วันนี้ EDTguide ขอเป็นไกด์พาตะลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองเลย ในแบบฉบับ 2 วัน 1คืน แบบจุใจกันไปเลย ทั้ง กิน ดื่ม เที่ยว ช๊อปปิ้งกับถนนยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด ครั้งนี้เราเดินโดยสายการบินแอร์เซีย ราคาย่อมเยาว์ และประหยัดเวลาการเดินทางไปได้หลายชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาทีเท่านั้น เครื่องลงปุ๊บก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักปั๊บ
ขอฝากเนื้อพักตัวไว้กับ Chic Chiangkhan Hotel (ชิค เชียงคาน โฮเทล) ตั้งอยู่ที่ ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จ.เลย ที่พักติดริมแม่น้ำโขง มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ที่พักไม่มีอาหารบริการ เพราะโรงแรมอยู่ติดกับถนนคนเดิน มองลงมาจากข้างบนที่พักก็จะมองเห็นชุมชนตลาด ส่วนด้านหลังของที่พักเป็นวิวแม่น้ำโขง สวยงามสุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนมาพักผ่อนจริงๆ
ห้องนอนมีระเบียงไม้หน้าบ้าน มองเห็นวิวตลาด ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมามากมาย ห้องพักตกแต่งสไตล์พื้นบ้านผสมผสานกับความโมเดริ์นสมัยใหม่ มีโต๊ะไม้สุดคลาสิกนั่งเล่นภายในห้องอีกด้วย
มาถึงก็เก็บกระเป๋าเข้าที่พักเสร็จก็ได้เวลาทานอาหารเช้า ร้านอาหารซอยซาว นั่งทานอาหารเช้ากับบรรยากาศสบายๆ ริมฝั่งโขง ไม่ไกลจากที่พัก เพราะมองลงมาก็สามารถเห็นร้านซอยซาว ได้เลยมาถึงเชียงคานทั้งทีอาหารที่ขึ้นชื่อก็น่าจะหนีไม่พ้น "ไข่กระทะ" เมนูของร้านนี้จะมีหลักๆเป็นเมนู โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่กระทะ และ ข้าวเปียกเส้น โอวัลติน ปาท่องโก๋ มาเชียงคานต้องไม่พลาดร้านนี้นะคะ ชีพจรลงเท้าแบบนี้แล้วได้เวลาหาที่เที่ยว
มาต่อกันที่นี่เลย >>> จุดชมวิวห้วยกระทิง จ.เลย เราไปฟังประวัติคร่าวๆกันก่อน อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบน หรือ อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิงตั้งอยู่ในวนอุทยานหริรักษ์ เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดิน มีขนาดความจุ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ไร่ สันเขื่อนยาว 800 เมตร ทัศนีย์ภาพที่สวยงามของป่าไผ่และภูเขาที่โอบล้อม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองเลย
มาถึงอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิงแล้วพลาดไม่ได้!! นอกจากทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว ยังมีกิจกรรม ล่องแพห้วยกระทิง เป็นการล่องแพไม้ไผ่ชมธรรมชาติบรรยากาศที่ร่มเย็น ลมโกรกสบายเมื่อลอยเรือแพอยู่กลางน้ำเก็บน้ำ พร้อมอาหารเมนูพื้นเมือง รสชาติอร่อยแบบดั้งเดิม ราคาไม่แพง แถมยังมีอาหารไว้คอยตอนรับนักท่องเที่ยวทุกวันอีกด้วย
ลงแพสักพักท้องก็เริ่มประท้วงร้องเสียงดัง ก็เริ่มสั่งอาหารมานั่งทาน เป็นอาหารพื้นเมืองก็หนีไม่พ้น ส้มตำ ไก่ย่าง คอหมูย่าง ปลาช่อนนึ่งสมุนไพร รสชาติดี ราคาไม่แพง ช่วงที่ไปอากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก แนะนำให้ไปช่วงต้นปีจะหนาวหมอกจะลง บรรยากาศก็จะคนละแบบกันกับช่วงหน้าร้อนค่ะ
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปเที่ยวก่อนกันต่อที่ "ภูป่าเปราะ" มาแวะเที่ยวภูป่าเปาะกันเลยเลยค่ะ ภูป่าเปาะ หรือเรียกอีกชื่อว่า ฟูจิเมืองเลย และที่มาของคำว่า "ภูป่าเปาะ"นั้นก็มาจาก ภูเขาที่มีป่าไผ่เปาะ เป็นไผ่ที่สามารถขึ้นได้ทุกที่ และมีมากในจ.เลยค่ะ ไผ่เปาะ มีลักษณะเป็นไผ่ที่เปาะและแตกหักได้ เลยเป็นที่มาของ "ภูป่าเปาะ" นั้นเองค่ะ
ภูป่าเปาะ มีจุดเด่นที่จุดชมวิวบนความสูงประมาณ 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นภูหอ อ.ภูหลวง ตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งภูหอมีลักษณะพิเศษคือ เป็นภูเขายอดตัดเป็นที่ราบบนภู มองดูคล้ายภูเขาไฟฟูจิยามา ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีเมฆขาวปกคลุม โดยภูป่าเปาะมีจุดชมวิว 4 จุด แต่ละจุดห่างกันประมาณ 200 เมตร จุดสูงสุดของภูป่าเปาะสามารถมองเห็นภูเขาได้รอบทิศ ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในจุดเดียวกัน
อย่ารอช้าไปต่อกันเลย >>> พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ตั้งอยู่ภายในวัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นสถานที่เก็บ และจัดนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่สืบต่อกันมา รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวง ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นที่รวมเอางานบุญพระเวส (ฮีตเดือนสี่) และงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) ให้เป็นงานบุญเดียวกันโดยงานบุญพระเวสมีวัตถุประสงค์จัดเพื่อให้ฟังเทศน์มหาชาติ ส่วนงานบุญบั้งไฟนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อถวาย บูชาเทวาอารักษ์รักเมือง ขอให้ฝนตกตามฤดูกาล ซึ่งผีตาโขนจะเป็นผู้ออกมาสร้างสีสันและความครื้นเครงในขบวนแห่ ส่วนชื่อของผีตาโขนนั้นเล่าต่อกันมาว่าน่าจะมาจากการสวมหน้ากากคล้ายหัวโขน หรือบางคนเรียกเป็นผีตาขน ผีตามคน และเพี้ยนเป็นผีตาโขนในที่สุด นอกจากส่วนที่จัดแสดงประวัติวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ แล้วภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงหุ่นผีตาโขนที่มีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกัน และมี 2 ประเภทคือ ผีตาโขนใหญ่ ผู้ชายและผู้หญิงจะไม่มีการทำใหม่ทุกปี แต่จะทำตามธรรมเนียมที่กำหนดไว้เท่านั้น และผีตาโขนเล็กที่เราพบเห็นกันทุกปี
จบแล้วค่ะ 1 วัน ถือว่าเหนื่อยใช่เล่นแดดร้อนแรงมาก เดินช๊อปก็เช็ดเหงือไปด้วย แต่เด๋วจะพาไปเดินช๊อปแบบไม่มีแดด เรียกได้ว่า ช๊อปได้ยาวๆ ชิลๆๆ อากาศเย็นสดชื่น ที่ถนนคนเดินเชียงคาน อยู่ตรงหน้าที่พักของเราพอดี ช๊อปเสร็จก็สามารถเข้าห้องพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย
ถนนคนเดินเชียงคาน จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. ของทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ถนนสายศิลปะที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาท่ามกลางบรรยากาศอันเรียบง่ายและเก่าเก่แห่งนี้ จะคับคั่งไปด้วยร้านรวงต่างๆ มากมายที่นำเอาสินค้าหลากหลายประเภททั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และข้าวของที่ระลึกอีกมากมายที่ประดิษฐ์ขึ้นมาจากไอเดียสุดเก๋ นำเอาศิลปะพื้นเมืองมาดัดแปลงให้มีความทันสมัยในสไตล์น่ารัก และในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือแผงลอยที่มีอาหารหลากหลายให้เลือกซื้อจนละลานตา ในช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของเมืองเชียงคาน ถนนคนเดินแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยสีสันและรอยยิ้มของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก ไปชมกันเลย
หมดเวลาสนุกแล้วสิ กับเวลาเดินช๊อป กิน เที่ยว ในหนึ่งวันเต็มๆ เจอทั้งแดดทั้งลม แต่ถ้าได้เห็นบรรยากาศของเมืองเลย ที่เต็มไปด้วยอรรยธรรมล้านนาแบบเต็มๆแบบนี้ถือว่าคุ้มมากๆค่ะ ได้เวลาเข้านอนและมาต่อกันในเช้าวันที่2
เช้าวันที่ 2 เช้าตรู่ตื่นมากับบรรยากาศริมโขง เยือกเย็น ทุกเช้าก็จะมีตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งชาวจ.เลย ทำกันมาแต่ช้านาน เราก็เลยไม่พลาดที่จะร่วมกิจกรรมตักบาตรตอนเช้ากันค่ะ
ตักบาตรกันเสร็จก็ได้เวลาชิลๆ ปั่นจักรยานดูวิวริมฝั่งโขงในยามเช้า ก่อนได้เวลาลากลับสู่โลกของความเป็นจริง
ทริปครั้งนี้ต้องขอขอบคุณการเดินทางจากแอร์เอเซีย ที่ทำให้การเดินทางสะดวก สบายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จองตั๋วราคาประหยัดออนไลน์ได้ที่ www.airasia.com อย่าลืมไปเที่ยวเมืองเลยกันนะคะ ไปแล้ว ไปเลย ไม่อยากกลับ เพราะไปแล้วคุณจะ "รักแล้ว รักเลย"

ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเลย “เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู”
ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเลย “เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู”
Information
OPEN
- ไม่พบข้อมูล
TEL
- ไม่พบข้อมูล
PRICE
- ไม่พบข้อมูล
ADDRESS
- ไม่พบข้อมูล
FACILITIES
- ไม่พบข้อมูล
CONTACT
- ไม่พบข้อมูล
SHARE

#hashtag
RELATED