Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

ตีโป่ง นุ่งโสร่ง 2 วัน 1 คืน ที่บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ เก๋ๆ คนละ 1,500

ตีโป่ง นุ่งโสร่ง 2 วัน 1 คืน ที่บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ เก๋ๆ คนละ 1,500



ทริปนี้ไม่มีอัลไรมาก ก็แค่อยากชวนเพื่อนๆ เที่ยววิถีไทยสไตล์โฮมสเตย์ ก็แค่อยากแขวนบิกีนี่ไว้ที่ทะเลแล้วลองมานุ่งผ้าถุง ใส่โสร่ง โดดน้ำ ตีโป่งเล่นเย็นๆ ในคลองดูบ้าง

บางคนอาจสงสัยตีโป่งคือไรแว๊ ตีโป่ง คือการนุ่งผ้าถุงแบบกระโจมอก โดยใช้มือข้างหนึ่งพุ้ยน้ำเข้ามาในชายผ้า ผ้าถุงจะพองลมขึ้นเหมือนลูกโป่งขนาดใหญ่ มืออีกข้างคอยรั้งชายผ้าถุงให้อยู่ใต้น้ำเพื่อกันไม่ให้อากาศที่อยู่ภายในออกไป

ซึ่งการเล่นลักษณะนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หัดว่ายน้ำใหม่ๆ แต่ชาวริมตลิ่งส่วนมากแม้จะว่ายน้ำเป็นแล้วก็ยังชอบเล่นตีโป่ง และใช้วิธีนี้สำหรับลอยตัวเล่นเพิ่มความสนุกสนาน *ข้อมูลจาก http://xn--12c2caaew7aqa3itai6d0g7etac.blogspot.com/2014/12/Tee-Pong.html

จึงเป็นที่มาของการชวนก๊วนเพื่อนสนิท ใครที่สมัครใจอยากมาสัมผัสวิถีชุมชนริมน้ำ และทำกิจกรรมสนุกๆ ด้วยกันที่ บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ จ.สมุทรสงคราม กินปลาทู นอนดูน้ำ ท่ามกลางลมพัดเย็นๆ แบบกินอิ่ม หลับสบาย แต่งบไม่บานปลาย และเที่ยวสนุกกันทุกคน ที่สำคัญใกล้กรุงฯ สุดๆ
เรานัดกันแต่เช้าเพื่อไม่ให้เสียเวลา ออกเดินทางกันตอน 7.30 น. ใครมาเลทโดนเทแน่นอน ดังนั้นถึงเวลานัดหมายทุกคนมากันอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้นคนนัดค่ะดันเลทซะเอง 555
เช็คเส้นทางเรียบร้อยก็ช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถ แล้วมุ่งหน้าไปทางถนนแจ้งวัฒนะ ข้ามสะพานพระรามสี่ ออกไปทางถนนราชพฤกษ์ ขนาดออกแต่เช้ารถก็ยังมาก เราเลยตกลงกันว่าเดี๋ยวแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจาก แล้วนั่งกินกาแฟและเบเกอรีรองท้องกันดีกว่า เพราะไม่อยากเสียเวลาหิวไส้กิ่วอยู่บนถนน
คิดได้ดังนั้นเลี้ยวป๊าบบบเข้าปั๊มบางจาก เติมน้ำมันให้เต็มถังด้วยการใช้คะแนนสะสมจาก บัตรบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ และดีเซลคลับ ที่สะสมครบ 500 คะแนน สามารถแลกเติมน้ำมันแทนเงินสดได้ 100 บาท
ซึ่งเราสะสมคะแนนไว้รออยู่แล้ว 2,600 คะแนน งานนี้ขอใช้สิทธิ์ไปก่อน 1,500 คะแนน เลยได้ทุ่นค่าน้ำมันไปเที่ยวฟรีๆ ตั้ง 300 บาท แถมเหลืออีก 1,100 คะแนน ไว้สะสมต่อได้อีก
เติมเสร็จแวะซื้อกาแฟสดและเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ ร้านอินทนิน การ์เด้นท์ ด้วยโปรโมชั่นส่วนลดจาก บัตรบางจากฯ ก็พร้อมออกเดินทางสู่จุดหมาย บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ จ.สมุทรสงคราม กันได้เลย
เราขับรถตามกันไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อนเพราะต้องการถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ เรามุ่งหน้าเข้าสู่เส้นพระราม 2 ตรงไป จ.สมุทรสาคร และปลายทาง จ.สมุทรสงคราม ก่อนที่ GPS จะชี้เป้าว่าอีกไม่กี่อึดใจก็ใกล้จะถึงแล้วนะ บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ ซึ่งเอาจริงๆ อีกนิดก็อัมพวาแล้วล่ะ มาไม่ยากเลย
พอเลี้ยวซ้ายเข้ามาจะเป็นถนนคอนกรีตเส้นเล็กๆ ทอดยาวซิกแซกไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอก ซึ่งก่อนถึงบ้านริมคลอง โฮมสเตย์ จะต้องผ่านวัดเสียก่อน ถ้าเห็นวัดก็ให้ขับผ่านทางดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเห็นป้ายบ้านริมคลอง โฮมสเตย์ ตั้งเด่นหราอยู่เลยค่ะ
ทางเข้าก็จะเขียวๆ ครึ้มๆ ร่มรื่นแบบนี้
ถึงแล้ว บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งยังเป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม และส่งเสริมความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งการทำน้ำตาลมะพร้าว ศิลปะหัตถกรรม วัฒนธรรมพื้นบ้าน และการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรอีกมากมาย
เรามาถึงกันเกือบ 11 โมง ก็เข้ามาสวัสดีทักทายฝากเนื้อฝากตัว คุณป้าเล็ก ประธานชุมชน และเป็นเจ้าของบ้านริมคลอง โฮมสเตย์ เสียก่อน คุณป้าแนะนำผลิตภัณฑ์ของชุมชนพร้อมอธิบายสรรพคุณให้เสร็จสรรพ แล้วยังบอกด้วยว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากศูนย์การเรียนรู้ ชาวบ้านผลิตเอง ขายเอง เงินก็เข้าชุมชนให้ชาวบ้านได้มีรายได้พอเลี้ยงตัว ได้ฟังแล้วชื่นใจจัง เศรษฐกิจพอเพียงมันดีอย่างงี้นี่เอง
ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นของกินของใช้เสียส่วนใหญ่ เช่น น้ำตาลมะพร้าว l น้ำหวานจากดอกมะพร้าว (Syrup) l กะปิคลองโคนอย่างดี l โลชั่นบำรุงผิวมะหาด l สบู่เกลือน้ำมันมะพร้าว l เกลือขัดผิวน้ำมันมะพร้าว l แชมพูมะกรูดสูตรโบราณ l สเปรย์สมุนไพรคลายเส้น ฯลฯ
หลังจากนั้นป้าเล็กก็บอกว่าให้ยกสัมภาระเข้าห้องพักได้เลย ไม่ต้องรอเช็คอินบ่ายสองเหมือนโรงแรมหรือรีสอร์ทใหญ่ๆ ทั่วไป ซึ่งเป็นข้อดีของวิถีบ้านๆ แบบนี้ ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย ห้องว่างอยู่ก็เข้าพักได้เลยลูก คุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์กล่าวไว้
เราไปกัน 5 คน จองห้องพัก 2 หลัง คือ บ้านไพรงาม หลังขนาดกลาง (ห้องน้ำในตัว นอนได้ 4-6 คน l ราคา 1,200 - 1,500 บาท) และบ้านลำพู ริมน้ำ (ห้องน้ำรวม นอนได้ 2 คน l ราคา 500 บาท) ขอบอกว่าอากาศดีมากๆ มีลมพัดโชยเอื่อยตลอดเวลา เพราะตั้งอยู่เหนือลม ต้นไม้ร่มครึ้ม เย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเลย
แค่พัดลมก็เอาอยู่ ตู้เย็นไม่ต้องใช้กับห้องข้างๆ ได้ อิอิ
มาดูห้องพักสำหรับ 4 คนกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันเล๊ย เดินแค่ 10 ก้าวก็ถึงแล้ว เพราะมีสะพานไม้เชื่อมกันเดินไปมาสะดวก ไม่ต้องกลัวเหงาหรือหว่าเว๊ และไม่น่ากลัวค่ะ
ห้องพักเกือบทุกหลังถูกออกแบบให้เปิดรับลมได้ทุกด้าน เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่นับว่าอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ ซึ่งห้องพักของที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ต้องง้อเครื่องปรับอากาศ และห้องเราก็เช่นกัน สบายสบายอ่ะ
ผ้าห่ม ที่นอน หมอน มุ้ง ผาเช็ดตัว เก็บไว้ในตู้อย่างดี หลังนี้เอาเข้าจริงนอนได้มากกว่า 6 คนเสียอีก
ระหว่างรอกินข้าวเที่ยงฝีมือคุณป้า เราก็ไปดูบรรยากาศรอบๆ และห้องพักหลังอื่นๆ กันดีกว่า
บ้านเรือนไทยหลังนี้พักได้ถึง 30 คน มีเครื่องปรับอากาศ มีครัวด้านล่างด้วย (ราคาสอบถามได้ตามจำนวนผู้เข้าพัก)
กลางคืนน้ำจะขึ้นมาถึงข้างบนเลยค่ะ แถวๆ รากต้นไม้ แต่กว่าจะขึ้นขนาดนั้นเราก็หลับไปแล้ว
นี่คือลูกจากค่ะ ช่อนี้ยังเป็นเด็กอยู่ถ้าโตเต็มที่แล้วจะมีเม็ดขาวๆ ใสๆ อยู่ข้างใน แต่ไม่ได้มีทุกช่อนะคะ ต้องสุ่มเอาถ้าโชคดีก็ได้กินอ่ะ
หน้าห้องพักมีเรือแล่นผ่านไปมาตลอด เพราะเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวชอบมานั่งเรือชมวิถีชีวิตริมคลอง และกลางคืนก็ล่องชมหิ่งห้อยกัน
เดินไปเดินมา กลิ้งไปกลิ้งมาชื่นชมทิวทัศน์ เอ๊ะ! กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ ใครทอดปลาทู 555 หิวมากๆ พูดเลย กลิ่นปลาทู กลิ่นไข่เจียว มันช่างทรมานจริงๆ ว่าแล้วก็ชวนกันลุกไปนั่งกดดันคุณป้าที่หน้าครัวกันดีกว่า หิวแว้ววว
ลุยเข้าไปถึงห้องครัว บนกระดานนี่ไม่ใช่เมนูอาหารของเรานะคะ แต่ถ่ายมาให้ชมเฉยๆ เผื่อนึกไม่ออกว่ามาแล้วมีอะไรให้กินบ้าง แต่อยากกินอะไรก็โทร. แจ้งล่วงหน้าไว้เดี๋ยวป้าเล็กจัดให้
ส่วนราคาอาหารก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าพัก และเมนู ถ้ามาคณะใหญ่ราคาต่อหัวจะยิ่งถูกลงไปอีก แต่มาถึงสมุทรสงครามทั้งทีต้องมีปลาทูนะ เพราะ ปลาทูแม่กลอง เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ ไข่เจียวคุณป้าแถมให้ค่ะเป็นออฟชั่นพิเศษ เพราะเราอยากกิน แฮ่
อาหารเสร็จแล้วก็เริ่มทะยอยยกออกมาจากครัว มื้อเที่ยงนี้เราได้กิน ปลาทูแดดเดียวทอด l ต้มยำปลาทู l ฉู่ฉี่ปลาทู l ต้มข่าไก่ l ไข่เจียว l ผัดผักรวมมิตรกุ้งสด อร่อยทุกเมนูเลย ไม่ใช่เพราะหิวแต่อร่อยจริงๆ ให้ดิ้นตาย
ราคาอาหารนี้เราแจ้งทางป้าเล็กไว้ว่าอยากกินของขึ้นชื่อของที่นี่ อยากกินหลายๆ อย่าง แต่ด้วยมากันแค่ 5 คน ค่าอาหารเลยอยู่ที่มื้อละ 250/คน ถ้ามาเยอะๆ ค่าอาหารจะถูกลงไปอีกค่ะ แต่เราว่ายังไงก็คุ้ม เพราะถ้าหมดหรือไม่อิ่มก็เติมได้อีกทั้งข้าว ทั้งกับ แบบหม้อแกงทั้งใบยกให้นายคนเดียว กินไปเถอะจนกว่าจะหมด
และเพียงชั่วพริบตาทุกอย่างก็หมดลงในเวลาอันรวดเร็ว เลียจานได้คงเลียไปแล้ว 555
ในส่วนของของหวานนั้นไม่มีจ้า เพราะเราจะทำกันเอง แต่ขอรออาหารย่อยแพร้บบบ
ที่เห็นอยู่นี่คืออุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำอะไรใครรู้บ้าง... ขนมต้มไงจะอะไรล่ะ เพราะที่ชุมชนนี้ของดีคือมะพร้าวจ้า ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นของหวาน ของคาว ของแปรรูป ทุกอย่างต้องมีส่วนผสมของมะพร้าวเป็นหลัก ซึ่งก่อนมาเราแจ้งป้าเล็กไว้ว่าเราจะขอทำกิจกรรมตามรอยวิถีพื้นถิ่นวันละ 1 กิจกรรม คือ ทำขนมต้ม และน้ำตาลมะพร้าว โดยวันนี้เราเริ่มที่ขนมต้มก่อน
เริ่มต้นที่ Basic Skill ขูดมะพร้าวข่ะ 555 ง่ายขนาดเน้ยังทำกันไม่ค่อยจะเป็น ก็เด็กในเมืองเนาะจับแต่คอมพิวเตอร์กับมือถือ ได้มาลองขูดมะพร้าวเลยสนุกกันใหญ่ คุณลุงก็นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจ
ฝ่ายนวดแป้งก็นวดไป ใช้เพียงแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำสะอาดให้จับตัวกันให้เนียนเป็นเนื้อเดียว วิธีคือค่อยๆ เติมน้ำทีละนิด ทีละนิด แล้วนวดไปเรื่อยๆ จนแป้งกลมเป็นก้อนไม่ติดมือเป็นใช้ได้
หลังจากแป้งได้ที่คุณป้าก็สอนวิธีการห่อไส้ (คุณป้าทำไส้สำเร็จมาให้แล้ว) ว่าต้องจับแป้งขนาดมาไหน ห่อแบบไหนที่จะไม่ให้หนา หรือน้อยเกินไปจนไส้แตกออกมา
ห่อเสร็จปั้นเป็นก้อนกลมก็พร้อมเอาลงต้มในกระทะทองเหลือง ถ้าแป้งดิบอยู่จะจม แต่ถ้าแป้งสุกจะลอยขึ้นมา เราก็จัดการช้อนลูกที่สุกแล้วมาคลุกกับมะพร้าวที่ขูดรอไว้
พักไว้ให้เย็นสักนิดก็จับเรียงใส่กระทง ปักด้วยไม้จิ้มจากก้านมะพร้าว แล้วเอาเข้าปาก งั่มมมม อร่อยยยยม๊ากกก
เป็นครั้งแรกที่ได้ลองทำขนมต้มเองกับมือ จากวัตถุดิบสดๆ กินสดๆ และอร่อยสุดๆ จนไม่น่าเชื่อ หากใครมาเที่ยวที่บ้านริมคลอง โฮมสเตย์ แล้วสนใจทำกิจกรรมก็ให้แจ้งป้าเล็กล่วงหน้าได้เลยค่ะ จะมากันกี่มากน้อยก็กิจกรรมละ 600 บาทเท่านั้น ซึ่งวิทยากรผู้สอนและผู้บรรยายก็เป็นบรรดาน้าๆ ป้าๆ ในชุมชน ซึ่งรายได้ก็หมุนเวียนอยู่ในหมู่บ้านนั่นเอง
หลังจากอิ่มหมีพีมันกับขนมต้มนุ่มๆ ไส้ฉ่ำๆ กันไปแล้ว ยามเย็นแดดร่มลมตกก็มาถึงกิจกรรมเด็ดที่เราตั้งใจมาทำทริปนี้โดยเฉพาะคือ โดดน้ำตีโป่ง นั่นเอง อุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมาก ผ้าถุง ขาสั้น ห่วงยาง และเชือกไนล่อนเท่านั้นเอง
  • ผ้าถุง >>> กระโจมอกว่ายน้ำแบบไทยสไตล์ กลัวหลุดก็เย็บยางยืดเข้าไป
  • ขาสั้น >>> เพิ่มความมั่นใจยามเคลื่อนไหวใต้น้ำ
  • ห่วงยาง >>> สวมไว้ปลอดภัยแน่นอน กันโดดลงไปแล้วไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย
  • เชือกไนล่อน >>> อุปกรณ์ยึดเกาะกันไหลออกไปกลางแม่น้ำ
ถึงแล้วท่าน้ำตีโป่ง น้ำใสไหลเย็นไม่เห็นมีปลา แต่ดีแล้วกลัวโดนตอด 555 จะบอกว่าบริเวณนี้กลางคืนมืดมิดมองเห็นหิ่งห้อยบินวิบวับชัดเจนเลยล่ะ
ทำยังไงให้ท่าสวยไปถึงระดับโลก เราต้องซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม ไม่ใช่ละ 555 ซ้อมโดดกันก่อนกลัวว่าถ้าโดดจริงเดี๋ยวโป่งไม่ขึ้น ก้าวผิดจังหวะท่าจะไม่สวย อิอิ
พ่อบ้านใจกล้าไปละจ้ะ โดดไปหลายรอบแล้ว สามชะนียังเล็งๆ อยู่เลย
เรื่องแค่นี้อย่าไปกลั๊ว โดดครั้งแรกแล้วก็ต้องมีครั้งต่อไป สนุกกันใหญ่แบบไม่เกรงใจสายตาคนบนเรือที่แล่นผ่านไปมา มียกมือบ๊ายบายทักทายนักท่องเที่ยวด้วย ถูกอกถูกใจกันยกใหญ่ Thailand Only You Know?
น้ำเย็นกำลังดีแถมมีความใสสะอาด สนุกกันจนไม่มีใครยอมขึ้นเหมือนกับได้ย้อนวัยไปเล่นสนุกสนานแบบเด็กๆ ที่ห่างหายมานาน ชาวบ้านแถวนั้นพากันชะเง้อออกมาดูแล้วหัวเราะคิกคักไปด้วย
ถึงสนุกออกอย่างงี้แต่ก็ยังมีความโดดเดี่ยว คือขอโดดแบบเดี่ยวๆ ถ่ายรูปกันนะ ท่าแต่ละนางมีความฮาสไตล์ ดูเอาเองแล้วกันบรรยายไม่ถูก 555
เล่นน้ำกันจนฟ้าเริ่มมืด คุณป้ากลัวอันตรายจนต้องเดินมาตามที่ท่าน้ำโดยเอาข้าวเย็นมาล่อ ให้ขึ้นมาอาบน้ำกินข้าวกันได้แล้วลูก เดี๋ยวอาหารเย็นแล้วจะไม่อร่อย เราจึงเดินตามไปอย่างว่าง่าย 555
โดดน้ำมาเหนื่อยๆ ก็มานั่งรอที่หน้าครัวด้วยความหิวอีกเช่นเคย อาหารเย็นที่เรารีเควซไปก็มีดังนี้ กุ้งอบวุ้นเส้น l น้ำพริกกะปิ+ผักสด l ปลาทูทอด l ชะอมชุบไข่ทอด l หอยลายผัดพริกเผา l ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ อร่อยดุจเชฟระดับมิชลินสตาร์มาทำให้กิน โดยเฉพาะน้ำพริกกะปิอร่อยสุดยอดไปเลยยย แค่แอบติดนิดหน่อยที่ต้มจืด เราว่าคุณป้าทำน้ำปลาหกใส่แน่นอน 555
หลังจากอิมหมีพีมันกับอาหารเย็นกันไปแล้วก็มานั่งดูรูป คุยเล่นกันตามประสาก่อนแยกย้ายกันเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นมาใส่บาตรตอนเช้า ป้าเล็กบอกว่าพระท่านจะพายเรือมาบิณฑบาตรที่ท่าน้ำประมาณ 7 โมงกว่าๆ เดี๋ยวคุณป้าจะเตรียมอาหารคาวหวานไว้ให้ ให้เรารีบตื่นมากินอาหารเช้ากันก่อน พระท่านก็จะมาพอดี
อาหารเช้าก็จะง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เอาเข้าจริงเช้าขนาดนี้กินแค่นี้กำลังดีแล้ว กาแฟ l ขนมปังปิ้ง l ปาท่องโก๋ l โอวัลติน l ข้าวต้มทะเล กับบรรยากาศฟินๆ ก็อิ่มเกินบรรยายแล้ว
หากใครที่มาแล้วต้องการใส่บาตรให้บอกป้าเล็กนะคะ จะเอากี่ชุดก็ว่าไป ราคาชุดละ 50 บาทเท่านั้น ในชุดใส่บาตรก็จะมีน้ำ l ขนม l นม l ผลไม้ l ข้าวสวย l กับข้าว ตามสะดวกที่หาได้ในละแวกนั้น ส่วนกับข้าวป้าเล็กตื่นมาทำให้แต่เช้าค่ะ
ใส่บาตรเสร็จก็แยกย้ายไปจัดของ อาบน้ำอาบท่าแต่งตัวเตรียมทำกิจกรรมของวันนี้ น้ำตาลมะพร้าว ของดีที่นี่จะพลาดได้ไง แต่ก่อนลาจากท่าน้ำแอบหันไปมองแบบอาลัยอาวรณ์ อยากโดดน้ำอีกสนุกจัง
ประมาณ 10 โมงทุกอย่างพร้อมแล้ว (เพราะตอนแรกมีความใจร้อนเดินมาตอน 9.00 น. ทีนึงแล้วแต่พี่เขายังเตรียมไม่เสร็จ 555) ที่เห็นอยู่นี่คือน้ำมะพร้าวที่ได้มาจากงวงตาล ก่อนจะนำมากรองไม้พะยอมออก แล้วนำขึ้นเคี่ยวบนเตาจนกว่าจะงวด โดยครอบด้วยไม้ไผ่สานเพื่อกันน้ำตาลล้นออกมา เป็นเวลาประมาณ 1 ชม.
เมื่อน้ำตาลเดือดได้ที่ (หรือที่เรียกว่า น้ำตาลขึ้นดอกหมาก) ก็ทำการยกลงมาจากเตาเพื่อกระทุ้งต่อให้มีความเหนียวจับตัวกันเป็นเนื้อเดียว
นี่แหล่ะน้ำตาลขึ้นดอกหมากจะมีลักษณะแบบนี้ ซึ่งน้ำตาลมะพร้าวจะมีอยู่ 2 แบบคือ น้ำตาลมะพร้าวแท้ และน้ำตาลมะพร้าวผสม โดยน้ำตาลมะพร้าวแท้ 100% จะไม่มีการผสมน้ำตาลลงไป แต่น้ำตาลผสมจะผสมน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสชาติหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
นี่คือพิมพ์ที่เตรียมไว้ ก่อนนำผ้าขาวบางมาคลุมทับอีกทีรอหยดน้ำตาลมะพร้าวลงไป
วิธีการกระทุ้งน้ำตาลแบบสวยๆ โดยนางแบบกิตติมศักดิ์ จังหวะนี้น้ำตาลยังมีความใสตอนกระทุ้งจะไม่ต้องออกแรงมาก กระทุ้งไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วคงที่อย่าให้น้ำตาลกระฉอกออกมาเป็นใช้ได้
จังหวะนี้น้ำตาลเริ่มข้นเหนียว การกระทุ้งเริ่มมีความยากลำบากต้องใช้พลังสูง เราจึงเปลี่ยนมาเป็นนางแบบอดีตแรงงานรับจ้างคนนี้แทน 555
สู่ขั้นตอนการหยอดลงพิมพ์ ขั้นตอนนี้สนุกสนานมากเพราะทำไปชิมไปได้รสชาติน้ำตาลมะพร้าวที่สดใหม่ ส่วนวิธีการหยอดก็ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายต้องอาศัยความเร็ว เพราะถ้าช้าน้ำตาลจะหยดเลอะเทอะ และน้ำตาลเมื่อโดนความเย็นก็จะแห้งแข็งเร็วขึ้น
เมื่อน้ำตาลคงรูปดีแล้วก็หยิบออกมาจากพิมพ์ จะได้รูปร่างหน้าตาประมาณนี้ ยังอุ่นๆ อยู่เลย
หลังจากนั้นจัดการยกมาวางเรียงในถาดทิ้งไว้ รอให้เย็นแล้วค่อยแพ็คใส่ถุงจำหน่ายต่อไป ในราคาถุงละครึ่งกิโล 80 บาท ได้น้ำตาลแท้ๆ เน้นๆ มาปรุงอาหาร ทำขนม เป็นของฝากก็ได้ด้วย
มีความชื่นชมผลงานในการทำน้ำตาลมะพร้าวครั้งแรก หน้าบานมากๆ และที่ถืออยู่ในถาดนั่นก็ประมาณ 5 กก. ได้ (ทำไมฉันต้องถือของหนักอีกแล้ว 555)
ก่อนเช็คเอาต์ออกจากที่พัก ป้าเล็กบอกว่าให้ไปลงชื่อและแสดงความคิดเห็นในสมุดเยี่ยมชมก่อน สำหรับเราคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการต้อนรับอันแสนอบอุ่นเหมือนเป็นลูกหลาน การได้สืบสานและเรียนรู้วิถีชาวบ้านแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ลองลิ้มชิมอาหารเจ้าถิ่นแสนอร่อย ความประทับใจในที่พักอันเรียบง่าย และความสนุกสนานที่อัดแน่นกับเพื่อนรู้ใจในเวลา 2 วัน 1 คืนที่นี่ บ้านริมคลอง โฮมสเตย์
ก่อนจากลาขอเก็บภาพประทับใจไว้อีกสักหน่อย หากใครอยากมาสัมผัสความรู้สึกดีๆ แบบพวกเราเข้าไปคลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.baanrimklong.net/th/index.html และ https://www.facebook.com/BaanrimklongHomestay/
ระหว่างทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ เราเลยแวะซื้อของขึ้นชื่อแถบนี้เสียหน่อย อาทิ ปลาทู ปลาทูแดดเดียว ปลาทูเค็มหอม ปลาหมึกแห้ง และอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนเราเล็งไว้ว่าจะซื้อดอกเกลือ ผลิตผลของคนแถบสมุทรสงคราม เพราะที่นี่ทำนาเกลือกันมาก และดอกเกลือ เมื่อนำมาหมักอาหารจะช่วยให้รสชาติดีขึ้นโดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ (ดอกเกลือ คือเกลือชนิดหนึ่งที่จัดว่าเป็นเกลือที่ดีที่สุดในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตเกลือ โดยเกลือที่ได้จะมีความอร่อยกว่าเกลือทั่วไป จะไม่เค็มมากออกไปทางรสหวาน อีกทั้งมีแร่ธาตุและคุณค่าทางอาหารสูงกว่าในเกลือปกติทั่วไปอีกด้วย)ปลาทูกันคนละเข่งสองเข่ง จัดปายยย
มองนาฬิกาเวลาบ่ายพอดี แรงยังเหลือเลยพากันแวะเข้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา หาหนังดีๆ ดูกันอีกสักเรื่องที่ SF Cinema เลยถือโอกาสได้ใช้บัตรบางจากฯ อีกครั้ง เพราะใช้แค่ 499 คะแนน ก็แลกรับบัตรชมภาพยนตร์ Deluxe ฟรี 1 ที่นั่ง* หารกันลงตัวเป๊ะๆ ประหยัดไปได้อีก
โดยระหว่างรอรอบหนังเราก็ไปเดินเล่นหาอะไรอร่อยๆ กินรอ ที่ร้าน Auntie Ann เพียงใช้ 150 คะแนน จากบัตรบางจากฯ รับฟรี Premium Pretzel 1 ชิ้น โอ๊ยยย คุ้มฝุดๆ ไปเลยอะไรจะเหมาะเจาะขนาดนี้
จบทริป 2 วัน 1 คืน ใกล้เมืองกรุงฯ ไปแบบประทับใจใช้งบไม่มาก ด้วยสิทธิพิเศษจาก บัตรบางจากแก๊สโซฮอล์คลับ และดีเซลคลับ ใบเดียวเที่ยวคุ้ม ทั้งสนุก ทั้งประหยัด ทั้งคุ้มค่า แถมน่าประทับใจอีกด้วย
ค่าใช้จ่ายทริปตีโป่ง
ค่าน้ำมัน (รถ 2 คัน) >>> 1,200 บาท
ค่าที่พัก (บ้าน 2 หลัง) >>> 1,700 บาท
ค่าทำกิจกรรม (ขนมต้ม และน้ำตาลมะพร้าว) >>> 1,200 บาท
ค่าอาหาร และเครื่องดื่ม >>> 2,500 บาท
ค่าชุดใส่บาตร >>> 200 บาท
อื่นๆ >>> 700 บาท

ตกคนละ 1,500 บาท ยังเหลือกินขนม แถมยังดูหนังได้อีกคนละเรื่อง
และใครที่อยากได้รับสิทธิพิเศษแบบคุ้มๆ อย่างเราก็สมัครง่ายๆ ที่ปั๊มบางจากทั่วประเทศ หรือแค่คลิกสมัครผ่านเว็ปไซต์ http://www.bcpgreenclub.com/ แล้วรอรับบัตรสบายๆ ที่บ้านได้เลยจ้า



https://www.edtguide.com/content/eat-selected/80270





Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED