Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

ท่องเฉลิมบูรพาชลทิตพิชิตอ่าวไทย

ท่องเฉลิมบูรพาชลทิตพิชิตอ่าวไทย


การได้เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสนใจสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง คิดถึงแค่ปัจจุบัน และเรื่องราว ประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาตรงหน้า อาจจะเป็นความสุขที่ใครหลายคนวาดฝันไว้ แต่จริงๆแล้วเราจะบอกว่า เรื่องเหล่านี้ที่จริงมันไม่จำเป็นต้องวาดฝันอะไรเลย แค่เราลองเปิดใจรับโลกใบใหม่ แล้วก้าวออกไปเท่านั้นเอง


การเดินทางของเราเริ่มต้นอีกครั้ง กับทริป 2 วัน 1 คืน ในขบวน ท่องเฉลิมบูรพาชลทิตพิชิตอ่าวไทย โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ทริปนี้มีหลายรสชาติมาก คือจะชิลล์ทั้งหมดก็ไม่ใช่ จะแอดเวนเจอร์จ๋าเลยก็ไม่เชิง โดยรวมแล้วได้ทั้งความชิลล์ สนุก ตื่นเต้น และความรู้สึกของหัวใจที่พองโต เกริ่นมาซะขนาดนี้ หลายคนอาจจะอยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าหลากอารมณ์ที่เราว่านั้นมันมีจริงหรือเปล่า หรือแค่โม้กันแน่ ถ้าอย่างนั้น เราไปทัวร์พร้อมๆกันเลยค่ะ


เป้าหมายแรกของเราคือทัวร์ปากน้ำประแส จ.ระยอง กับจุดเริ่มต้นแรกที่บ้านชนะชลโฮมสเตย์ ซึ่งแทบจะเรียกว่าขบวนของเรายึดพื้นที่นี้เป็นที่พัก ที่กิน ที่รวมพล ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ก็ของจองพื้นที่ที่นี่ไว้ก่อน


บ้านชนะชลโฮมสเตย์ เป็นบ้านไม้ริมแม่น้ำประแส บรรยากาศดี๊ดีค่ะ โฮสเตย์แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าแก่ ที่ทำการประมงเป็นอาชีพหลัก และสืบทอดกันมาหลายรุ่นแล้ว และปัจจุบันก็ได้ดัดแปลงบ้านเป็นโฮมสเตย์ เอาไว้สำหรับต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างเป็นกันเองเสมือนญาติมิตร และจากที่ได้สัมผัสมาแล้วด้วยตัวเอง เราก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน คืออบอุ่น เป็นกันเองเหมือนไปบ้านญาติจริงๆค่ะ 


ใครที่อยากไปเที่ยวปากน้ำประแสและอยากต่อไปเที่ยวที่อื่นๆ ลองมาพักที่นี่นะคะ เพราะเขามีที่พักรองรับทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ซึ่งนอกจากพาเที่ยวทั่วปากน้ำประแสแล้ว ยังมีโปรแกรมทัวร์เกาะมันในดำน้ำดูปะการังแบบเช้าไปเย็นกลับ พร้อมอาหารอร่อยๆบริการตลอดทริปอีกด้วยค่ะ สนใจสอบถามที่ บ้านชนะชลโฮมสเตย์ 36 ม.1 ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง 21170 โทร 08 5276 1616, 0 3866 1243


ออกจากบ้านชนะชลโฮมสเตย์ ที่ต่อไปของเราคือ ร้านอาหารบ้านอำพร แม้จะแอบหาอะไรทานที่บ้านชนะชลมาบ้างแล้ว แต่คนแถวนั้นเขาคอนเฟิร์มมาว่าต้องไปชิมอาหารร้านนี้ให้ได้ เจอมาแบบนี้ใครจะกล้าขัดศรัทธา จริงไหมคะ แถมไกด์แสนดีประจำทริป ททท.ยังใจถึง พาไปเราไปแบบถึงไหนถึงกันอีกด้วย


เมนูที่ชิมก็มีทั้งผัดไทย ปลาราดพริก ทอดมันปลากราย ผัดผักรวมกุ้งสด แกงเขียวหวาน แต่ละเมนูเราก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่ที่แตกต่างคือความอร่อยในรสชาติและความอบอุ่นด้วยรสมือที่เหมือนทำให้คนในครอบครัวทาน มื้อนั้นเราเลยจัดข้าวไปเบาๆ 2 จานค่ะ


พอหนังท้องตึง แต่หนังตายังหย่อนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเสียเที่ยวอย่างแรง อุตส่าห์ได้มาเที่ยวทั้งที พอไกด์นำทางพาเรามาหามุมถ่ายรูป พักสายตา และผ่อนคลายไปกับความเขียวขจีของทุ่งโปรงทอง เราก็รีบรัวกดชัตเตอร์แบบไม่กลัว Memory เต็มเลย


ทุ่งโปร่งทองถือเป็นไฮไลต์ของการมาเยือนที่นี่ ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมของระบบนิเวศที่ยังอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติและมุมไฮไลต์ของการแวะมาพักตา สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมความงามในวิถีธรรมชาติที่ไม่มีการแต่งแต้มใดๆ ผ่านสะพานไม้ที่ทอดยาวท่ามกลางทุ่งต้นโปรงทองสีทองอร่าม ซึ่งเผยความสวยงามให้เห็นแบบ 360 องศา เมื่อมีกระแสลมเอื่อยๆ และแสงแดดอ่อนๆพาดผ่านก็ยิ่งขับให้สีทองนั้นเด่นชัดยิ่งขึ้น เห็นแบบนั้นแล้วแทบจะไม่อยากขยับไปไหน รู้สึกเหมือนเราเจอมุมเหมาะแล้วล่ะ



พอออกจากทุ่งโปรงทอง คอก็ชักจะเริ่มแห้งค่ะ ไกด์ประจำทริปของเราเลยอาสาพาไปดับกระหาย พอขึ้นรถ นั่งหลับตาแป๊บเดียว ที่หมายใหม่ก็ยืนโบกมือเรียกอยู่เบื้องหน้า พร้อมกับทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส กับเครื่องดื่มเย็นๆ ยังไม่ทันจะได้ถามไถ่ว่าน้ำอะไรเราก็จัดไปแล้ว 2 แก้ว รสชาติคุ้นๆ แต่กลิ่นดี หอมชวนดื่มมาก จนมาพบคำเฉลยว่ามันคือ ชาใบขลู่ เงยหน้าดูอีกที อ้าว! ที่นี่คือกลุ่มผลิตชาใบขลู่ ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง


ได้เห็นคุณป้า คุณน้า คุณพี่ คุณยาย คุณตา เหมารวมคือคนในชุมชนเขาสมานสามัคคีกันดีเพื่อชารสคุณภาพแบบนี้ เราก็รู้สึกเป็นปลื้ม อิ่มเอม และอิ่มท้องเพราะเติมชาลงไปไม่รู้กี่แก้วแล้ว แต่พวกท่านก็ยังใจดี บอกว่ามาถึงถิ่นแล้วต้องชิมให้รู้รส เราก็รีบจัดตามคำบอกแต่ไม่ลืมอุดหนุนไปฝากคนที่บ้านอีกตามเคย เพราะเขาว่ากันว่าชาใบขลู่นั้นนอกจากรสชาติดีแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจหลายอย่าง คือป้องกันโรคไต ช่วยบำรุงระบบประสาท รักษาเบาหวาน แก้โรคริดสีดวงทวาร และอีกหลายอย่างเลยค่ะ 



เบรกการเที่ยวปากน้ำประแสแบบลั้นลาสักครู่สู่โหมดจริงจังกันนิด เพราะเราจะไปไหว้เสด็จเตี่ยกันค่ะ รถนำขบวนของพวกเรามุ่งหน้าสู่ พระตำหนักพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์ทรงเป็นองค์บิดาแห่งทหารเรือไทย ซึ่งมีศาลอยู่ทั่วประเทศกว่า 217 แห่ง ส่วนที่ประแสนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2510 และได้รับการดูแลมาอย่างดีด้วยความเคารพและศรัทธา


และก่อนจะเดินทางต่อ เราถามไกด์เท่าไหร่ก็ยังไม่ปริปากบอกว่าจะไปที่ไหน บอกแต่ว่าไปแล้วอารมณ์ ว้าว! จะเกิด ความรู้สึกประทับใจแบบไม่อยากลืมจะมา แต่ต้องไปตั้งต้นที่บ้านชนะชลก่อน ฟังแล้วมีแต่ งงกับงง ค่ะ เพราะไม่รู้ว่าที่ไหนกันจะทำให้เรารู้สึกดีได้ถึงขนาดนั้น


และแล้วคำตอบก็รอเราอยู่ที่บ้านชนะชล เมื่อต้องรวมพลใส่ชูชีพแล้วลงเรือมุ่งสู่เกาะมันใน แค่ได้ก้าวลงเรือ อารมณ์ว้าว! ก็มาแล้วล่ะ เรือที่นั่งไปมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แต่แรงขับเคลื่อนก็มีพลังมากพอที่จะพัดพาสายลมมาปะทะใบหน้าให้รู้สึกเย็นสบายและผ่อนคลายอย่างมาก พอนั่งออกจากฝั่งมาได้สักพักก็ถึงที่หมายของเรา


ที่เกาะมันในนี้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับสถานที่สองแห่ง แห่งแรกคือสถานที่อนุบาลเต่าทะเล ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จังหวัดระยอง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่นี่เป็นสถานที่เพาะขยายพันธ์เต่าทะเล ตามพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งนอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเลแล้ว เรายังได้เห็นการเพาะพันธุ์เต่าตัวเป็นๆ มีให้เห็นตั้งแต่ตัวเล็กๆ ไปจนถึงแม่เต่าพ่อเต่าที่ตัวใหญ่เต็มที่ มาที่นี่ที่เดียวได้รู้ทุกเรื่องของเต่าเลยค่ะ


อีกมุมหนึ่งของเกาะมันในที่น่าสนใจคือทะเลแหวก ไม่ได้ไปกระบี่ แต่ก็มีทะเลแหวกให้เราเห็นได้ ว่ากันว่าทะเลแหวกที่นี่จะเกิดในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี (ปีนี้ถ้าใครไม่อยากพลาด คงต้องรีบไปแล้วล่ะ) ช่วงเดือนนี้จะมีกระแสลมมาจากสองทิศทาง ทำให้กระแสคลื่นหอบเอาเม็ดทรายจำนวนมากมากองรวมกันจนมีลักษณะเป็นเนินทรายสีขาวโผล่ขึ้นมากลางทะเล มีลักษณะเป็นรอยต่อจากส่วนปลายแหลมของเกาะมันในยาวออกไปในทะเลประมาณ 80 เมตร และในบางช่วงจะสามารถมองเห็นหาดทรายเป็นรูปตัว S ได้อย่างชัดเจน



หลังเที่ยวจจนหมดวัน และพักผ่อนเต็มที่ เมื่อเช้าวันใหม่มาเยือน การเดินทางของเราก็เริ่มต้นขึ้น ไปพร้อมๆกับเข็มนาฬิกา ขบวนทัวร์ของเราเคลื่อนออกจาก จ.ระยอง มาที่ จ.จันทบุรี ตามเส้นทางอันสวยงามของถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนเลียบทะเลที่ถือว่ามีความยาวที่สุดในประเทศไทย ทอดขนานไปตามความโค้งของแนวภูเขาและท้องทะเล ถือเป็นมุมเหมาะที่หลายคนเลือกไปขับรถกินลมชมวิว หรือจะปั่นจักรยานรับลมเย็นๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ


ถ้าขับรถตามถนนสายเฉลิมบูรพาชลทิตมาเรื่อยๆเราจะพบกับจุดชมวิวเนินนางพญา จากมุมนี้จะเห็นความสวยงามของทะเลเมืองจันท์ได้อย่างชัดเจน มองด้านหน้าจะเห็นท้องทะเลกว้างไกลสุดตา ทะเลสีครามนั้นตัดกับท้องฟ้าสีสดใสทำให้ภาพตรงหน้าสวยงามจนน่าทึ่ง หากมองไปทางขวามือเราจะเห็นหาดคุ้งวิมานและถนนเลียบหาดที่สวยงาม ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นอ่าวคุ้งกระเบน และแหลมเล็กๆ ที่ยื่นออกไปกลางทะเล ทำให้ทัศนียภาพในมุมนี้น่าสนใจ เหมาะกับการครีเอตช็อตสวยๆไว้เป็นที่ระลึกอย่างมาก


พอชมวิวกันหนำใจเราแวะปิดทริปครั้งนี้ที่ Blue River Hut Resort เพื่อเติมพลังก่อนเดินทางกลับเมืองหลวง ขอบอกว่าทั้งที่พักและอาหารของเขาเยี่ยมยอดมาก แถมยังมีวิวสวยๆของท้องทะเล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมาพักผ่อน พร้อมรับลมทะเล สัมผัสแสงอ่อนๆของพระอาทิตย์ยามเย็น น่าจะโรแมนติกไม่น้อยค่ะ


ทริปนี้ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ชิลล์มาก ทั้งเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ปากน้ำประแส และเกาะมันใน จ.ระยอง รวมถึงการเที่ยวชมความสวยงามของท้องทะเล เลียบถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามติดอันดับต้นๆของเมืองไทย ที่ จ.จันทบุรี ถือว่าคุ้มสุดๆกับการตัดสินใจออกมาเปิดโลกใหม่ๆ แต่ได้ความรู้สึกและประสบการณ์ดีๆกลับบ้านเพียบ
 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED