Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

ทริปดำน้ำกับ 4 แหล่งในเมืองไทย อันดามันเหนือ

ทริปดำน้ำกับ 4 แหล่งในเมืองไทย อันดามันเหนือ



กองหินริเชลิว (หมู่เกาะสุรินทร์) จุดขายคือฉลามวาฬตัวใหญ่ และฝูงปลากระเบนแมนตา ซึ่งพบได้บ่อยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน หินที่ไล่ระดับลดหลั่นกันเป็นชั้น ปกคลุมด้วยปะการังอ่อน และดอกไม้ทะเลสีสันสดใส ยังเป็นบ้านให้กับสัตว์น้ำตัวจิ๋วหลากหลายชนิดที่น่าชมไม่แพ้กัน (งบ 7,500 บาท)


เกาะบอน เป็นอีกจุดที่มีโอกาสพบปลากระเบนแมนตา โดยเฉพาะจากเดือนธันวาคมถึงมีนาคม นอกจากนี้ปะการังที่เกาะบอนยังมีโทนสีที่โด่นเด่นและแต่งต่างจากจุดดำน้ำ อื่นๆ ของหมู่เกาะสิมิลัน แต่เนื่องจากกระแสน้ำแรงในบางครั้ง จึงเหมาะกับนักดำน้ำที่ค่อนข้างมีประสบการณ์ (งบ 6,500 บาท)


เกาะตาชัย (จ.พังงา) เปิดให้เราไปเยือนได้เฉพาะเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมเท่านั้น ความงามและความหลากหลายของปะการังและสัตว์น้ำ ทำให้เรารักเกาะนี้มากขึ้นกว่าเดิม กระแสน้ำแรงพัดเอาอาหารขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้เราได้เจอฝูงปลาว่ายน้ำกันพริ้ว (งบ 6,500 บาท)

หมู่เกาะสิมิลัน เป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แนะนำว่าควรมีเวลาอย่างน้อยสองวัน หรือ live aboard เลยจะดีที่สุด จุดดำน้ำที่เราชอบคือ เกาะสี่ เกาะห้า หินม้วนเดียว และหินหัวกะโหลก (งบ 6,500 บาท)

 

เกาะหลีเป๊ะ


เราใช้เวลาเดินทางครึ่งวันจากวินรถตู้ที่ สนามบินหาดใหญ่ และสปีดโบทจากท่าเรือปากบารา กว่าจะถึงที่พักบนหลีเป๊ะซึ่งมีหลายโรงแรมให้เลือก แต่เราลองไปพักที่ ไอดีลลิค คอนเซปต์ รีสอร์ท และก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ


สโตนเฮนจ์ (เกาะตาลัง จ.สตูล) เป็นจุดดำน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอันสมบูรณ์ที่นับวันจะหาได้ยาก ปะการังสีสันตระการตากว่าที่อื่น เติบโตบนแท่งหินเหมือนเมืองบาดาลอันงดงาม เหมาะสำหรับนักดำน้ำทุกระดับและสามารถดำน้ำตอนกลางคืนได้ด้วย (งบ 4,500 บาท)


กองหินแปดไมล์ (เกาะหลีเป๊ะ) เหมาะกับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์พอควร กระแสน้ำค่อนข้างแรง และต้องดำลงไปลึก แต่คุ้มค่าเมื่อได้เห็นปลาขนาดกลางและขนาดใหญ่หลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก ทั้งปลาสาก ปลาทูน่า ปลากระมง บางทีอาจได้เจอฉลามวาฬเพราะเป็นจุดที่พบได้บ่อย (งบ 2,500 บาท)

 

อันดามันใต้



ซากเรือคิงครุยเซอร์ เป็นหนึ่งในเรือจมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซากเรือที่มีปะการังขึ้นปกคลุมได้กลายเป็นบ้านและแหล่งอาหารที่ดีให้กับฝูง ปลา เช่น ปลากระพง ปลาสาก แนะนำให้หาที่พักที่กระบี่หรือภูเก็ต ทริปดำน้ำส่วนใหญ่รวมบริการรับส่งจากโรงแรม (4,500 บาท)


หินม่วง หินแดง (หมู่เกาะลันตา) นอกจากความงดงามของปะการังอ่อนสีม่วงและสีแดงจำนวนมากที่ปกคลุมอยู่ทั่ว ภูเขาใต้น้ำแห่งนี้ยังเป็นจุดที่พบเราพบ ฝูงปลาขนาดใหญ่ว่ายน้ำอย่างพร้อมเพรียง ฉลามเสือดาว ฉลามครีบดำ และปลาไหลมอเรย์ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหิน นักดำน้ำมือใหม่อาจต้องระมัดระวังค่อนข้างมากเพราะบางบริเวณกระแสน้ำแรง และค่อนข้างลึกมาก (งบ 5,000 บาท)

 

อ่าวไทย



หินใบ ห่างจากเกาะเต่าไม่ไกล หินใบเป็นจุดดำน้ำฝั่งอ่าวไทยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง เราโชคดีได้ชมปลาข้างเหลืองเป็นร้อยตัวระบำใต้น้ำกันอย่างสนุกสนาน และประสบการณ์ดำน้ำในโพรงหินก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ไม่ควรพลาด เหมาะสำหรับนักดำน้ำทุกระดับ (2,500 บาท)


กองหินชุมพร เป็นจุดดำน้ำฝั่งอ่าวไทยที่มีโอกาสพบฉลามวาฬได้บ่อยครั้ง ใต้น้ำคือกองหินทั้ง 4 ที่เชื่อมต่อกันและปกคลุมด้วยปะการังและดอกไม้ทะเลหลากสี ความลึก 15 – 36 เมตร จึงเหมาะกับนักดำน้ำที่ผ่าน Advanced Open Water (2,500 บาท) เราแนะนำ Ban’s Diving เกาะเต่า เป็นที่พักสำหรับทริปสำรวจอ่าวไทย ช่วงเวลาสำหรับการดำน้ำฝั่งอ่าวไทยคือเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จากสนามบินหาดใหญ่ ขึ้นรถตู้ต่อไปที่ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย เพื่อขึ้นเรือลมพระยาข้ามไปที่เกาะเต่า

*ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าที่พักและค่าเดินทางอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้ได้จาก http://bit.ly/22kUabH

ออกแบบทริปท่องเที่ยวของคุณได้ง่าย กับเอ็กซ์พีเดีย จองเที่ยวบิน พร้อมโรงแรม ลดสูงสุด 32% คุ้มเว่อออร์ #อย่าบอกใครนะ

จองเลย http://bit.ly/ExpediaSongkran หรือ http://bit.ly/ExpediaMar16 
 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED