ตื่นเต้นทุกครั้งที่ไปเที่ยวปักษ์ใต้ ...
ถ้าถามว่าภาคไหนของประเทศไทยที่ทำให้หัวใจพองโตได้มากที่สุด? สำหรับเราก็คงจะเป็น ภาคใต้ เพราะเป็นอะไรที่เราไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ... ใต้เหมือนโลกอีกใบที่น่าค้นหาทั้งอาหาร สถานที่ ผู้คน และวิถีชีวิตที่แตกต่างภายใต้ฟ้าเดียวกัน ทริปนี้เราจะไปดื่มด่ำความเป็นปักษ์ใต้ ลิ้มรสของอร่อย 3 สัญชาติ สงขลา-สตูล สองเมืองมหาเสน่ห์ ที่ใครๆ ก็ต้องหลงรัก
DAY 1
เที่ยวใต้ เที่ยวง่าย ใช้เวลาแค่ชั่วโมงนิดๆ นกยักษ์ก็พาเราบินลัดฟ้าจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อการเดินทางที่คล่องตัวตลอดทริปนี้ เราเลือกใช้บริการรถเช่าของ AVIS เพราะ สามารถรับและคืนรถได้ง่ายๆ ที่สนามบิน รับกระเป๋าเสร็จเดินออกมาก็จะเจอกับเคาน์เตอร์ AVIS เลย ไปแสดงตัวกรอกเอกสารให้เรียบร้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาเรามาที่ลานจอดรถก่อนส่งมอบรถเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบริ้วรอยรอบคันเพื่อความสบายใจ พร้อมแนะนำเบอร์โทรกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ก็ออกไปซิ่งทั่วแดนใต้ได้เลย
มาถึงหาดใหญ่ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อยทั้งไทย จีน และมุสลิม ก็ต้องไปลิ้มลองร้านดังที่ใครๆ ต้องไปโดน ร้านโชคดีแต่เตี๊ยม ร้านติ่มซำเจ้าเด็ด ไม่มีสาขาที่ไหน มีที่หาดใหญ่ที่เดียว สังเกตง่ายๆ ร้านที่มีลูกค้ายืนมุงเลือกเข่งติ่มซำกันแน่นหน้าร้าน ช่วงพีคๆ นี่คิวยาวมากมายเลยนะคู๊ณ ... ของเขาดีจริง!
ติ่มซำมีให้เลือกเยอะละลานตาน่ากินทั้งนั้น แต่ละเข่งเย้ายวนชวนหยิบ อะไรเด็ด อะไรโดน จัดชุดใหญ่มาเลยเฮีย!
เมนูเด็ด! ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงคือ บะกุ๊ดเต๋ ซุปกระดูกหมูกับเครื่องยาจีน น้ำซุปเข้มข้นหอมกรุ่น ซี่โครงหมูเปื่อยนุ่ม เสิร์ฟกันร้อนๆ เดือดดาลความอร่อย
ติ่มซำนุ่มเด้งทำสดใหม่ทุกเช้าวันต่อวัน แต่ละเข่งชิ้นใหญ่ รสชาติอร่อยไม่จืดชืดหรือมันเลี่ยนถึงเครื่องของจริง ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม เพราะน้ำจิ้มของที่นี่จะไม่ใช่จิ๊กโฉ่ว แต่เป็นน้ำจิ้มซอสสีส้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ทานคู่กับติ่มซำยิ่งอร่อยถูกใจเราที่สุด!
และพลาดไม่ได้เลยกับ ซาลาเปาลาวาไข่เค็ม ซาลาเปาลูกใหญ่นุ่ม ใส้เยอะไหลเยิ้ม แบบไม่มีกั๊ก! เอาไปเลยสามผ่านสำหรับ ร้านโชคดีแต่เตี๊ยม มาแล้วไม่ผิดหวัง! ใครที่อ่านแล้วอยากตามมาหรอยของอร่อย ร้านโชคดีแต่เตี๊ยม ก็สามารถมารับส่วนลดได้ถึง 5% เพียงเปิดรีวิวนี้ หรือแคปหน้าจอไว้ แล้วแสดงให้กับทางร้านเพื่อขอรับสิทธิ์ ตั้งแต่แต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 61 นะคะ หรือถ้ากำลังมองหาร้านเด็ด ร้านโดนในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ในช่วง พฤษภาคม - สิงหาคม 2561 ททท. ภาคใต้ เขามีแคมเปญที่น่าสนใจอย่างคูปองส่วนลด Amazing Thailand Go Local @South โดยสามารถตรวจสอบช่องทางการรับคูปอง และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่เลย http://spaceone.webstriple.com/
ร้านโชคดีแต่เตี๊ยม
ที่ตั้ง : ถนนละม้ายสงเคราะห์ 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 (เส้นตรงไปจากหน้ารร.ศรีนคร ร้านอยู่ซ้ายมือ)
เวลาเปิด-ปิด : รอบเช้า 06.00-11.30 / รอบเย็น 17.00-21.30
โทรศัพท์ : 081-372-6181
พิกัด : https://goo.gl/4VscmD
อิ่มท้องแล้วมีแรงเที่ยว สถานที่ต่อไปในลิสต์ของเราก็คือ เกาะยอ เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่กลางทะเลสาบสงขลา ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวประมงทั้งแบบธรรมชาติและแบบกระชัง มาเกาะยอเราจะเห็นกระชังปลาเรียงรายอยู่ในทะเลสาบ เกาะยออยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 20 กม. การเดินทางไปเกาะยอ ก็ง่ายๆ ขับรถไปตามถนนหมายเลข 407 แล้วไปข้ามสะพานติณสูลานนท์ อดีตเคยเป็นสะพานคอนกรีตที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เชื่อมสองแผ่นดินใหญ่คือฝั่งเมืองสงขลาและอำเภอสิงหนคร
ที่เกาะยอมีคาเฟ่ชิคๆ น่านั่งอยู่หลายแห่ง แต่ถ้าอยากนั่งจิบกาแฟชิลล์วิวดีๆ ก็ต้องมาที่ Cafe in คาเฟ่เล็กๆ ติดริมทะเลสาบสงขลาอยู่ปลายสุดบนเกาะยอ
Cafe in
ที่ตั้ง : 13 ราษฎร์อุทิศ 2 ซอย 4 ต. เกาะยอ จ. สงขลา 90000
เบอร์โทรศัพท์ : 094 910 4664
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 - 19.30 น. หยุดทุกวันอังคาร
พิกัด : https://goo.gl/W7hya2
ขับรถเที่ยวเล่นบนเกาะยอจนเพลินก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เรามาแวะทานข้าวกันที่ ร้านศิรดาเกาะยอ ร้านอาหารทะเลริมทะเลสาบสงขลา วิวกระชังปลา ที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นอาหารใต้เครื่องแกงเผ็ดร้อน หรืออาหารทะเลสดๆ นอกจากนี้ว่ากันว่าบรรยากาศจะสวยงามมากในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน
สำหรับเมนูที่สั่งก็จะเป็นเมนูเด็ดของร้านทั้งนั้น! ไม่ว่าจะเป็น กุ้งคั่วพริกเกลือ กุ้งตัวใหญ่เนื้อสดเด้ง คั่วพริกเกลือรสจัดจ้าน!
ยำปลากระพงสมุนไพร ปลากระพงหั่นเป็นชิ้นทอดพอดีคำ คลุกเคล้ากับเครื่องเคียงสมุนไพร เผ็ดแซ่บได้สุขภาพ
ใบเหลียงผัดไข่ ผักพื้นบ้านภาคใต้ที่รู้จักกันดี รสชาติจืดๆ มันๆ ใครมาเป็นต้องลอง!
ห่อหมกทะเล ห่อหมกรสเข้มข้นจัดจ้าน กลมกล่อมหอมกะทิ
แกงส้มปลากระพง เมนูขึ้นชื่อของชาวปักษ์ใต้ เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้คือการตำพริกแกงสดๆ ปลากะพงสดๆ ใส่ยอดมะพร้าวอ่อน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองหรอยจังฮู้ ! ใครที่อ่านแล้วอยากตามมาหรอยของอร่อย ร้านศิรดาเกาะยอ ก็สามารถมารับส่วนลดได้ถึง 5% เมื่อทานครบ1,500 บาท เพียงเปิดรีวิวนี้ หรือแคปหน้าจอไว้ แล้วแสดงให้กับทางร้านเพื่อขอรับสิทธิ์ ตั้งแต่แต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 61 นะคะ
หรือถ้ากำลังมองหาร้านเด็ด ร้านโดนในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ในช่วง พฤษภาคม - สิงหาคม 2561 ททท. ภาคใต้ เขามีแคมเปญที่น่าสนใจอย่างคูปองส่วนลด Amazing Thailand Go Local @South โดยสามารถตรวจสอบช่องทางการรับคูปอง และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่เลย http://spaceone.webstriple.com/
ร้านศิรดาเกาะยอ
ที่อยู่ : 8/2 ม.2 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เมือง อำเภอเมืองสงขลา สงขลา 90100
เบอร์โทรศัพท์ : 074 591 595
เวลาเปิด-ปิด : 10.30 - 21.30 น. เปิิดทุกวัน
พิกัด : https://goo.gl/rtJ2M8
มาถึงเกาะยอถ้าไม่ได้ลองชิมอาหารถิ่นขึ้นชื่อ ที่หากินไม่ได้ที่ไหนแล้วในโลกนี้ นอกจากที่เกาะยอเท่านั้น! นี่ก็คือ ยำสาหร่ายผมนาง รูปร่างหน้าตาคล้ายๆ ผัดหมี่ รสชาติเปรี้ยว แซ่บ แบบรสยำ
สาหร่ายผมนาง เป็นพืชที่จะพบเฉพาะพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลา จึงไม่แปลกใจว่าเป็นเมนูที่หาทานได้เฉพาะพื้นที่เกาะยอเท่านั้น!
จากเกาะยอเรามานั่งรับลมทะเลที่ หาดสมิหลา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงของสงขลา มีหาดทรายขาวละเอียด ต้องแวะมาถ่ายรูปคู่กับนางเงือกที่อยู่คู่กับหาดสมิหลามาร่วม 50 ปี ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึง!
จากหาดสมิหลามีที่เที่ยวน่าสนใจอยู่ใกล้กันคือ สวนสองทะเล ไฮไลท์ของที่นี่คือ ปฏิมากรรมพญานาคพ่นน้ำ แลนด์มาร์คเด่นริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นแหลมขั้นระหว่างทะเลสาบน้ำจืดและทะเลอ่าวไทย
กินเที่ยวตั้งแต่เช้าจรดค่ำ คืนนี้เราพักที่ Club Tree Hotel โรงแรมสไตล์โคโลเนียลกลางเมืองสงขลา ทันสมัย สะดวกสบาย ห้องพักสวย ราคา 800 - 1200 บาท/ต่อคืน ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง
Club Tree Hotel
ที่ตั้ง : 165/8 ถนนทะเลหลวง ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา 90000
ราคาห้องพัก : 800 - 1200 บาท/คืน
เบอร์โทรศัพท์ : 074 313 888
พิกัด : https://goo.gl/j2cWYY
DAY 2
ตื่นแต่เช้าไปเดินเล่นชิลล์ๆ ย่านเมืองเก่าสงขลา หาของกินอร่อยๆ บนถนนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ถ่ายรูปเท่ๆ กับสตรีทอาร์ตตามตรอกซอกซอย ถนนนางงาม ถนนนครใน ถนนนครนอก ย้อนบรรยากาศวันวานสุดคลาสสิค
ตึกรามบ้านช่องย่านนี้ มีความผสมผสานระหว่างอารยธรรมไทย-จีน มีตึกคลาสสิคสไตล์ชิโนโปรตุกีส อาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวจีนฮกเกี้ยนอยู่ปะปนกัน ก็เป็นเพราะว่าที่นี่เคยเป็นเมืองท่าติดทะเล ทำให้ได้รับวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินหรือสิ่งปลูกสร้าง
มาเที่ยวสงขลาทั้งที ต้องลองชิมเมนูท้องถิ่นของชาวสงขลา เต้าคั่ว หรือเรียกอีกชื่อเก๋ๆ ว่า สลัดทะเลสาบ หน้าตาคล้ายๆ สลัด ที่ใส่เส้นหมี่ลวก กุ้งชุบแป้งทอด หมูสามชั้นต้ม เต้าหู้ทอด ไข่ต้ม ผักบุ้งลวก ถั่วงอกลวก และแตงกวา ราดด้วยน้ำรสหวานที่ทำจากน้ำตาลโตนดผสมกับน้ำปลา เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยดีเหมือนกันนะ
ในย่านเมืองเก่านี้ยังมีคาเฟ่น่านั่ง ซุกซ่อนอยู่ตามตรอกซอกซอยอยู่หลายแห่ง เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ เข้าซอยนั้นออกซอยนี้จนมาเจอร้านกาแฟชิคๆ Heart Made Coffee & Eatery เป็นคาเฟ่น้องใหม่เพิ่งเปิดได้เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น!
เมนูแนะนำของร้านคือ กาแฟมันม่วง หอมมัน หวานนิดๆ จากเนื้อมันม่วงแท้ๆ
Heart Made Coffee And Eatery
ที่อยู่ : 16 ถนน ซอย ยะหริ่ง ตำบล บ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา สงขลา 90000
เบอร์โทรศัพท์ : 086 290 2288
เวลาเปิด-ปิด : 8.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์
พิกัด : https://goo.gl/AEShbg
ร้านถัดมาคือ ร้านขนมป้าเล็ก ขายขนมบ้าบิ่นสูตรโบราณ เจ้าแรกแห่งเมืองสงขลา และ ขนมกลอก เป็นขนมพื้นบ้านของภาคใต้ ทำจากแป้งข้าวเจ้า มีทั้งไส้หวานและไส้คาว ที่ป้าการันตีว่าหาทานยาก หากินที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากร้านป้าเท่านั้น!
ขนมกลอก เป็นแป้งนุ่มๆ ห่อด้วยผัก ราดด้วยน้ำจิ้มรสยำ เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยดีนะ คล้ายก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
มาต่อกันที่ นครในใจ ร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่ถึงเดือน ภายนอกเป็นอาคารเก่าแต่ภายในตกแต่งน่ารัก แต่ละเมนูของร้านครีเอทใส่ใจ มีความสเปเชียลกว่าที่อื่น ซึ่งคอนเซ็ปต์ของร้านจะเน้นกาแฟไทยที่ทานคู่กับขนมไทย
เมนูซิกเนเจอร์ของร้านคือ แจ็คสแปร์โรว์ กาแฟสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ เน้นดื่มง่าย รสชาติกาแฟน้อยมาก มีกลิ่นส้มทำให้รู้สึกสดชื่น
นครในใจ
ที่อยู่ : ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา 90000
เบอร์โทรศัพท์ : 074 260 145
เวลาเปิด-ปิด : 7.30-19.30 น. ปิดทุกวันพุธ
พิกัด : https://goo.gl/oqC9Kz
เดินผ่านร้านนี้เป็นต้องสะดุดตากับการตกแต่งที่โดดเด่นโดนใจด้วยของโบราณย้อนยุค ร้านโกหอมข้าวหมูแดงในชาม ร้านเล็กๆ บนถนนนครใน ที่คอข้าวหมูแดงห้ามพลาด!
เป็นข้าวหมูแดงสูตรโบราณ เสิร์ฟมาในชามใหญ่ใบโตน่ากิน ราคาแค่ 50 บาท หมูกรอบนุ่มอร่อยสมคำล่ำลือ
โกหอมข้าวหมูแดงในชาม
ที่อยู่ : 106 นครใน ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา 90000
เวลาเปิด-ปิด : 9:30-15:00 น. ปิดทุกวันศุกร์
เบอร์โทรศัพท์ : 088 791 0681
พิกัด : https://goo.gl/7UcXdD
ถัดจากร้านโกหอมมานิดเดียว จะเจอกับร้านดังอีกร้านหนึ่งบนถนนนครใน Lyn’s The Shanghai Cafe ร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ ในบ้านเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ภายในร้านแบ่งเป็น 2 โซนอินดอร์และโซนกึ่งเอ้าท์ดอร์ บนฝาผนังมีภาพวาดสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนในย่านนี้ มีมุมให้ถ่ายรูปชิคๆ เยอะด้วยนะ
เมนูแนะนำของร้านก็จะเป็น โตนดลาเต้ เมล็ดกาแฟใหม่ส่งตรงจากดอยสะเก็ด + เคนย่า + กัวเตมาลา ผสมน้ำผึ้งโตนด เพิ่มความอร่อยด้วย บราวน์ชูการ์เจลลี่
กล้วยหินย่างน้ำผึ้ง เมนูนี้ทั้งหอมหวานนุ่มอร่อย
Lyn’s The Shanghai Cafe
ที่อยู่ : นครใน ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา 90000
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 - 21:00 ร้านปิดทุกวันอังคาร
เบอร์โทรศัพท์ : 083 243 9977
พิกัด : https://goo.gl/ufLaL6
เต็มอิ่มกับบรรยากาศเมืองเก่าแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดสตูล เปลี่ยนบรรยากาศไปผจญภัยสัมผัสความมหัศจรรย์ของ ถ้ำภูผาเพชร ถ้ำขนาดใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก ไฮไลค์ที่ทำให้ทุกคนต้องดั้นด้นมาที่นี่ก็คือ อุโมงค์แสงมรกต อยู่ลึกด้านในสุดของถ้ำ จากตัวเมืองสงขลามุ่งหน้าไปทางอำเภอมะนัง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า
ก่อนเข้าถ้ำจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมและมีเจ้าหน้าที่ค่อยนำทางให้ ภายในถ้ำมืดสนิทจะมีไฟส่องสว่างเป็นบางช่วงเท่านั้น ใช้เวลาเดินเท้าสำรวจประมาณ 2 ชั่วโมง จากปากถ้ำไปจนถึงอุโมงค์แสงมรกต ภายในถ้ำมีลักษณะแปลกตา อัศจรรย์ไปด้วยหินงอกหินย้อยเปล่งประกายระยิบระยับคล้ายเกล็ดเพชร หากใช้เวลาสำรวจทุกพื้นที่ในถ้ำคงต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เลยทีเดียว
และแล้วเราก็เดินมาถึง อุโมงค์แสงมรกต เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุดคือ 15.00 - 16.00 น. ของเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งพวกเราโชคดีมากที่มาทันเวลาและได้ภาพลำแสงที่สวยงามถือเป็นไฮไลท์ที่ใคร ๆ ก็อยากมาสัมผัส
อุโมงค์แสงมรกต โดดเด่นตรงที่เพดานถ้ำบริเวณนั้น เป็นปล่องเปิดให้แสงธรรมชาติสาดลอดลงมากระทบกับหินงอกหินย้อยที่มีสีเขียว จึงทำให้ลานแห่งนี้เป็นสีเขียวมรกตสวยงามแปลกตา
ถ้ำภูผาเพชร
ที่อยู่ : หมู่ที่ 9 บ้านป่าพน ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00-18.00 น.
ผจญภัยกันจนหมดเรี่ยวแรง เรามาเติมพลังมื้อเย็นกันที่ ร้านฟ้าใสซีฟู้ด ร้านอาหารติดริมทะเล บรรยากาศดี เปิดมานานกว่า 15 ปี อาหารทะเลที่นี่รับประกันความสดเหมือนเพิ่งขึ้นจากท้องทะเล
เมนูแนะนำของร้าน ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา ปลาอินทรีย์ทอดจนเหลืองกรอบ แล้วราดน้ำยำมะม่วงให้ชุ่ม ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม บอกเลยว่าเมนูนี้จี๊ดโดนใจ หอยท้ายเภา ของดีที่หากินได้เฉพาะที่ปากบาราเท่านั้น ปีนึงจะได้ลิ้มรสชาติแค่ครั้งดียว ช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ความพิเศษของ หอยท้ายเภา คือเนื้อเด้งหนึบ นุ่มไม่เหนียว รสหวานอร่อย จานนี้ราคา 490 บาท (ตามท้องตลาดขายโลละ 1200 บาท)
เอ็นหอยผัดพริกไทยดำ เป็นเอ็นหอยตาชัย ลักษณะคล้ายกับหอยเชลล์ ต้องหมักทิ้งไว้ 1 คืน ถึงจะได้รสชาติอร่อย เนื้อหอยนิ่มเด้ง ไม่เหนียว
น้ำพริกยกครก น้ำพริกกะปิรสชาติจัดจ้านโรยด้วยเนื้อปู ทานคู่กับผัดสด และลูกปลาทูทอด หรอยแรงเมนูนี้!
ยำสายไหม ลูกปลาทูทอดกรอบ คลุกเคล้ากับน้ำยำรสเด็ดร้านฟ้าใสซีฟู้ด
ที่อยู่ : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4052 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-21.30 น. เปิดทุกวัน
เบอร์โทรศัพท์ : 074 783 335
พิกัด : https://goo.gl/q8EfwQ
มาสตูลทั้งที ไม่แวะกินโรตี-ชาชัก ก็เหมือนยังมาไม่ถึง! ตบท้ายด้วยเมนูของหวาน ร้านชาชักปากบารา ร้านดังที่ต้องแวะมาลิ้มลองและนั่งเล่นชิลล์ๆ กันให้ได้ เป็นร้านชาขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ด้านหน้าติดถนนใหญ่ ด้านหลังติดกับชายหาด ภายในร้านมีโต๊ะและซุ้มไม้ ให้นั่งล้อมวงจิบชากันแบบเพลินๆ
รสชาติชาชักและโรตีร้านนี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะเจ้าของนั้นได้ไปฝึกฝนวิชามาจากเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะกลับมาเปิิดร้านโรตีชาชักเป็นของตัวเองที่บ้านเกิด
มองเผินๆ บรรยากาศคล้ายร้านนั่งชิลล์ ที่หนุ่มสาวเมืองสตูลนิยมพากันมาจิบชา ชิมโรตี ริมทะเลยามค่ำคืน
ร้านชาชักปากบารา
ที่อยู่ : ร้านชาชักปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 17.00 – 24.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 084 691 6215
พิกัด : https://goo.gl/wwnRZA
DAY 3
วันนี้เราต้องตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อไปที่ท่าเรือบากันเคย ตั้งใจที่จะนั่งเรือออกไปชมความงาม “สันหลังมังกร” สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดสตูล นั่งเรือหางยาวของชาวบ้านบากันเคย ออกไปเพียง 20 นาที ก็จะพบกับสันหาดคล้ายทะเลแหวก แต่แตกต่างจากที่อื่นตรงที่แนวหาดที่เห็นนั้นไม่ใช่ทราย แต่เป็นเปลือกหอยนับล้านที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกันเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ในช่วงน้ำลดน้ำทะเลจะแหวกออกจากกัน พอแสงแดดสาดส่องลงมากระทบกับเปลือกหอยจะมองเห็นเป็นเกล็ดแวววาว คล้ายมังกรกำลังเลื้อยแหวกว่ายอยู่ในทะเล แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะเป็นช่วงน้ำขึ้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นสันหลังมังกรได้ ใครที่อยากเที่ยวชม “สันหลังมังกร” ก่อนไปควรเช็คช่วงน้ำขึ้น-น้ำลงให้ดี ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือ ขึ้น 4 คำ - แรม 8 ค่ำ (ลงเรือช่วงเช้า) และ ขึ้น 14 ค่ำ - แรม 3 ค่ำ (ลงเรือช่วงบ่าย) สามารถไปขึ้นเรือได้ทุกวัน ที่ท่าเรือบากันเคย ราคาเหมาลำละ 1500 บาท (ไม่เกิน 5 คน)
จากนั้นเราก็พากันกลับเข้าเมือง เพื่อไปตามหาอาหารพื้นเมืองของชาวมุสลิม มาสตูลแล้วไม่ได้ชิม แกงตอแมะห์ ถือว่ายังมาไม่ถึง แกงตอแมะห์ เป็นอาหารประจำวันมื้อสำคัญ ทำจากเครื่องแกงคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำกะทิสด ปลา มะขามเปียก ขมิ้น พริกแห้ง หอมแดง เครื่องเทศและสมุนไพรอีกหลายชนิด จุดเด่นอยู่ที่ความหอมกรุ่นของกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร และความอร่อยจากปลาสดๆ น่าเสียดายเนื่องจากว่าเป็นช่วงถือศีลอด (เดือนรอมฎอน) ร้านอาหารมุสลิมปิดทุกร้าน ทำให้เราพลาดโอกาสชิมอาหารอร่อยขึ้นชื่อของเมืองสตูล
จากตัวเมืองเราไปต่อกันที่ กลุ่มสตรีบ้านเกตรี เราจะไปเรียนรู้การทำ ขนมบุหงาปูดะ เป็นขนมพื้นเมืองของชาวมุสลิมจังหวัดสตูล นิยมทำเป็นขนมใช้ในงานเทศกาลงานพิธีที่สำคัญๆ ทางศาสนาอิสลาม อาทิ งานเทศกาลฮารีลายอ ตรุษของอิสลาม เทศกาลถือศีลอด งานแต่งงาน ไปจนถึงใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
ขนมบุหงาปูดะ เป็นภาษาอิสลาม บุหงา แปลว่า "ดอกไม้" บุดะ แปลว่า "ดอกเตย" รวมเรียกว่า "ขนมดอกเตย" มีลักษณะสี่เหลี่ยมคล้ายหมอน ทำด้วยมะพร้าวทึนทึก และแป้งข้าวเหนียวผสมด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำ และกะทิ รสชาติหวานหอม สีสันสดใส
หลังจากที่นั่งดูวิธีการทำทาง กลุ่มแม่บ้านเกตรี ก็ใจดีให้ลองทำ ขนมบุหงาปูดะ ด้วยตัวเอง ก็ไม่ง่ายเลย ต้องพลิกแป้ง ใส่ใส้ให้ทันความร้อนบนเตา ถ้าช้าจะทำให้แป้งแตกและแข็งตัว
กลุ่มเเม่บ้านสตรีเกตรี
ที่อยู่ : 72 หมู่ 3 ตำบลเกตรี อำเภอเมือง จังหวัดสตูล 91140
เบอร์โทรศัพท์ : 074 736 125
พิกัด : https://goo.gl/Nx8yA4
หลังจากลองชิมขนมพื้นเมืองของชาวมุสลิม เราก็พากันกลับเข้าตัวเมืองสงขลามาที่ มัสยิดกลางสงขลา หรือชื่อเต็ม มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม “ทัชมาฮาลเมืองไทย” เป็นศาสนสถานที่มีสถาปัตยกรรมสวยสง่า มีสระน้ำด้านหน้าทอดยาวกว่า 200 เมตร ทำให้มัสยิดแห่งนี้ดูคล้ายคลึงกับทัชมาฮาลที่อินเดีย โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกที่นี่จะงดงามตระการตามาก
ยิ่งมาในช่วงเวลาค่ำ มัสยิดจะเปิดไฟสว่างมีฉากหลังของท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสีในยามเย็นยิ่งสวยงามทรงพลัง
มัสยิดกลางสงขลา
ที่อยู่ : อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
เบอร์โทรศัพท์ : 074 305 300
พิกัด : https://goo.gl/knatdG
จบลงแล้วสำหรับทริป กิน เที่ยว ตามรอยหรอยของอร่อย 3 สัญชาติ น่าเสียดายที่เรามีเวลาน้อยทำให้เก็บเกี่ยวความเป็นปักษ์ใต้ได้ไม่ครบ ยังมีเมนูอร่อยที่ยังไม่ได้ลิ้มลอง ยังมีสถานที่สวยๆ ที่ยังไม่ได้ไปสัมผัสอีกหลายแห่ง สงขลา-สตูล สองเมืองต้องมนต์ที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต