
Sha Raku Japanese Restaurant & Sake Bar ร้านอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ บรรยากาศสบายๆ
Sha Raku Japanese Restaurant & Sake Bar ร้านอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ บรรยากาศสบายๆ
ในซอยสุขุมวิท 23 นอกจากจะเป็นย่านการค้ามีผู้คนเดินพลุกพล่านขวักไขว่ไปมาเพื่อมุ่งหน้าไปทำหน้าที่ของตนแข่งกับเวลา เชื่อไหมว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใส่ใจคุณภาพของอาหารและรสชาติให้ออกมาถูกใจลูกค้า พิถีพิถันกับการทำอาหารให้คงความดั้งเดิมไว้ตามแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยแท้
จะเห็นร้าน Sha Raku Japanese Restaurant & Sake Bar ตั้งตระหง่านในซอยสุขุมวิท 23 ห่างจากปากซอยเพียง 100 เมตร มีที่จอดรถกว้างขวางอยู่ด้านหน้าร้าน เมื่อเดินเข้าภายใน รับรู้ได้ถึงความเงียบสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความมีพลังลึกลับเพราะผนังสีดำ เพ้นต์ดอกไม้สีแดงให้ดูอ่อนโยน และผ่อนคลายได้ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้บางส่วน
ชื่อร้านเก๋ๆ นี้มีที่มาที่ไปคือคำว่า Sha มาจากภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าภาพหรือเรื่องราว Raku มาจากคำที่แปลว่าสนุกสนาน ร้าน SHA RAKU จึงเริ่มมาจากความคิดที่ว่าทำไมไม่มีร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยที่ขายอาหารญี่ปุ่นที่มาจากจิตวิญญาณและวัฒนธรรมจริงๆ ของคนญี่ปุ่น ร้านที่สามารถให้ทั้งความสุขและสามารถรับประทานอาหาร ดื่มสาเก พูดคุยเรื่องราวต่างๆ ได้ โดยไม่ยืดติดกับภาพลักษณ์ภายนอกที่คนจะติดกันว่าร้านอาหารญี่ปุ่นต้องเปิดเพลงญี่ปุ่น ต้องใส่กิโมโน หรือ ต้องมีไม้ไผ่อะไรก็ตามแต่ เพราะวัฒนธรรมต่างๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลา การแต่งตัวแฟชั่นต่างๆ เปลี่ยนไป แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือตัวตนจริงๆ ของคนญี่ปุ่น พวกเขาสามารถปรับตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ โดยไม่เสียตัวตนจริงๆ ซึ่งเหมือนกับร้านอาหารญี่ปุ่นสมัยนี้ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเพลงพื้นเมืองหรือต้องใส่กิโมโนก็สามารถเข้าถึงหัวใจของอาหารญี่ปุ่นภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันได้
ที่นี่ท่านสามารถเลือกที่นั่งแบบส่วนตัวได้เพราะมีห้องจัดไว้สำหรับจัดเลี้ยงเป็นหมู่คณะแยกเป็นสัดส่วนอยู่ด้านบน พร้อมแอร์เย็นฉ่ำ เบาะรองนั่งนุ่มแสนสบายทำให้อารมณ์ผ่อนคลายเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ที่บ้าน
ในส่วนของอาหารก็ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ท่านจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจากเชฟมือทอง เชฟ TANAKA ผู้มากประสบการณ์ คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารญี่ปุ่นมาช้านาน เป็นเชฟด้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในโรงแรมสุดหรู (โอคุระ) ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่อายุ 19 ปี ย้ายไปประจำการหลายๆ ที่รวมทั้งยุโรปเป็นเวลา 12 ปีแล้วจึงกลับมาประจำการที่ญี่ปุ่นจนเมื่อปี 2008 ได้มาประจำการเป็นเชฟประจำกงสุลญี่ปุ่นในประเทศไทย จากนั้นเกิดหลงรักในเสน่ห์ของประเทศไทยและคนไทย หลังจากปลดประจำการ เชฟก็มีความฝันที่จะได้ทำอาหารที่เขารักให้คนไทยได้ลองชิมกินกัน เลยได้เข้ามาเป็นหัวหน้าเชฟที่ร้านsha raku เพราะแนวความคิดของร้านกับเชฟตรงกัน เลยประสานงานกันอย่างลงตัว
จัดชุดใหญ่มาให้ทานประเดิมคอร์สแรกคือ KAISEKI อาหารญี่ปุ่นแบบเก่าแก่ชั้นสูงเป็นที่โปรดปรานของโชกุน ซึ่งเป็นอาหารที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมประเพณีของชาวญี่ปุ่นตั้งแต่โบราณ วิธีกิน วิธีเสิร์ฟ ทุกอย่างมีแบบแผนอย่างละเอียด การกินอาหารแบบ KAISEKI จึงไม่ใช่แค่การกินในรสชาติของอาหาร แต่เป็นการดื่มด่ำวัฒนธรรมประเพณี วิธีการ บรรยากาศ ที่สืบทอดมาแต่ยาวนานอย่างแท้จริง
ในเมืองไทยยังมีร้านที่เสิร์ฟอาหารแบบ KAISEKI ไม่มาก ส่วนมากจะแพงและทำให้คนไทยหวาดกลัวการไปลิ้มรส หรือแม้กระทั่งญี่ปุ่นก็ตาม คนปกติในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้กินอาหารแบบ KAISEKI กันบ่อย เพราะราคาค่อนข้างจะสูง แต่ร้านเราได้เชฟที่มีฝีมือด้าน KAISEKI เป็นเลิศและรวมกับแนวคิดของร้านที่อยากจะนำอาหารญี่ปุ่นจริงๆ ให้คนไทยได้เข้าถึงกันอย่างไม่ต้องปีนกะไดไปกิน เลยมีเมนูแบบ KAISEKI ในบรรยากาศเป็นกันเองแต่รสชาติเป็นของจริงในราคาไม่แพงมากจนเกินไป เพื่อให้คนไทยได้เข้าใจวิถีแนวคิดและรสชาติของประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเลิศด้านอาหารอย่างแท้จริง KAISEKI มีทั้งหมด 6 จานด้วยกัน ในที่นี้รวมของหวานเข้าด้วยแล้ว แต่ละจานจะมีอาหารพอดีสำหรับหนึ่งคน
เริ่มจานแรกเป็นเนื้อเป็ดนุ่มๆ กุ้งพอดีคำ ข้าวห่อแซลมอน ทานคู่กับพริกหวานและเม็ดแปะก๊วยปรุงรสอร่อย แกล้มกับปลาข้าวสารตัวเล็กๆ ผสมกับผักกวางตุ้งปรุงรสเค็มๆ มันๆ เป็นออร์เดิร์ฟที่เรียกน้ำย่อยได้ดีจริงๆ
เสิร์ฟต่อด้วยปลาดิบสดๆ เฉือนให้พอดีคำ จิ้มกับซอสผสมวาซาบิตามชอบใจ ได้รสชาติหวานๆ ของปลาและเค็มๆ ของซอส พร้อมรสเผ็ดซู่ซ่าของวาซาบิ อร่อยทุกคำเลย
ต่อด้วยเนื้อวากิวเสียบไม้ย่างอย่างดี พร้อมปลาย่างให้เหลืองสุก จิ้มวาซาบิในจาน ได้รสชาติเค็มๆ หวานนิดๆ ติดใจตรงเนื้อวากิวที่มีความนุ่มจนแทบจะละลายในปาก
เทมปุระก็ไม่แพ้ใครในหล้า แป้งบางกรอบ เข้ากันดีกับเนื้อกุ้งตัวใหญ่ๆ อัดแน่นเต็มคำ และยังมีผักทอดจิ้มกับน้ำจิ้มเทมปุระ กลมกล่อมดีแท้ๆ
ปิดท้ายอาหารคาวในคอร์สนี้ด้วยซูชิ สด ใหม่ คำโตๆ ข้าวม้วนห่อแตงกวาพร้อมอะโวคาโด อร่อย ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
จบไคเซกิคอร์สด้วยพันนาคอตต้านุ่มๆ ละมุนลิ้นและผลไม้รวมหลากรส ได้แก่ แตงโม สับปะรด และมะม่วงสุก บอกได้คำเดียวว่า ทานคอร์สนี้แล้วสุขใจเป็นที่สุด เพื่อความสะดวกรวดเร็วกรุณาสั่งจองคอร์สนี้ล่วงหน้าที่เบอร์ 02-6640348
นอกจากอาหารเป็นคอร์สแล้วยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างจานนี้เรียกว่า Dragon roll หรือ ข้าวห่อสาหร่ายดราก้อน ใช้กุ้งมังกรตัวใหญ่ห่อด้วยปลาไหลย่างรสชาติเยี่ยมทานกับอะโวคาโด
และอีกจานเป็น Kushi katsu mori ของเสียบไม้ทอดรวม มีทั้งกุ้ง ปลา และผักทอด ทานคู่กับน้ำจิ้มแสนกลมกล่อม รับรองต้องสั่งเพิ่มอีกจานแน่
หากมองหาร้านอาหารญี่ปุ่นที่คงรสชาติแบบดั้งเดิม ต้องเพิ่มร้าน Sha Raku Japanese Restaurant & Sake Bar ไว้ในลิสต์ของคุณด้วย รับรองไม่ผิดหวัง!!
การเดินทางใช้ถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 23 ประมาณ 100 เมตร เลยที่ทำการไปรษณีย์ จะเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นชารัคคุ ตั้งอยู่ขวามือ หากใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ให้ลงที่สถานีอโศก เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 - 24.30 น. โทร. 026640348
หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://eat.edtguide.com/377350_Sha-Raku-Japanese-Restaurant-and-Sake-Bar-ชารัคคุ-สุขุมวิท-ร้านอาหารญี่ปุ่น
https://www.edtguide.com/content/eat-selected/86115
Information
OPEN
- ไม่พบข้อมูล
TEL
- ไม่พบข้อมูล
PRICE
- ไม่พบข้อมูล
ADDRESS
- ไม่พบข้อมูล
FACILITIES
- ไม่พบข้อมูล
CONTACT
- ไม่พบข้อมูล
SHARE

#hashtag
RELATED