Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

ดอยอ่างขาง สถานที่ๆควรมาเป็นคู่ แต่ทำไมตรูต้องมาคนเดียวเพื่อทรมานตัวเองงง !!!

ดอยอ่างขาง สถานที่ๆควรมาเป็นคู่ แต่ทำไมตรูต้องมาคนเดียวเพื่อทรมานตัวเองงง !!!


สวัสดีครับ !!!
(กระทู้นี้รูปไม่เยอะ และอาจมีคำหยาบนิดนึง พิมพ์ตามฟิลลิ่ง ขอบคุณครับผม)
หลายๆคนอาจพูดนำว่า นี่เป็นกระทู้แรกของผม หรืออะไรต่างๆนาๆ แต่สำหรับผมนี่คือกระทู้ที่ 4 
และอาจจะเป็นกระทู้สุดท้ายแล้วหมดแรงและกำลังใจอะไรหลายๆอย่าง ท้อครับ 
เพราะคนที่ผมอยากให้ร่วมยินดีกับผลงานของผมเขาไม่อยู่แล้ว 
และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ผมต้องไปดอยอ่างขางคนเดียว


 

เกริ่นนำ !!
จริงๆผมก็ไม่ได้อยากไปคนเดียวหรอก วางแผนไว้จะไปกับแฟนครับ 
แต่ก็ดันเลิกกันซะก่อน ก่อนวันไปซะด้วย 

เริ่มต้นวันที่ 16 พฤศจิกายน ผมได้ทะเลาะกับแฟนหนักมาก เราอยู่ไกลกัน 
ผมอยู่กรุงเทพ แฟนผมเรียนอยู่เชียงราย ผมตัดสินใจขึ้นไปหาเธอวันนั้นเลย 
นั่งรถทัวร์ถึงเชียงรายวันที่ 17 พฤศจิกายน เวลา 6 โมงเช้าครับ เป็นอะไรที่ทรมานและเมื่อยมากก 
ผมเดินไปหาเธอพร้อมกระเป๋ากล้อง ขาตั้ง เสื้อกันหนาว และกระเป๋าเสื้อผ้า
ที่เตรียมตัวมาอยู่ด้วยกันด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ดีกันครับ เราเลิกกัน 
เหมือนหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างหายวับไปกับตา 
ใจหายน้ำตานองมากกก เราเลิกกันผมไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดเธอเลย 
ผมนี่แหละเป็นคนผิดเองทุกอย่างที่ทำให้เราต้องเลิกกันแบบนี้
หลังจากนั้นผมตัดสินใจ เอาวะไหนๆก็จะไปละนี่ อยู่ถึงเชียงรายละ 
ดอยอ่างขางก็ไม่ไกลจากนี่มากไปคนเดียวก็เอาวะ ถือว่าไปถอน (พูดเหมือนกินเหล้า) 
เป็นการตัดสินใจที่ดีรึเปล่าไม่รู้ ตัดสินใจเช่ารถที่เชียงรายขับไปอ่างขางวันนั้นเลย เธอขออาสาไปส่งผมที่เช่ารถ 
หลังจากเช่ารถเสร็จผมได้ขอกอดเธอก่อนไป 
น้ำตาแทบไหลแต่ต้องกลั้นไว้ ไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ

ระหว่างขับรถไปโคตรเหงา จากที่เคยมีคนนั่งข้างๆวันนี้กลับไม่มีแล้ว 
หิวก็หิว แต่ก็กินอะไรไม่ลง มีขนมปัง 1 ก้อนประทังชีวิต
ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงครับ ด้วยความไม่ชินทางเลยไม่รีบขับ 
ถ้าจำไม่ผิดออกจากเชียงรายไปทาง แม่สลอง - ท่าตอน - แม่อาย - ฝาง - ไชยปราการ - อ่างขาง 
ต้องบอกก่อนว่าขึ้นดอยอ่างขางทางไชยปราการเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก 
เพราะชันและอันตรายสุดๆ ขับรถไม่ชำนาญไม่ควรขึ้นเองเด็ดขาด ผมเช่ารถเครื่อง 1200 ไปเกือบขึ้นไม่รอด 
ถ้านั่งเต็มคันรถนี่ไม่ไหวแน่ ถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับการมาคนเดียว 5555

ถึงอ่างขางประมาณ 15.30 น. ไปดูที่กางเต๊นท์ที่จุดชมวิวม่อนสน 
เงียบมากไม่มีคนเลยขับไปที่สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง รอซื้อบัตรเวลา 16.30 น. ครับ 
เพราะจะได้เข้าพรุ่งนี้ได้โดยไม่เสียเงินอีก 1 วัน

ระหว่างรอก็เปิดดูเฟส นอนรอบนรถก็ร้องไห้ไปด้วย 
มันเป็นอะไรที่เหงามากครับ ในใจคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่มาก 
ตรูไม่น่ามาเลย โคตรเหนื่อย และล้าสุดๆ
เอาหละเรามาเริ่มดูรูปกันเลยดีกว่า

ปล.ขออนุญาติแทรกเรื่องราวระหว่างชมรูปภาพนะครับ , 
บางภาพสีอาจเกินจริง Process ตามอารมณ์ครับผม


 

" สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง "
เวลา 16.30 ก็ซื้อบัตรเข้าไปเรียบร้อย เรื่องราคา ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเดี๋ยวจะรีวิวให้ตอนท้ายนะครับ 
เข้าไปขับรถวนไปวนมา 2 รอบ แนะนำที่นี่เห็นตรงไหนสวยรีบจอด รีบถ่ายเลยครับ 
บรรยากาศดีมากครับ อากาศเย็นๆ ทำให้หายเศร้าไปได้หน่อยนึง
" สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง "
ฝั่งตรงข้ามมีม้าแต่งชุดชาวเขา เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ น่ารักมาก 
ผมรีบคว้าโทรศัพท์หยิบมาถ่ายรูปม้าตัวนี้ให้เธอดู อยากให้เธอเห็นสิ่งที่เราเห็น 
ถึงเราจะไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วก็ตามขึ้นม้าถ่ายรูปได้นะครับ 
แต่น่าจะเสียเงิน อันนี้ผมไม่ได้ขึ้นเลยไม่รู้ราคาเท่าไหร่
" สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง "
มาต่อกันที่ สวนบ๊วย Location สุดฮิตเลย คนมาอ่างขางต้องมาที่นี่ 
แต่เสียดายมากก เวลาที่ผมไปนี่แดดไม่เข้าส่วนนี้เลย ลองมารอบเช้าอีกรอบก็ไม่มีแดด 
ถ้าเธอมาด้วยเธอคงให้ผมถ่ายรูปให้เยอะมากก เธอน่าจะชอบ ผมก็ชอบถ่ายให้เธอนะ มีความสุขดี
ภาพแสงไม่ค่อยโอเคเลยต้องปรับให้มันดูมีอะไรนิดนึง หากขัดตาขออภัยครับ TT
" สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง "
ต่อมาที่นี่ ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร แต่เป็นระหว่างทางที่จะขึ้นไปบ้านขอบด้ง 
เห็นบรรยากาศและแสงสวยดี Location ก็งาม จัดเลยครับ เป็นวัยรุ่นต้องย้อนแสงง !!
" จุดชมวิวม่อนสน "
ขับรถชมเรื่อยเปื่อยก็เกือบเย็นแล้วครับ เลยกลับไปที่จุดชมวิวม่อนสน 
ตัดสินใจว่าจะเช่าเต็นท์ดีไหม หรือนอนบนรถดี พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว 
อากาศเย็นมากกก ขึ้นรถปุ๊บเห็นอุ่นดี เอาวะ ตัดสินใจนอนบนรถแมร่มม ประหยัดงบ
ระหว่างนั้นเดินออกไปกินข้าวใกล้ๆจุดชมวิว มีร้านหมูกระทะ แต่ผมกินคนเดียวไม่หมดแน่ 
เลยถามแม่ค้ามีอาหารตามสั่งไหม เขาบอกมีแต่ไข่เจียว ก็เลยสั่ง 1 จานครับ
สรุปกินไปได้ 4-5 คำเลิกกินครับ ไม่รู้เครียดจนกินไม่ลง หรือไม่อร่อย

เดินกลับมาที่รถครับ นอนสักพักเปิด Facebook ก็น้ำตาไหลอีก 
เห็นรูปเธอ เปิดดูรูปเก่าๆยิ่งเศร้า วันที่ผมอยู่อ่างขางเธอฉลองวันเกิดกับเพื่อน
เพราะวันถัดมาจะเป็นวันเกิดเธอ เธอคงมีความสุขกับเพื่อน แต่ผมนี่สิ จะตายอยู่บนนี้แล้ว 
ผมตัดสินใจ Line บอกแม่ว่าเลิกกับเธอ แม่โทรมาน้ำตานี่ไหลพรากเลย อยากกลับบ้าน 
ร้องจนหยุดร้องไปรอบ สักพักเดินออกมานั่งเล่นที่จุดชมวิว ระบายกับเพื่อนผ่าน Line 
เพื่อนก็โทรมา ปล่อยโฮอีกรอบ โอ้ยย มันเศร้าจริงๆ

นั่งจนมืดครับ ตัดสินใจกลับรถไปเอากล้องมาลองถ่ายทางช้างเผือกซักหน่อย 
อากาศตอนนั้นค่อนข้างหนาวครับ แต่หนาวไม่เท่าเหงา ที่ยิ่งกว่านั้นคือ 
นักท่องเที่ยวแต่ละคนต่างมาเป็นคู่กันทั้งนั้น 
ต่างกับผมที่มาคนเดียว ทำให้เหงาขึ้นไปอีก 
อะไรมันจะขนาดนี้ ถ่ายได้แปปเดียวก็ต้องเดินกลับรถ
" จุดชมวิวม่อนสน "
กลับมาถึงรถตั้งใจจะนอน ละตื่นมาดูฝนดาวตกตอนตี 3 ครับ 
ตอนนั้นเป็นวันที่มีฝนดาวตกพอดี กินยานอนไปได้แปปเดียว ตื่นครับ !!! 
ไม่ใช่ผีหลอกอะไรทั้งนั้น แต่ หนาว ship หายยยย รถโคตรเก็บกักความเย็น 
ออกไปข้างนอกยังรู้สึกดีกว่า แต่จะไปเช่าเต็นท์ก็ไม่ทันละครับ เขาปิดหมดแล้ว 
ผมนี่คุ้ยเสื้อผ้าทั้งหมดในกระเป๋ามาทำผ้าห่ม ในใจคิด นี่ตรูมาทำไรที่นี่ 
เหงาก็เหงา หนาวก็หนาว สุดท้ายหลับๆตื่นๆ

จนเวลาตี 3 แต่ก็ไม่ได้ออกมาดูฝนดาวตกอยู่ดีครับ 
เพราะด้วยความหนาวและเริ่มขี้เกียจแล้ว จึงนอนยาวยันตี 5 ถึงตื่นมาถ่ายดาวอีกรอบ 
มันเหงาเหลือเกิน ถ่ายรูปไปก็นึกถึงวันที่เราไปเที่ยวด้วยกันตอนปีใหม่ที่ภูชี้ฟ้า 
จำได้ว่าเราตื่นเช้าเดินขึ้นภูมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน 
ตอนนี้มีความสุขมากมาย ผิดกับตอนนี้จากหน้ามือเป็นหลังมือ
" ฐานปฎิบัติการ ดอยอ่างขาง "
หลังจากถ่ายดาวที่จุดชมวิวม่อนสนเสร็จก็รีบขึ้นรถขับมาที่นี่ต่อครับ 
อยู่ติดๆกันเลย เดินมาได้สบาย รีบมาเพื่อมาดูแสงเช้า 
เป็นอะไรที่หนาวและงดงามมากกกก แต่ถ่ายไปได้แปปเดียว
พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นผมก็ตัดสินใจขับไปจุดต่อไปต่อเพื่อรอแสงเช้าที่นั่นดีกว่า 
อยากให้เธอมาอยู่ตรงนี้ด้วยกันจัง เราคงจะมีความสุขน่าดู
" ไร่สตรอว์เบอร์รี บ้านนอแล "
ขับรถมาทันเวลาพอดี พระอาทิตย์ยังไม่ลับสันเขา 
ที่นี่ต้องบอกเลยว่าเวลาทองมีแค่ 30 นาทีเท่านั้น 
ต้องรีบเก็บเกี่ยวว ใบแรกครับ พระอาทิตย์เริ่มลับสันเขา 
แสงสีทองเริ่มสาดส่อง เมฆหมอกถูกพัดลอยผ่านหน้า 
โอ้ยย อะไรมันจะสวยและฟินมากขนาดนี้
" ไร่สตรอว์เบอรรี บ้านนอแล "
พระอาทิตย์มาแล้วครับ แสงทองอร่ามตามากกก ผมอยากให้เธอมาอยู่ที่นี่ด้วยกันจัง
แอบผิดหวัง ทำไมไม่มีคนแต่งชุดชาวเขามารดน้ำต้นสตอเบอร์รี่ เห็นคนอื่นๆเขาถ่ายมาได้ฟิลมากกก
" ไร่สตรอว์เบอร์รี บ้านนอแล "
ไม่เป็นไรครับ ไม่มีชาวเขา แต่มีช่างภาพอีกคนคอยเก็บภาพอยู่ เลยสอยมาซักใบนึง
" ไร่สตรอว์เบอร์รี บ้านนอแล "
มุมกระท่อมเหงาๆมั่งครับ จริงๆมุมนี้ผมเล็งไว้กะมาถ่ายกับแฟน 
แต่ก็นะ ไม่มีแล้ว ถ่ายเปล่าๆไปละกัน TT
" ไร่สตรอว์เบอร์รี บ้านนอแล "
รู้สึกฟินกับแสงแบบนี้มาก เป็นอะไรที่ผมชอบที่สุดแสงเช้าแบบนี้ 
สบายใจจนลืมเรื่องที่เครียดไปเลยย
" ไร่สตรอว์เบอร์รี บ้านนอแล "
เอามุมน่ารักๆของน้องๆชาวเขามาฝากครับ 
เห็นแล้วผมยิ้มเลย น้องๆน่ารักมากก
" ไร่สตรอว์เบอร์รี บ้านนอแล "
ดูใบนี้แล้วจะรู้ครับ น่ารักขนาดไหน 
ให้มองกล้องนี่ยิ้มให้กล้องน่ารักมากกก มารอบนี้ผมชอบใบนี้ที่สุดแล้ว
" ไร่ชา 2000 "
ณ ตอนนี้เป็นเวลา 7.50 น. แล้วครับ นัดส่งรถไว้เวลา 10.00 น. 
เลยได้ถ่ายเป็นรูปสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวไปไม่ทันโดนปรับ
เหมือนรู้สึกว่าที่นี่ควรมาเก็บเป็นแสงเย็นจะสวยกว่ารึเปล่า 
ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรครับ ไหนๆมาแล้วก็เอาซะหน่อย

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ค่ารถทัวร์ กรุงเทพฯ - เชียงราย = 578 บาท 
(ถ้าจาก กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ น่าจะราคาถูกว่านี้)
ค่าเช่ารถ = 800 บาท (จากเชียงราย)
ค่าน้ำมันรถ = 600 บาท (เหลือ)
ค่าเข้าสถานีเกษตรดอยอ่างขาง = 100 บาท
(ค่าที่จอดรถ 50 บาท + ค่าเข้าชม 50 บาท / คน)
ค่าข้าว + น้ำ บนดอยอ่างขาง = 50 บาท
ค่าตั๋วเครื่องบิน เชียงราย - กรุงเทพฯ = 925 บาท (ซื้อวันที่ขึ้น)
รวม = 3,053 บาท

ขอบคุณเรื่องราวและภาพถ่ายจากคุณ thanakitt14 
Facebook : https://www.facebook.com/thanakitt14 

 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED