวางของถูกตกแต่งด้วยกระสอบ กระถางต้นไม้ และตะกร้า แสงไฟที่ผ่านเข้ามาในตอนกลางคืน ทำให้โซนนี้ดูโดดเด่นขึ้นมา โซนด้านนอกเป็นโซนเอาท์ดอร์ชิลล์ๆ เหมาะกับคนชอบบรรยากาศแบบ Open Air
เมนูที่พวกเราเคยสั่งก็ คือ Waffle Egg Bacon Sandwich วาฟเฟิลเนื้อหนานุ่ม สอดไส้ออมเลต เบคอน ผักสลัด เสิร์ฟกับซีซาร์สลัด จะทานเป็นอาหารเช้า หรือจะทานเป็นอาหารจานหลัก ได้หมด
หนักท้องขึ้นมาหน่อยกับเบอร์เกอร์หลากชนิด ทางร้านจะใช้ขนมปังชาร์โคลสีดำ อัดแน่นมาด้วยเครื่องเน้นๆ เป็นอีกเมนูที่อร่อยอิ่มท้อง
จานนี้คือ Smoke Salmon Benedict เสิร์ฟมาคู่กับสลัด เด่นที่ปลาแซลมอนคุณภาพดีและขนมปังเนื้อนุ่ม จะสั่งมาอิ่มอร่อยมื้อไหนได้หมด
Eatdustry
ที่อยู่ 555/55 ระหว่างซอยทองหล่อ 19 - 21 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 21.00 น.
โทร. 0 2185 1842, 09 0627 0888
Ban Ya Kaad (บัน ยา กาด)
ภายในซอยประดิพัทธ์ 10 ย่านสะพานควาย มีร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น ใช้ชื่อเท่ๆ ว่า Ban Ya Kaad
โลเคชั่นของที่นี่ ดัดแปลงมาจากบ้านหลังไม้หลังเก่าที่ทรงคุณค่า ตกแต่งใหม่ให้ดูอบอุ่น ด้วยตัวบ้านสีขาว ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และบ่อน้ำที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูดีเหมือนชื่อร้าน
ที่นี่มีหลายโซน เริ่มจากโซนทานอาหารในห้องกระจกใส โซนเครื่องดื่มที่ตกแต่งแนวเรโทร แต่ไฮไลต์อยู่ที่โซนสระบัวข้างบ้าน ที่ตกแต่งให้ได้นั่งเอนหลังชิลล์ๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่
เมนูเด่นของร้านนี้ คือเมนูอาหารไทยรสจัดจ้านที่หลายคนติดใจ แนะนำให้ลอง ไม่ว่าจะเป็น เย็นตาโฟทรงเครื่อง, ข้าวผัดน้ำพริก, น้ำตกหมู, เต้าหู้ทอดชีส
Ban Ya Kaad (บัน ยา กาด)
ที่อยู่ ซอยประดิพัทธ์ 10 ถ.ประดิพัทธ์ สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ
เปิดวันอังคาร-เสาร์ เวลา 11.30-22.30 น., อาทิตย์ 11.30-21.00 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร. 0 2279 1113, 06 2364 2466
T House Music Bar & Restaurant สาขา นวลจันทร์
พวกเราชอบทานอาหารหลากหลายแนว ชอบลองร้านใหม่ไปเรื่อยๆ วันนั้นเพื่อนอยากทานอาหารเวียดนามขึ้นมา ก็เลยนึกถึงร้านอาหารเวียดนามสุดพรีเมียมอย่างร้าน T House เราเคยแวะไปทานที่ร้านนี้มาบ้าง แต่พอรู้ว่า T House เปิดสาขาใหม่ ที่ ซ.นวลจันทร์ ซึ่ง Extra กว่าสาขาอื่นๆ ตรงที่มีมิวสิคบาร์เพิ่มเข้ามา พวกเราเลยแวะไป ร้านอาหารร้านนี้ดูมีสไตล์ต่างจาก T House ที่เราเคยรู้จัก นอกจากจะแวะมาทานอาหารอร่อยๆ แล้ว ยังมีดนตรีเพราะๆ ให้ฟังด้วย
ด้วยคุณภาพของวัตถุดิบที่ส่งมาจากเวียดนาม และความอร่อยแบบต้นตำรับชาววัง และนอกจากจะมีอาหารเวียดนามแล้ว ยังมีอาหารไทย จีน อิตาเลียน ให้พวกเราได้เลือกด้วย แต่มาร้านนี้ไม่ทานอาหารเวียดนามก็ดูจะแปลกไปสักหน่อย แหนมเนือง ของที่นี่ บอกได้เลยว่าไม่เหมือนที่อื่น ทั้งแป้ง หมู ผัก และน้ำจิ้ม คัดสรรและปรุงมาเป็นอย่างดี
ส่วนจานนี้ เส้นหมี่หมูย่าง เนื้อหมูหมักจนเข้าเนื้อ นำไปย่างบนเตาถ่าน ทานคู่กับน้ำจิ้ม ผัก และเส้นหมี่นุ่มๆ อร่อยเพลินจนหมดจานแบบไม่รู้ตัว
และยังมีเมนู ปูผัดผงกะหรี่ เด็ดที่ความสดของเนื้อปูและความเข้มข้นของรสชาติ
T House Music Bar & Restaurant สาขา : นวลจันทร์
ที่อยู่ : 99/107 นวลจันทร์ บึงกุ่ม กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.30 - 24.00 น., เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 12.00 - 24.00 น.
โทร. 0 2101 9795-6, 09 9385 4071
House 10 สาขา Eight Thonglor
เรารู้จักร้าน ร้าน House 10 ด้วยความบังเอิญ เพื่อนในไทม์ไลน์แชร์ร้านนี้ใน Facebook ร้าน House 10 อยู่ภายในตึก Eight Thonglor มาพร้อมการตกแต่งสไตล์ยุโรป ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โครงเหล็ก บันไดวน ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในปราสาทร้างที่ไหนสักแห่ง ไม่ว่าจะแวะมาในช่วงกลางวันหรือกลางคืนก็ได้บรรยากาศแปลกใหม่บอกได้คำเดียวว่า พวกเราชอบร้านนี้มาก ยกให้เป็นร้านที่มีความ Extra ในเรื่องของสไตล์การตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากการตกแต่งจะดูน่าค้นหาแล้ว ยังคาดไม่ถึงว่าอาหารทั้งร้านจะเป็นอาหารไทยทั้งหมด แถมตอนกลางวันยังมี Set Lunch ไว้เอาใจคนออฟฟิศด้วย เข้าทางเราอีกแล้ว
เมนูเด็ด เริ่มจาก หมูกรอบบู๊ลิ้ม เป็นหมูกรอบทอด นำไปผัดกับพริกเกลือและผงพะโล้ เวลาทานแค่บีบมะนาวลงไปแค่นี้ก็อร่อยครบรส
อีกจานที่พลาดไม่ได้ คือ ยำถั่วพู แค่เมนูนี้มาเสิร์ฟก็สัมผัสได้ว่า รสชาติจะต้องเข้มข้นแน่ๆ เครื่องปรุงก็ให้มาแบบไม่หวงเครื่อง
แกงส้มกุ้งไข่เจียวดอกโสน เป็นการปรุงแกงส้มดอกโสน ออกรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด แล้วน้ำไข่เจียววางมาด้านบน ให้ความรู้สึกเหมือนทานแกงส้มและไข่เจียวพร้อมกันในเมนูเดียว นับเป็นการนำเสนอที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ในช่วงวันพุธ-อาทิตย์ ทางร้านมีดนตรีสด ช่วงเวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป เน้นเพลงไทยฮิตๆ ให้ได้ฟังกันด้วย
House 10 สาขา Eight Thonglor
ที่อยู่ 88/36 ชั้น G ตึก Eight Thonglor คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 01.00 น.
โทร. 08 1837 1133 , 0 271 49515
Ladurée
พอรู้ว่า ผู้นำด้านมาการองจากฝรั่งเศสเปิดร้านอาหารสาขาแรกในเมืองไทย บริเวณชั้น M ของห้างสยามพารากอน โดยยกเมนูความอร่อยและการตกแต่งที่สวยงามตามแบบต้นแบบของร้าน Ladurée ที่ฝรั่งเศส ท่ามกลางบรรยากาศ French Vintage มาตรฐานเดียวกับร้านอาหารที่ฝรั่งเศส Extra ขนาดนี้ ขอไปลองสักหน่อย
เมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลาย อาทิ ออมเล็ตมีให้เลือก 3 แบบ คือ Omelette Nature, Omelette Concorde, Omelette Ladurée เมนูนี้สั่งได้ทั้งวัน
เมนูของที่นี่ หลากหลาย โดยเฉพาะ Foie Gras De Canard คนรักฟัวกราส์อย่างเรา กรี๊ดหนักมาก ทางร้านจะนำฟัวกราส์ไปปรุงจนออกมาเนื้อเนียนน่าทาน มาการอง รสชาติจะออกมัน ๆ ตัดกับความเปรี้ยวของซอสมะม่วง
ส่วนจานนี้คือ แซนด์วิชซิกเนเจอร์ของร้านที่เรียกว่า Club Ladurée ด้านในเป็นอกไก่ ไข่ต้ม มะเขือเทศ ผักสด เสิร์ฟพร้อมร็อคเกตสลัด
Ladurée
ที่อยู่ : ชั้น M สยามพารากอน ถ.พระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.
โทร. 0 2129 4773
People On Pause Café
People On Pause Cafe เป็นของคุณเป๊ก วง Zeal กับเพื่อนๆ ศิลปิน ในฐานะแฟนเพลง เลยขอไปเยือนแบบไม่รอช้า
ที่นี่เป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร และแหล่งแฮงเอาท์หลังเลิกงาน ด้วยคอนเซ็ปต์ Inspiration Cafe ที่ลูกค้าสามารถมานั่งจิบชา กาแฟ ทานเค้ก ทานอาหารในช่วงกลางวัน หรือจะเลือกเป็นสถานที่พักผ่อน พบปะเพื่อนฝูง ใครจะเลือกที่นี่เป็นที่จัดงานเลี้ยงเล็กๆ สังสรรค์ในกลุ่มคนสนิทก็เก๋ไปอีกแบบ ในร้านมีมุมดนตรีสด ที่เจ้าของร้านและเพื่อนๆ ศิลปินจะมาแจมกันอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่าแวะมาร้านนี้ มีเซอร์ไพรส์แน่นอน Extra แบบนี้ โดนใจมากๆ
เมนูแนะนำร้านนี้มีหลากหลาย อาทิ Smoke Salmon Salad, BBQ Pork Spare Ribs รวมถึงสปาเก็ตตี้อร่อยๆ รวมถึงเค้กอร่อยๆ
People On Pause Café
ที่อยู่ : 108 ซ.ลาดพร้าว-วังหิน 8 ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 24.00 น.
โทร. 0 2019 1303 , 08 8583 9060
Kanta Cafe
สาวๆ สายแฟชั่นอย่างเรา พอรู้ว่ามีร้านอาหารที่มีเสื้อผ้าให้ช้อปด้วยก็สนใจขึ้นมาทันที เหมือนไปร้านเดียวแล้วได้ทำสองอย่างพร้อมกัน ร้านเก๋ๆ ร้านนี้ ชื่อว่า Kanta Cafe ย่านเลียบด่วนรามอินทรา
ร้านนี้เป็นร้านสีขาว ตกแต่งแนววินเทจ เหมาะกับสาวๆ อย่างเราๆ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า จานเพ้นท์ลายเก๋ๆ และ Accessory ระหว่างรออาหารก็เดินเลือกเสื้อผ้ากันเพลินๆ ตัวร้านเป็นสีขาว แต่ทางร้านเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีสดใส ทำให้ร้านดูมีสีสัน ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
เมนูที่ห้ามพลาด คือ ปลากะพงยำสมุนไพร นอกจากจะเด่นที่ เนื้อปลาสดๆ ที่นำมาทอดจนเหลืองกรอบแล้ว ทางร้านยังเลือกใช้แอปเปิ้ลเขียวกับมะม่วงดิบมาส่วนหนึ่งของน้ำยำ เป็นเมนูไขมันต่ำ เหมาะกับคนรักสุขภาพ แถมรสชาติยังจี๊ดจ๊าดด้วย
อีกจานคือ สปาเก็ตตี้หมูฉีก ปรุงรสด้วยซอสโฮมเมด รสจัดจ้านไม่แพ้กัน
ทานคาวแล้วต่อด้วยของหวานกันสักหน่อย Guilt-free Yogurt Honey Fruity Bowl (Low Calorie) เก๋ที่ภาชนะ ที่ทำมาจากกะลาและไม้ไผ่ ด้านในเป็นโยเกิร์ตเกร็ดหิมะ ออนท็อปด้วยเนื้อผลไม้สด น่ากินสุดๆ
เครื่องดื่มมีทั้ง อเมริกาโน่เย็น, อิตาเลียนโซดา Kanta Pop 2 แก้วนี้คือ Blue Sky และ Red Strawberry
Kanta Cafe
ที่อยู่ CDC เฟส 2 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ลาดพร้าว ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 21.00 น.
โทร. 09 5614 6554
เอ็นจอยอีทติ้งกันขนาดนี้ สาวๆ อย่างเราก็ไม่ได้ละเลยเรื่องการดูแลเรื่องสุขภาพในช่องปาก ในทุกๆ ครั้งหลังทานอาหาร สิ่งที่พวกเราทำเป็นประจำก็คือ ทานหมากฝรั่ง Extra เพิ่มความมั่นใจ ไม่ว่าจะอาหารคาว หวาน หรือเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ ก็วางใจได้ เพราะช่วยระงับกลิ่นปากและยังป้องกันฟันผุ เพราะหมากฝรั่ง Extra เป็นหมากฝรั่ง sugar free ที่ปราศจากน้ำตาล แถมยังมีให้เลือกหลากหลายรสชาติทั้งรสเปปเปอร์มินต์ สตรอเบอร์รี่ และเลมอน ไอซ์ โดนใจสุดๆ
มาดูกันต่อดีกว่า ว่าเราจะมีร้านไหนแนะนำอีกบ้าง
ใบเมี่ยงคาเฟ่ Rain Hill
ก็อย่างที่บอก พวกเราทานอาหารกันได้ทุกแนว วันหนึ่งก็นัดกันกินคลีนบ้าง ไรบ้าง คนรักสุขภาพและคนที่ทานอาหารคลีนอยู่เป็นประจำ น่าจะคุ้นเคยกับร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ใบเมี่ยง ณ วันนี้ นอกจากจะขายผลิตภัณฑ์แล้ว ยังขยายธุรกิจออกมาเป็นร้านอาหาร สาขาแรกที่โครงการเรนฮิลล์ แถมเราแวะมาเจอโดยบังเอิญในวันที่ร้านเปิดวันแรกด้วย โห.. Extra สุดๆ
ร้านนี้เน้นเมนูเพื่อสุขภาพ 100% เริ่มจากเมนู Superfood Soup Of The Day สุดยอดซุปถ้วยนี้ มีส่วนผสมของคีนัวและผักต่างๆ นำไปตุ๋นจนได้ที่ ปรุงรสกลมกล่อม ทานง่าย
Quinoa Ikura Don ด้านบนคือ แซลมอนและอะโวคาโด้ ส่วนด้านล่างคือข้าวคีนัว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ อิ่มอร่อยแบบแคลอรี่ต่ำ
Superfood Powder Pancake with B&B Maple Syrub อร่อยเบาๆ กับเมนูแพนเค้กที่เลือกใช้แป้ง Low Fat อร่อยได้แบบไม่อ้วน
ส่วนเมนูนี้ Assorted Superfood Open Toast ทั้งแซลมอน อะโวคาโด้ ผลไม้ ทูน่า มารวมตัวกันอยู่บนขนมปังชาร์โคลและขนมปังโฮลวีท ยกให้เป็นร้านที่เราอร่อยได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องแคลเล
Baimiang Cafe สาขา เรนฮิลล์
ที่อยู่ 777 ซ.สุขุมวิท 47 ถ.สุขุมวิท คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 20.30 น.
โทร. 0 2261 7917
Jim’s Burger
จุดเริ่มต้นของร้าน Jim’s Burger เกิดจากความฝันของเพื่อนรัก 3 คน เมื่อครั้งไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ มีโอกาสได้ชิมเบอร์เกอร์หลากหลายแบรนด์ กลับมาเมืองไทยจึงอยากมีร้านเบอร์เกอร์เป็นของตัวเอง คล้ายๆ กับพวกเราตรงที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการสรรหาร้านอร่อยแล้วแวะไปชิม ><
เบอร์เกอร์ของที่นี่ คำนึงถึงวัตถุดิบคุณภาพ ทั้งขนมปัง เนื้อชนิดต่างๆ ผัก ซอส และเลือกใช้น้ำมันรำข้าว เพื่อสุขภาพ หวังให้ลูกค้าได้ทานเบอร์เกอร์อร่อยๆ จิบเบียร์เย็นๆ ดูบอลนัดพิเศษกับเพื่อนคอเดียวกัน เมนูแนะนำ ของร้าน Jim’s Burger คือเมนู Super BLT Pork Burger เนื้อนุ่มๆ ชุ่มฉ่ำ ความพิเศษของเมนูนี้คือ การใช้ขนมปังโฮมเมด ทางร้านเลือกใช้หมูคุณภาพ นำไปปรุงด้วยสูตรเฉพาะของร้าน เสิร์ฟพร้อม ดับเบิลเบคอน, Cheddar Cheese, ผักกาดหอม, หอมทอด, มะเขือเทศ และ Thousand Island Sauce เป็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ที่อร่อยแบบเต็มๆ คำ
US Fried Kentucky เบอร์เกอร์ไก่ชิ้นโต ฉ่ำไปด้วยซอส มาพร้อม ผักกาดหอม, หอมทอด, มะเขือเทศ และ Mr.Cat Secret Sauce
Jim’s Burger สาขา ยศเส
ที่อยู่ 1426/5 ถ.กรุงเกษม วัดเทพศิรินทร์ ป้อมปราบ กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน 11.00-24.00 น.
โทร.0 2042 9585
Daisuke Japanese Mini Restaurant
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอร้านอาหารญี่ปุ่นเต็มไปหมด แต่พวกเราอยากลองร้านนี้เพราะเบื่อกับรถติดย่านสุขุมวิท แถมมีให้เลือกทั้งซูชิ ซาซิมิ และชาบู รู้เลยว่า มาร้านนี้จะทานหลายๆ อย่างได้พร้อมกัน ในร้านตกแต่งแบบง่ายๆ ดิบๆ อาร์ตๆ แต่ละโต๊ะเว้นพื้นที่ความเป็นส่วนตัว ให้เราได้คุยกันสบายๆ
เมนูที่สั่งมีทั้ง ซาซิมิรวม, แซลมอนลาวา, ยำไทยแซลมอน, ชาบูหมูน้ำใส แต่ละจานน่าทานทั้งนั้นเลย แซลมอนก็ดี ชาบูก็ชอบ ร้านนี้โอเคเลยล่ะ
Daisuke Japanese Mini Restaurant
ที่อยู่ : 725 ซ.ลาดพร้าว-วังหิน 93 ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-24.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-15.00 น., 17.00-23.00 น.
โทร. 09 9952 5585
La Vento
ร้านนี้เป็นทั้งร้านกาแฟและมีอาหารอร่อยไว้คอยบริการด้วย เจ้าของร้านดูเป็นมิตร และเป็นกันเอง ท่ามกลางการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ด้วยเฟอร์นิเจอร์เหล็กและไม้ แนวอาร์ตๆ แบบนี้เราว่ามีเสน่ห์ดีเหมือนกันนะ
พวกเราชอบนั่งชั้น 2 ที่ดูเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย เมนูที่ชอบก็คือ อกเป็ดจิ้มแจ่ว, ขาหมูเยอรมัน, พิซซ่าหน้าแซลมอนรมควัน รวมถึงเค้กอร่อยๆ ที่ทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย
จะแวะมานั่งชิลล์ดื่มกาแฟ ทานขนม หรือจะแวะมาทานอาหารมื้อหนักๆ ร้านนี้ก็ตอบโจทย์ได้หมด
La Vento
ที่อยู่ : 195 ซ.ลาดพร้าว-วังหิน 33 ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 22.00 น.
โทร. 06 3896 6660 , 09 5738 8008
Mont Calzone
เชฟและเจ้าของร้าน Mont Calzone เปิดร้านอาหารที่สิงคโปร์มาแล้ว 9 ปี และมีประสบการณ์ในการสอนทำอาหารในมหาวิทยาลัย พอมาเปิดร้านที่โครงการ HABITO MALL เลยมีอาหารอิตาเลียนอร่อยๆ เมนูที่ Mix ขึ้นใหม่ให้ถูกปากคนไทย
นอกจากจะเด่นเรื่องเมนูอาหารแล้ว ยังเด่นในเรื่องบรรยากาศ มีลูกค้าประจำแวะมานั่งชิลล์ๆ โดยเฉพาะมุมโซฟาที่ชั้น 2 ริมกระจก พวกเราชอบมาก บอกได้เลยว่า Extra สุดๆ
เมนูเด่น คือ ขาหมูเยอรมัน-ไส้กรอกรวม, Samba Marinara พาสต้ารสเผ็ดร้อนที่มีกลิ่นอายของอาหารใต้, Rustica Calzone พัฟ สอดไส้ชีส แฮม และเห็ด และพิซซ่า Morning After คือพิซซ่าแป้งบางที่มีไข่อยู่ตรงกลาง ส่วนเครื่องดื่ม มีทั้งค็อกเทล, ม็อกเทล มีให้เลือกหลากหลายจนเลือกไม่ถูกจริงๆ
Mont Calzone
ชั้น 2 โครงการ HABITO MALL สุขุมวิท 77 กรุงเทพ
เปิดทุกวัน 11.00-23.00 น.
โทร. 08 7318 1222, 09 6226 2246, 0 2061 6200
Featherstone Bistro and Cafe
ทุกคนลงความเห็นว่าร้านนี้สวย รีบเคลียร์คิวด่วนเพื่อร้านนี้โดยเฉพาะ Featherstone Cafe อยู่ในซอยเอกมัย 12 ด้านนอกเป็นบ้านหลังสีดำ (ชวนค้นหาอีกแล้ว) ส่วนด้านในตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า ดูดีมีดีเทล พอก้าวเข้ามาจึงได้รู้ว่า นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีโซนขายของแฮนด์เมด ทั้งกระเป๋า เครื่องหนัง งานผ้า งานปักเก๋ๆ ก่อนจะเลือกว่าอยากนั่งโซนไหน ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสไตล์การตกแต่ง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ดูดีไปหมด กว่าจะเลือกโต๊ะได้ก็เดินถ่ายรูปกันเพลินเชียว
เมนูน่าทานทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น Caramelized Onion Soup, Stone Fruit, Burrata & Parma Salad, Duck Conpit with Rasberry Sauce
Featherstone Bistro and Cafe
ที่อยู่ 60 ซอยเอกมัย 12 พระโขนง กรุงเทพฯ
เปิดเวลา 10.30-22.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
โทร. 09 7058 6846
Villa De Bear
ร้านดังย่านราชพฤกษ์ เราชอบร้านนี้เพราะคอนเซปต์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เมื่อก้าวเข้าไปจะพบกับกองทัพน้องหมี ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินเข้าไปในโรงงานผลิตตุ๊กตา มีน้องหมีตกแต่งอยู่ทุกส่วนของร้าน
เมนูความอร่อยมีให้เลือกทั้งคาว หวาน เหมาะกับวันพิเศษ และวันของครอบครัว สเต๊กของที่นี่มีทั้ง พอร์คช็อพ, ซี่โครงแกะออสเตรเลีย, สเต๊กปลาแซลมอน เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ และซอส 5 แบบ สปาเกตตี้ผัดฉ่าทะเลเดือด, เบอร์กอร์, ขาหมูทอด ,สลัดปูนิ่มทอดกรอบ โอว...เมนูละลานตาไปหมด นอกจากจะมีมุมภ่ายภาพสวยๆ เยอะแล้ว เมนูอาหารก็เยอะมาก ชอบจริงๆ เลย
Villa De Bear
ที่อยู่ ถ.ราชพฤกษ์ ตลิ่งชัน ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 17.00-23.00 น.
โทรศัพท์ : 09 8496 6245
Warm Wood Cafe
การตกแต่งและทุกเมนูของร้านรังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “From our warm heart and crafty hands” ทุกเมนูเกิดขึ้นจากการใส่ใจในทุกรายละเอียด เน้นทำสดใหม่ออกจากเตา อาหารและขนมที่ทำใหม่จานต่อจาน เพราะนอกจากจะมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้เลือกมากมายแล้ว บรรยากาศของร้านออกแบบให้ดูมีสไตล์ เรียบเก๋ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนชื่อร้าน
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเองในบรรยากาศสบายๆ เหมือนได้นั่งอยู่ในบ้านแถบชานเมืองในแนว La Provence (โพรวองซ์) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ความ Extra แบบนี้แหละที่พวกเราชอบ
Duck and Waffle เมนูยอดนิยมจากประเทศอังกฤษ เสิร์ฟด้วยเนื้อน่องเป็ดทอดกรอบราดด้วยน้ำซอสเกรวี่ ทานคู่กับวาฟเฟิล เนื้อแป้งนุ่มๆ กลมกล่อมเข้ากันเป็นอย่างดี เมนูต่อมาคือ Ribeye เนื้อวัวนำเข้าชั้นเลิศ ชิ้นใหญ่ นำมาปรุงรสในแบบสเต็ก ตอนทานราดด้วย Chimichurri Sauce อร่อยเต็มคำ, BBQ Pulled Pork Eggs Benedict ขนมปัง Sour Dough หอมกรุ่นจากเตา ท็อปด้วยผักโขม และ หมูที่ Sous Vide จนได้ที่ คลุกกับซอส BBQ ที่ให้รสเปรี้ยวหวาน กับ Poach Eggs ร้อนๆ ราดด้วยซอสฮอลันเดส ทานคู่กับผักสลัดเย็นๆ เข้ากันดี
Warm Wood Cafe
ที่อยู่ : 137/1 ซ.ทองหล่อ 10 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 01.00 น.
โทร. 0 2714 9974
ทั้งหมดนี้ คือ 15 ร้าน 15 สไตล์ ที่เราและเพื่อนสาว ต่างลงความเห็นว่า เลอค่าและ Extra สุดๆ แม้ว่าสาวๆ อย่างเราจะกลัวอ้วน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสรรหาความอร่อย พวกเราถือคติว่า ทานของอร่อยแต่พองาม เน้นถ่ายรูปจัดเต็มก็แล้วกัน เพื่อนๆ จะลองตามไปนั่งที่ร้านเหล่านี้ดูก็ได้นะคะ เพราะนอกจากจะมีเมนูอร่อยให้เลือกหลากหลายแล้ว สถานที่สวยๆ ให้ได้ถ่ายรูป แน่นอน พวกเราคอนเฟิร์ม
และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราทานอาหารกันอย่างมั่นใจก็คือ การที่ได้ตัวช่วยอย่างหมากฝรั่ง Extra ที่นอกจากจะเพิ่มความมั่นใจทุกครั้งหลังมื้ออาหารแล้ว ยังช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น และยังเคี้ยวได้บ่อยๆ เพราะเป็น sugar free เหตุผลง่ายๆ แบบนี้ล่ะค่ะ พวกเราจึงพกติดตัวกันไว้ตลอด หลังมื้ออาหารทุกมื้อ แค่เคี้ยว หมากฝรั่ง Extra แค่นี้พวกเราก็มั่นใจแบบเต็มร้อย หมดกังวลเรื่องเศษอาหารติดฟันแน่นอน! ต้องขอบคุณตัวช่วยดีๆ อย่าง หมากฝรั่ง Extra ที่ทำให้เรามีร้านดีๆ มาแนะนำ
เดี๋ยวขอตัวไปหาที่เช็คอินใหม่ๆ ก่อนนะคะ แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ บ๊าย บาย