Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

คู่มือเที่ยวไต้หวัน สำหรับมือใหม่ ฉบับ 4 วัน 3 คืน กับ 18 สถานที่ห้ามพลาด

คู่มือเที่ยวไต้หวัน สำหรับมือใหม่ ฉบับ 4 วัน 3 คืน กับ 18 สถานที่ห้ามพลาด


หลังจากที่ทำงานอย่างหนักมาทั้งปี ปลายปีแบบนี้ก็คงถึงเวลาที่เราต้องพักสมองจริงๆ จังๆ สักที โชคดีที่มีโอกาสเดินทางไปประเทศไต้หวันกับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินปฐมฤกษ์ เมื่อปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา 

ถือซะว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ไปเที่ยว ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไต้หวันเป็นประเทศที่มีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย แถมค่าเงินก็ยังไม่ต่างกับเมืองไทยมากนัก เทียบค่าเงินง่ายๆ 1 ดอลลาร์ไต้หวัน = 1.13 บาทไทย (โดยประมาณ) เวลาจะซื้ออะไรก็ไม่ต้องคำนวณค่าเงินให้วุ่นวาย มันจะคล้ายๆ กับการที่เราใช้เงินช้อปปิ้งที่เมืองไทย และนี่คือ การไปเที่ยวไต้หวันครั้งแรกของเรา แถมยังไปคนเดียวด้วย มันก็จะตื่นเต้นๆ นิดนึง 
บรรยากาศการเช็คอินตอน ตี 2 ก็จะโล่งๆ แบบนี้ ระดับความง่วงนี่คงไม่ต้องพูดถึง (ตาจะปิดอยู่แล้ว) 
ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ตี 3.45 น. ถึงสนามบินเถาหยวน ประมาณ 08.35 น. ซึ่งการบินช่วงเวลานี้ก็จะง่วงๆ หน่อย ขึ้นเครื่องปุ๊บก็พร้อมหลับเลยทันที แต่ก็จำเป็นต้องตื่นขึ้นมาตอนแอร์ฯ มาเสิร์ฟอาหาร ช่วงเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งก็เลยหลับได้งีบนึง พอไปถึงสนามบินเถาหยวน ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทริปแล้วก็ขึ้นรถบัสพร้อมเที่ยวทันที (ครั้งนี้เราเดินทางไปกับ Eagle Tour ) ระหว่างที่ไกด์เล่าเรื่องราวโน่นนี่ หูก็ฟัง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับความสวยงามของอาคารบ้านเรือน และวิวสวยๆ ข้างทาง จากที่ง่วงๆ อยู่เมื่อกี้ ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นการถ่ายรูปมือระวิง นี่แค่เลี้ยวออกมาจากสนามบินไม่นานก็มองเห็นตึก 101 ตึกที่สูงที่สุดในไต้หวันแล้วล่ะ ตื่นเต้นๆการเดินทางในไต้หวัน จะมีทางด่วนค่อนข้างเยอะ ทำให้รถไม่ติดเหมือนที่เมืองไทย วิธีการเก็บค่าทางด่วนก็ทันสมัยด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่หน้ารถ ระบบจะคิดเงินตามระยะทาง โดยที่รถไม่ต้องจอดจ่ายเงิน (ไฮเทคจริงๆ) วันแรกที่ไป โชคไม่ดีที่ฝนตก ทำให้เราต้องถือร่มติดตัวตลอดเวลา ที่หมายแรกของทริปนี้คือ การนั่งรถไปเมืองเย่หลิว ไปชมอุทยานธรณี เย่หลิว (Yehliu Geopark) ซึ่งเป็นอุทยานกลางแจ้ง แต่เป็นเพราะฝนยังตกอยู่ เราเลยแวะมาทานอาหารกลางวันไวกว่าเดิมนิดนึง รอฝนซา แล้วค่อยออกไปเที่ยวอุทยานหินแปลกที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล อาหารมื้อแรกของเรา ทานกันที่ Fisherman’s Kitchen ภายในโรงแรม Boutix Resort Hotel ที่นี่เป็นโรงแรมที่มองเห็นวิววทะเล (บรรยากาศดีเชียว) อาหารบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันของทางโรงแรม ที่มีทั้งอาหารทะเล อาหารญี่ปุ่น และอาหารจีน ดูท่าทางว่าคนไทยจะมาเที่ยวกันเยอะ ชื่อเมนูอาหารมีภาษาไทยกำกับเอาไว้ด้วย พอฝนเริ่มซา ก็ได้เวลาเดินเข้าไปชื่นชม อุทยานฯ เย่หลิว...แต่ด้วยความเคยชิน เวลาอยู่เมืองไทย ฝนตกก็กางร่ม ไม่ค่อยได้ใส่เสื้อกันฝน ก็เลยเลือกที่จะเดินกางร่มเข้าไปในอุทยานฯ ทั้งๆ ที่มีเสื้อกันฝนมาด้วยแท้ๆ พอเข้าไปถึงข้างในเท่านั้นล่ะค่ะ คุณผู้ชม ลมแรงมากกกก ร่มกระจุย พังลงไปในพริบตา 555 พลาดละเรา! ฝนก็ตกพรำๆ ตลอดเวลา เดินถ่ายรูปได้ไม่นาน ก็เลยต้องเดินกลับไปที่รถก่อน สารภาพเลยว่า ยังเดินไม่ทั่วจริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เราอึ้ง! ก็คือ อุทยานฯ เย่หลิว มีคนมาเที่ยวกันเยอะมากกก นี่ขนาดวันศุกร์นะเนี่ย เสาร์-อาทิตย์จะเยอะขนาดไหน และที่สำคัญเราเจอนักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยวที่นี่เยอะจริงๆ ไฮไลท์ของที่นี่ คือ หินราชินี ที่สร้างหินจำลองไว้ด้านบน แม้จะเดินไปไม่ถึงริมชายหาด ก็สามารถถ่ายภาพที่นี่แทนได้ ออกจากเมืองเย่หลิว ก็มุ่งหน้าไปที่เมืองอี่หลัน ซึ่งเป็นภาคตะวันออกของไต้หวัน ไปพักที่ DANCEWOODS Resort & Hotel รีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ทั้งการแสดงต่างๆ การเดินชมพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ จากของสะสมของเจ้าของรีสอร์ท 
และยังได้แต่งกายในชุดกิโมโน ถ่ายรูปกันสนุกๆ แบบนี้ด้วย 
ส่วนนี่คือมุมจิบน้ำชา ที่เตรียมไว้ให้แขกที่มาพัก หลังจากเดินเล่นเที่ยวชมรีสอร์ทจนทั่ว ก็นั่งรถออกไปเดินช้อปปิ้งและทานอาหารเย็นกันที่ ตลาดไนท์มาร์เก็ต หลัวตง (Loutong Night Market) 
นี่คือบรรยากาศในห้องพัก มีชุดกิโมโน วางไว้ให้ด้วยนะ ถ้าใครอยากจะใส่เก๋ๆ ก็หยิบขึ้นมาใส่ได้เลย
มืดแล้วแต่ฝนก็ยังตกอยู่ นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็เลยต้องเดินกางร่มกันตลอดเวลา ร้านในตลาดไนท์มาร์เก็ต หลัวตง (Loutong Night Market) ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ด ร้านก็เยอะ คนก็เยอะ แวะมา ตลาดไนท์มาร์เก็ต หลัวตง ทั้งทีต้องไม่พลาดเมนู เต้าหู้เหม็น เหตุผลที่เรียกกันแบบนี้ ก็น่าจะมาจากกลิ่นเฉพาะตัวของเจ้าเมนูนี้ นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าคือ เมนูเด็ดประจำตลาด ก็คงเดินผ่านไปแล้ว ตอนแรกก็ว่ากลิ่นไม่โอเค แต่พอได้ชิมเท่านั้นละ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน เฮ้ย! อร่อยอ่ะ! อร่อยจนสั่งเบิ้ลด้วยจ้า นอกจากเต้าหู้เหม็น ก็มีเมนูเหล่านี้ ที่ขายอยู่คู่กัน (ส่วนใหญ่รสชาติก็จะจืดๆ หน่อย) ก่อนมาเพื่อนบอกว่า มาไต้หวันต้องชิมชาแบบนี้นะ มีขายในเซเว่น หาง่ายมาก เจอที่แรกก็เลยขอชิมรสชาติชานมไต้หวันกันสักหน่อย เดี๋ยวตอนกลับเมืองไทยค่อยมาคิดอีกที ว่าจะซื้อกลับไปฝากใครบ้าง ขวดนี้ ราคากำลังดี 28 ดอลลาร์ไต้หวัน และนี่คือ บรรยากาศยามเช้าของ DANCEWOODS Resort & Hotel เมื่อวานตอนมาเช็คอินฝนตก กลับจากไนท์มาร์เก็ตก็มืด เช้านี้ ฝนไม่ตกก็เลยได้เห็นวิวสวยๆ แบบนี้จากระเบียงห้องฟัก ทานอาหารเช้า แล้วออกเดินทางต่อไปยังเมืองจีหลง (Keelung) และนี่คือ บรรยากาศต่างจังหวัดของไต้หวัน บ้านเรือนจะเป็นตึก ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา พวกเราแวะเที่ยวกันต่อที่ YM Oceanic Culture and Art Museum พิพิธภัณฑ์ทางทะเล ที่มีการจำลองการเดินเรือ รวมถึงเส้นทางการเดินเรือ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จากนั้นก็เดินเล่นถ่ายรูป ลัดเลาะไปทางชายฝั่ง เพื่อเดินไปชมงาน 2017 Keelung City Expo ที่กำลังจัดอยู่พอดี เดินเล่นชิลล์ๆ กับอากาศในช่วงกลางวัน ประมาณ 21 อาศา นับว่าอากาศกำลังดี โอ๊ย! อยากให้ช่วงกลางวันที่เมืองไทยอากาศแบบนี้จังเลย ป้ายนี้ น่าจะเพิ่งสร้างเสร็จ เพราะดูๆ แล้ว มีคนแวะถ่ายรูปตลอดเวลา เรายืนรอนานมากกว่าจะได้ภาพนี้วันนี้เราแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ร้าน Yu Pin Hsuan Seafood Restaurant กับเมนูที่อัดแน่นแบบนี้ กินมื้อเดียวอิ่มยันเย็นกันเลยทีเดียว เราออกเดินทางจาก เมืองจีหลง ไปเที่ยวกันต่อที่ พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำและหมู่บ้านแมวเมืองหูต่ง Houtong Cat Village ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันพิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำ จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับการทำงานในเหมืองแร่ โดยการนั่งรถไฟลอดใต้อุโมงค์ ซึ่งรถไฟที่เรานั่งเป็นรถไฟคันเก่าที่เคยใช้งานจริงๆ มันก็เลยดูขลังๆ หน่อย นั่งรถไฟลอดอุโมงค์ แวะชมการสาธิตการอุปกรณ์ในเหมืองแร่แล้วก็ถ่ายภาพกับรถไฟเป็นที่ระลึก
จากนั้นเดินข้ามสะพานไปยัง หมู่บ้านแมวเมืองหูต่ง Houtong Cat Village ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากจะมีน้องแมวน่ารักๆ แล้ว ยังมีวิวสะพานข้ามแม่น้ำอยู่ทางซ้าย ส่วนทางขวามือก็จะมีรถไฟวิ่งผ่าน หมู่บ้านแห่งนี้จะมีน้องแมวนั่งๆ นอนๆ อยู่ตามจุดต่างๆ แต่ถ้าใครติดภาพคาเฟ่แมวที่เมืองไทยก็อาจจะผิดหวังนิดนึง เพราะแมวที่นี่จะติสต์กว่า ลูบหัวได้ แต่เค้าจะไม่ยอมให้อุ้ม แต่ละจุดที่เราเดินผ่านก็จะมีภาพวาดน้องแมว และมีของฝากรูปน้องแมวน่ารักๆ ให้ซื้อกลับบ้านด้วย เราก็เลยซื้อตุ๊กตาแมวตัวเล็กๆ กลับมาเป็นของที่ระลึก กำลังเดินเที่ยวหมู่บ้านแมวอยู่เพลินๆ แต่พี่ไกด์บอกว่า ต้องไปต่อละ ไปเที่ยวตลาดโบราณ จิ่วเฟิ่นกัน เดี๋ยวจะมืดซะก่อน ตลาดโบราณ จิ่วเฟิ่น (Jiufen) เป็นหมู่บ้านบนเนินเขา ที่ยังคงอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนแบบโบราณเอาไว้ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก มีตรอกซอกซอยค่อนข้างเยอะ ถ้ามีเวลามากหน่อย ก็คงอยู่ที่นี่ได้เกือบทั้งวันเดินขึ้นบันไดไปสักพัก ไกด์จะพาไปที่จุดชมวิว สวยๆ แบบนี้ เสียดายที่ฝนกำลังจะตก ก็เลยได้ภาพตอนฟ้าหม่นไปนิดนึง และที่นี่ก็มีรูปปั้นแมว นอนยิ้มทักทาย แขกผู้มาเยือน ของเด็ดประจำตลาด ก็คือ บัวลอยไต้หวัน แป้งจะชิ้นใหญ่กว่าบัวลอยบ้านเรา ส่วนรสชาติน้ำกะทิจะคล้ายๆ น้ำกะทิข้าวเหนียวถั่วดำ รสชาติจะไม่หวานมาก และยังมี ไอศกรีมถั่วตัด เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ พอดีร้านนี้คนเยอะมากเราเลยได้ชิมจากเพื่อนนิดหน่อยเท่านั้น (ไม่ได้ถ่ายรูปเลย) ส่วนของที่ระลึกก็มีเยอะมาก ทั้งพวงกุญแจรองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น ตุ๊กตาตัวเล็กๆ ถ้าเป็นคนที่ชอบของกระจุกกระจิก คุณจะเดินช้อปอย่างเพลิดเพลินเหมือนกับเราที่จริงอยากเที่ยวต่อ แต่ก็ถึงเวลาอาหารเย็นอีกแล้ว อาหารเย็นก็ยังคงจัดเต็มเหมือนมื้อก่อนๆ รอบนี้เราแวะที่ร้าน Youxin Seafood Restaurant กับเมนูสุดอลังการที่กินไม่หมดอีกตามเคย ทริปนี้ นอกจากเราจะแวะเที่ยว แวะกินกันหลายที่แล้ว ที่พักเราก็เปลี่ยนบรรยากาศกันอยู่ตลอด คืนนี้พักที่ Hotels6 Star Motel by 168 H&M Group 
ทานอาหารเช้า เติมพลังที่โรงแรม แล้วไปเที่ยวชมโรงงานผลิตของฝากสุดฮิตใน New Taipei City นั่นก็คือ พายสับปะรด Brand เหว่อเก๋อ นั่นเอง
เราไม่ได้แวะมาเพื่อซื้อของฝากอย่างเดียวเท่านั้นนะ แต่มีโอกาสได้ทำ DIY พายสัปปะรด กันด้วย ที่นี่เค้าจะเตรียมแป้ง เตรียมไส้ และเตรียมพิมพ์เอาไว้ให้เราได้ลงมือปั้นพายสับปะรด แล้วเค้าจะนำไปอบ ใส่กล่องให้เรากลับบ้านแบบนี้ ที่เหลือก็ซื้อกลับไปเป็นของฝากส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมซื้อ พายสับปะรดและพายเผือก 10 ชิ้น ราคาจะอยู่ที่ 380 ดอลลาร์ไต้หวัน นักท่องเที่ยวแต่ละคนซื้อขนมกลับกันเต็มไม้เต็มมือ แล้วเราก็เจอคนไทยที่นี่ เยอะเหมือนเดิม เผลอแป๊บเดียว ได้เวลามื้อเที่ยงอีกแล้ว รู้สึกว่าทริปนี้ พวกเราจะจัดหนักกันตลอด กินดีอยู่ดีกันมากๆ ดูอาหารแต่ละจานสิ มาแบบเน้นๆ ทั้งนั้นณ จุดนี้คือ การนั่งรถบัสสองชั้นชมเมืองไทเป (Taipei Sightseeing) ซึ่งเพิ่งเปิดได้ไม่นาน รถนำเที่ยวคันนี้ จะพาชมไปรอบๆ เมือง แล้วนี่คือ ไฮไลท์ กับการนั่งมองยอดตึก 101 ตึกที่สูงที่สุดของไต้หวัน หลังจากนั่งรถชมเมืองแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การเยี่ยมชม อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (Chiang Kai-Shek Memorial Hall) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีตผู้นำ ซึ่งทัศนียภาพโดยรอบ สวย สง่า สมเกียรติจริงๆ มุมนี้ใครมาก็ต้องถ่าย จนกลายเป็นแลนด์มาร์คไปแล้ว ส่วนนี่คือ รูปปั้น อดีตประธานาธิบดี เจียงไคเช็ค ท่านดูใจดีมากๆ ก่อนเคารพธงชาติ จะเป็นช่วงเวลาที่ทหารเปลี่ยนเวร คนที่แวะมาเที่ยวก็จะมายืนดูแบบใกล้ชิดแบบนี้ เดินเล่นพักแป๊บนึงก็ใกล้มืดพอดี เย็นนี้เราจะไปกินชาบูหมาล่ากันTAKAO 1972 เป็นร้านอาหารในเครือ City Suites ร้านนี้ คนเยอะมากกก ไฮไลท์อยู่ที่ซุปหมาล่าที่หอมกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร แม้สีสันจะจัดจ้าน แต่คนกินเผ็ดไม่เก่งอย่างเรา กินได้สบายๆ ชาบูของที่นี่ จะมีให้เลือก แบบเซ็ตเนื้อ เซ็ตหมู และซีฟู้ด 1 คน 1 เซ็ตกำลังดี ปิดท้ายทริปของเราด้วยการเดินช้อปปิ้งที่ ซีเหมินติง (Ximending) เค้าว่ากันว่า ที่นี่เปรียบเสมือนสยามสแควร์บ้านเรา ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมาช้อปปิ้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เรามีเวลาเดินไม่มาก ก็เลยเดินดูรองเท้า เดินหาซื้อชานมกลับไปเป็นของฝาก แต่ใครจะเชื่อว่า ชานมหมดทุกเซเว่นเลยจ้า นักท่องเที่ยวเหมากันไปหมดแล้ว ซื้อติดมากลับมาได้แค่ 2 ขวดแค่นั้นเองคืนสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย พักที่โรงแรม Midtown Richardson Hotel ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ ซีเหมินติง (Ximending) เดินช้อปปิ้งกันเมามันกระเป๋าแทบปิดไม่ลง นี่ถ้าไม่ต้องรีบกลับไปทำงาน ก็อยากอยู่เที่ยวต่อซะเหลือเกินขอบคุณสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ ที่ชวนเราไปร่วมทริปสนุกๆ แบบนี้นะคะ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อ่านรีวิวแล้วอยากไปเที่ยวตาม ก็สามารถเช็คตารางการบิน ได้ที่เว็บไซต์ Thai Lion Air 
โทร. 0-2529-9999 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่น่ารักของเราด้วยน้า #ThaiLionAirFlyToTaipei #TaiwanTourism #TimeforTaiwanBKK

สอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม ได้ที่
สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (การท่องเที่ยวไต้หวัน) 
ที่อยู่ : ชั้น 20 ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถ.สาทร กรุงเพทพฯ
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 087.30-16.30 น.
โทร. 0-2670-0200 

ถ้าอยากมีไกด์ชาวไต้หวันที่พูดไทยชัดมาก ก็ติดต่อ Eagle Tour Land Taiwan ได้เลยจ้า 
โทร. 0-2645-4224

ข้อมูลโรงแรมที่พัก

Boutix Resort Hotel Yehliu 
No. 162-2, Kantung Rd., Yehliu Village, Wanli District, New Taipei City 20733, TaiwanTEL: 886-2-7703-5777 www.boutixhotels.com.tw

DANCEWOODS Resort & Hotel No. 459, Section 2, Wubin Road, Wujie Township, Yilan County 26841TEL: 886-3-9603-808 www.dwsresort.com.tw

6 Star Motel (เถาหยวน) by 168 H&M Group No. 721, Jingguo Rd., Taoyuan District, Taoyuan, Taiwan, 33044TEL: 886-3-346-7668 https://168inn.com.tw/

Hotel Midtown Richardson No. 4, Xiushan Street, Zhongzheng District, Taipei City, Taiwan 100TEL: 886-2-2375-7777 http://www.midtownrichardson.com/

แนะนำโรงแรมเพิ่มเติม

i-Hotel Zhongli (โรงแรมธีมเกมในห้องพัก) 5F., No. 18, Sec. 1, Zhongmei Rd., Zhongli District, Taoyuan, Taiwan, 32085TEL: 886-3-494-5533 https://168inn.com.tw/

Hotel PaPa Whale No. 46, Kunming Street, Wanhua District, Taipei City, Taiwan 108TEL: 886-2-2331-1177 http://www.papawhale.com/zh-tw/PaPa+Whale
 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED