สนุกตื่นเต้นกันอีกครั้งกับกิจกรรมดีๆ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘อีสาน แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม’ เพื่อเผยแพร่ความงดงามทางภูมิทัศน์และวัฒนธรรมท้องถิ่น สำหรับครั้งนี้เป็นการนำทัพสิงห์นักปั่นกว่า 300 คน พิชิตเส้นทางสุดมันส์ท่ามกลางธรรมชาติ ชมความน่าอัศจรรย์สองข้างทาง สนุกแค่ไหนไปดูกันเลย...
ทีมงานออกเดินทางพร้อมคณะสื่อมวลชนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสู่ท่าอากาศยานอุดรธานี จากนั้นจึงแวะซื้ออุปกรณ์จำเป็นสำหรับทริปนี้ นั่นก็คือ รองเท้าบูท!!
ประมาณ 08.30 น. พวกเราออกเดินทางสู่ ‘ภูทอก’ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อสักการะเจดีย์อัฐิธาตุพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ และชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูทอก
พวกเราเดินทางขึ้นไปด้วยบันไดไม้เวียนรอบภูทอก จำนวน 7 ชั้น มองเห็นวิวได้รอบแบบ 360 องศา ความแตกต่างของความงาม ขับเคลื่อนเปลี่ยนมุมมองในทุกๆ ก้าว
การเดินทางดำเนินต่อไป คราวนี้พวกเรามุ่งหน้าสู่ ‘บึงโขงหลง’ พื้นที่ชุ่มน้ำโลกแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำจืด พร้อมฟังเรื่องเล่าขานของคนท้องถิ่น เกี่ยวกับ ‘ตำนานปู่อือลือนาคราช’ ยิ่งทำให้รู้สึกได้ถึงความขลังของสถานที่แห่งนี้
แสงตะวันคล้อยต่ำบอกเวลาสิ้นสุดของเช้าวันนั้น พวกเราเดินทางเข้าที่พัก และรับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม เดอะ วัน
ตื่นแต่เช้า สองมือถือกล้องคู่ใจพร้อมก้าวย่างสู่ ‘ตลาดลาว’ ยามเช้า สัมผัสวิถีชีวิตริมโขงของชาวบ้านในระยะประชิด ของสดและพืชผักนานาชนิดวางเรียงรายให้คนมาซื้อหา เป็นความเรียบง่ายที่สร้างความผ่อนคลายแก่สายตาทุกครั้งเมื่อได้เห็น
เดินทางกันต่อ คราวนี้เป็นการเก็บภาพธรรมชาติแสนงดงาม โดยเดินทางไปยังบ้านดอนเสียด อำเภอเซกา สถานที่ไฮไลท์ของที่นี่เป็น ‘น้ำตกเจ็ดสี’ ทัศนียภาพสุดตระการตาโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ธารน้ำไหลสู่พื้นที่ต่ำตามหน้าผาหินทรายสูงและแผ่กว้างเป็นทางยาว ยามละอองน้ำกระทบกับแสงแดดอ่อนๆ จึงเกิดเป็นสีรุ้งตามชื่อเรียก
ถัดมาเป็น ‘น้ำตกถ้ำพระ’ ที่มีความงดงามไม่แพ้กัน ธารน้ำไหลมาตามภูเขาหินทราย มีบันไดขึ้นชมความงามของน้ำตกโดยรอบ โดยการเดินทางจะต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณ 500 เมตร และเดินอีก 100 เมตร แต่เป็นงดงามที่คุ้มค่าจริงๆ
หลังจากเก็บภาพความงดงาม พวกเราจึงเดินทางกลับที่พัก เพื่อเก็บแรงสำหรับภารกิจในวันถัดไป
พวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ราวกับเด็กน้อยกำลังจัดหนังสือใส่กระเป๋าก่อนมุ่งหน้าสู่ห้องเรียนแห่งธรรมชาติ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายเป็นความน่าอัศจรรย์ของกำแพงหิน ‘ภูสิงห์’
จากนั้น พวกเราจึงเดินทางสู่ ‘หนองกุดทิง’ หนองน้ำขนาดใหญ่กว่า 22,000 ไร่ ลึก 5-10 เมตร มีความหลากหลายทางชีวภาพ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญของโลกอันดับที่ 11 ของประเทศไทย
การสำรวจพื้นที่เสร็จสิ้น พวกเราจึงเดินทางกลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานใหญ่ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมในครั้งนี้ นั่นก็คือ กิจกรรมจักรยาน ‘Tour of Isan (Isan Classic) เส้นทางอัศจรรย์วิถีธรรมชาติ’
สิงห์นักปั่นกว่า 300 คน มาร่วมตัวกัน ณ ศาลากลางจังหวัด บึงกาฬ เพื่อลงทะเบียน โดยกิจกรรมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 เส้นทาง ดังนี้
เส้นทางที่ 1 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ-ป่าสงวนแห่งชาติภูสิงห์ (50 กิโลเมตร)
เส้นทางที่ 2 ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ-ภูทอก (70 กิโลเมตร)
ความครึกครื้นของผู้เข้าร่วมกิจกรรมแสดงออกมาให้ได้เห็นอย่างชัดเจน แต่ละคนแลดูมุ่งมั่นและตั้งใจ ไม่ใช่เพราะต้องการชัยชนะ หากแต่เป็นการร่วมแรงร่วมใจในการรวมตัวเพื่อเป็นสักขีพยานในความงดงามแห่งธรรมชาติของดินแดนภาคอีสาน
ท้ายสุดแล้ว กิจกรรมในครั้งนี้ ก็สำเร็จไปได้ด้วยดี ไม่มีคำว่า ‘แพ้’ ทุกคนเป็นผู้ชนะ สังเกตได้จากรอยยิ้มและความมุ่งมั่นในการไปให้ถึงเส้นชัยโดยยึดมิตรภาพเป็นสำคัญ ...ครั้งต่อไปจะเป็นที่ไหนกันนะ คงต้องติดตามกันต่อไป
ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ