พาชม MRT สถานีอิสรภาพ มาดูกันสิว่าข้างในจะสวยเก๋ แตกต่างจากสถานีอื่นๆ ยังไง และเราพร้อมพาเพื่อนๆ ไปตะลุยกินเที่ยวรอบๆ สถานี
พิกัดเด็ด แบบที่ไม่ควรพลาดค่า วันหยุดนี้ปักหมุดไว้รอเลยนะคะ
MRT สถานีอิสรภาพ
สถานีอิสรภาพ เป็นสถานี MRT สายเดียวของฝั่งธนบุรี ที่สำคัญสถานีนี้ยังเป็นอุโมงค์ลอดผ่านใต้แม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย wowwww !
จุดเด่นที่นี่ก็คือ รูปหงส์ที่ประดับไว้เต็มหน้าเสาภายในตัวสถานี เเละที่เขาใช้หงส์มาประดับก็เพราะว่าหงส์ถือเป็นสัตว์สิริมงคลและศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของคนไทยนั้นเองค่าาาา
อีกทั้งยังได้แรงบันดาลใจมาจาก “วัดหงษ์รัตนาราม” ที่อยู่ใกล้ๆ กันนี่เอง
พิกัด : ซอยอิสรภาพ 23 จนถึงซอยอิสรภาพ 34
เปิด-ปิด : 06.00 – 24.00 น.
--------------------------------
การเดินทาง MRT สถานีอิสรภาพ - วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร (ระยะทาง 600 เมตร)
ใช้ทางออก 1 เพื่อไปทางซอยอิสรภาพ 34 เเล้วเดินตรงไปเลี้ยวขวาเข้าซอย อิสรภาพ 38 เดินตรงไปอีดนิดนึง จะมีประตูใหญ่เข้าวัดค่ะ เพื่อนๆ ก็ถึงวัดหงส์รัตนารามเเล้วค่าาา
วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร
มา “สถานีอิสรภาพ” ทั้งทีก็ต้องตั้งใจมาที่ “วัดหงษ์รัตนาราม” ด้วยแน่นอน ที่นี่มีโบสถ์ที่สวยงามรวมทั้งศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่มีผู้มากราบสักการะ ทั้งยังมีสระน้ำมนต์
อำนวยผลสัมฤทธิ์ดังที่อธิฐานไว้ ยิ่งตอนเข้าไปกราบไหว้พระด้านในโบสถ์ รู้สึกเย็นสบายเชียวล่ะ เพราะลดพัดเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรูปหงส์ที่เราเห็นจาก สถานีอิสรภาพ ก็อยู่บนบานหน้าต่างในนี้เนี่ยละค่ะ งดงามมากๆ
พิกัด : 144/1 วัดอรุณ แขวง วัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600
เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 05.00 - 22.00 น.
Tel : 02 472 0743
----------------------------------
การเดินทาง วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร - ชุมชนกุฎีจี (ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร)
เพื่อนๆ เดินออกมาจากทางเดิมเลยค่าา เลี้ยวขวา ไปตามถนนวังเดิม 2 เดินไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ จะเจอกับถนนอรุณอมรินทร์ เเล้วเลี้ยวขวาเดินตรงไปค่ะ ทีนี้เพื่อนๆ ก็จะเจอสะพาน
ให้ขึ้นไปแล้วลงตรงบันไดที่ไปโผล่ตรงใต้สะพาน จากนั้นเพื่อนๆ ก็ไปทางด้านซ้าย เพื่อเข้าซอยอรุณยรินทร์ 6 เดินเข้าไปเรื่อยๆเลย ซอยมันค่อนข้างเยอะ ให้ถามชาวบ้านแถวนั้นว่าไป "ร้านธนูสิงห์" ค่ะ
ระหว่างทางเพื่อนๆ ก็จะเข้าสู่ ชุมชนกุฎีจี ที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว เต็มไปด้วยศิลปะบนกำเเพง สวยงามมากเลยแหละ แวะถ่ายรูปชิคๆ กันก่อนได้
ชุมชนกุฎีจี
ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชุมชนแห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต และเรื่องราวอันน่าสนใจมากมาย
โดยเฉพาะสัมพันธภาพภายใต้ความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมในชุมชนที่ประกอบไปด้วยชาวจีน อินเดีย และยุโรป ที่อยู่ร่วมกันอย่างปรองดองเป็นเวลานานกว่า 200 ปี อู้หู้วววววววววววว !
ในชุมชนแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ “ขนมฝรั่งกุฎีจีน” ขนมไทยโบราณที่หาทานแบบสูตรดั้งเดิมอร่อยๆ ได้ยาก มาถึงนี่ทั้งทีต้องมาชิมกันสักหน่อย ไม่งั้นจะเรียกว่า มาไม่ถึงถิ่นจ้าาาา
ร้านธนูสิงห์
ร้านดังของที่นี่ก็คือ "ร้านธนูสิงห์" ที่อยู่ใยซอย กุฎีจีน 7 เป็นร้านที่สืบทอดความอร่อยในการทำขนมฝรั่งกุฎีจีนกันมาถึง 5 รุ่นแล้วค่ะ ขนมที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาดสำหรับใครที่มาเที่ยวที่นี่
ลักษณะเด่นของขนมคือ ใช้ไข่เป็ด แป้ง และน้ำตาล ตีเข้ากันให้ขึ้นฟู โดยไม่ใช้ผงฟูหรือยีสต์เลยนะ เสร็จแล้วนำไปโรยหน้าด้วยลูกเกด ฟักเชื่อม และลูกพลับโรยหน้าด้วยน้ำตาล อบจนด้านนอกกรอบ ห๊อมมม หอมมมม
รสชาติเหมือนได้กินขนมไข่เลยเเหละ แต่เนื้อขนมจะมีความแน่นกว่ามาก เราเลยสั่งกาแฟกับโก้โก้เย็นมานั่งกินด้วย ฟินฝุดๆ ไปเลยค่าาา
ร้านแบบชาวบ้านๆ ที่เต็มไปด้วยเสนห์อันน่าหลงใหล
พิกัด : ซอย กุฎีจีน 7 ถนน เทศบาลสาย 1 แขวงวัดกัลยาณ์ กรุงเทพมหานคร 10600
เปิด-ปิด : วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 9.30 -17.00 น.
Tel : 02 465 5882
ได้ชิมขนมที่อร่อยเเล้ว ที่นี่ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย ต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมความสวยงามอีกหนึ่งพิกัดจ้าาาา
ให้เพื่อนๆ เดินลัดเลาะตามซอยออกมา นิดเดียว ก็เจอทางออกเเละพบกับ "วัดซางตาครู้ส กุฎีจีน" เเล้ววว
----------------------------------
วัดซางตาครู้ส กุฎีจีน
“ซางตาครูส” เป็นภาษาโปรตุเกส แปลว่า กางเขนศักดิ์สิทธิ์ โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้พระราชทานที่ดินเพื่อสร้างวัดแห่งนี้แก่ชาวโปรตุเกส
ที่ร่วมมือกับพระองค์ในการศึกต้านกองทัพพม่า โห้ววว ! ความเป็นมาคือแบบเลิศอ่ะ
โบสถ์ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2313 (อายุราว 200 กว่าปี) นับเป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่สุดในย่านฝั่งธนบุรี มีลักษณะคล้ายศาลเจ้าจีน (กุฎีจีน)
จึงเป็นที่มาของชื่อว่า “วัดกุฎีจีน” นั่นเองค่ะ เเละจุดเด่นที่ไม่เหมือนที่ไหนก็คือ “โดมของโบสถ์” ที่เป็นโดมแบบอิตาลี เหมือนกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ ที่แคว้นทัสคานาค่าา สวยงามมากๆ
พิกัด : 112 ซอย กุฎีจีน แขวง วัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
เปิด-ปิด : โบสถ์ซางตาครู้ส เปิดเฉพาะเวลามิสซาเท่านั้น
วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 19.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 06.00, 08.30 เเละ 19.00 น.
หากมีความประสงค์ตะเคารพสักการะ
วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 17.00 - 19.30 น.
วันอาทิตย์ เวลา วลา 06.00, 08.30 เเละ 19.00 น.
Tel : 02 472 0154
----------------------------------
ตรงข้างหน้าวัดจะเป็นริมแม่น้ำเจ้าพระยา เลยเดินออกมาชมความสวยงาม เห็นแว๊บๆ ด้านขวา ตรงป้ายเขียนว่า เฮโล นมสด
ตอนเเรกเข้าใจว่าเป็นร้าน ขนมหวานเครื่องดื่ม แต่ที่นี่มีเด็ดกว่านั้นค่าาาาาา
----------------------------------
เฮโล นมสด
ร้านนี้อนู่ตรงหน้า "วัดซางตาครู้ส กุฎีจีน" เลยค่าา ถ่ายรูปเสร็จก็แวะหาอะไรลงท้องสักน่อย และไฮไลท์ของร้านนี้ก็คือ ขนมจีนแกงคั่วไก่ หรือบางคนเรียก ขนมจีนน้ำยาไก่
เป็นอาหารที่หาทานได้ยากเหมือนกันนะ เพราะเป็นอาหารที่สืบทอดกันมาของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส โดยใช้ขนมจีนราดด้วยน้ำแกงไก่ที่มีทั้งเนื้อ เลือด เครื่องในชิ้นเล็กๆ
มีพริกเหลืองราดมาด้านบน ทานแล้วคล้ายๆ แกงไก่ของไทยนั้นแหละ
เราได้สั่งชุด "ฝรั่งกะดีจีน" ทางร้านบอกว่าเป็นเมนูยอดนิยม มี ขนมจีนแกงไก่คั่ว ขนมสามเหลี่ยมนั้นเรียกว่า ซาโมซ่ากล้วย มีให้เลือกว่าจะราดเป็นช็อกโกเเลตหรือน้ำผึ้ง ได้ 3 ชิ้น
เเละเครื่องดื่มสามารถเปลี่ยนได้นะ ตามใจชอบเลย เราเลือกเป็น น้ำแดงโซดา ชื่นใจดี ราคาชุดนี้ 79 บาท ค่าาา คุ้มสุดๆ ของคาว ของหวานเครื่องดื่ม ครบในมื้อเดียว
พิกัด : 112 ซอย กุฎีจีน กรุงเทพมหานคร (หน้าโบสถ์ซางตาครู้ส ซอยกุฎีจีน 4)
เปิด-ปิด : ทุกวัน 10:30 - 18:00 น.
Tel : 02 472 5231
----------------------------------
ทั้งเดินเล่น ถ่ายรูป หาของกิน โอ้ยยยยย สุดไปเลยค่ะ และเมื่อมาถึงอิสรภาพ ร้านที่ต้องไปกินอีกร้าน เป็นร้านในตำนานเลยก็ว่าได้ ก็คือ ข้าวมันไก่มุ่ยหลี จะได้ไปลิ้มลองสักที ได้ยินคำล่ำลือกันมานานแหละ
การเดินทาง กุฎีจีน - ข้าวมันไก่มุ่ยหลี ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร
เดินออกไปทางโรงเรียน ซางตาครู้สศึกษา ให้เพื่อนๆ ข้ามถนนไปอีกฝั่ง เพื่อไปขึ้นแท็กซี่ หรือ รถตุ๊ก ตุ๊ก ก็ได้นะ ชมบรรยากาศ ราคาค่ารถก็จะไม่เกิน 90 บาทค่าาา
ไปลงหน้าปากซอยหรือจะเข้าไปถึงหน้าร้านเลยก็ได้ อยู่ตรงถนนวังเดิม 1 ค่าาาา
ข้าวมันไก่มุ่ยหลี
ร้านมุ่ยหลี ข้าวมันไก่ไหหลำ ตำนานความอร่อยกว่า 80 ปี อู้หู้วววว จากรุ่นสู่รุ่นจ้าาา ทีเด็ดของร้านนี้อยู่ตรงน้ำจิ้มค่ะทุกคน เข้มข้นนนนน เเบบเข้มข้นจริงๆ
พอได้กินข้าวมันไก่เเล้วคือ ไก่ที่ต้ม มีความสุกกำลังดี นุ่ม โอ้ยยยยย ละมุมมากกก ส่วนข้าว มีความหอมอร่อยเเละไม่มันเลย ข้าวมันไก่ก็ต้องกินคู่กับน้ำซุปช่ะ คือน้ำซุปก็ไม่ได้มาแบบง่ายๆ นะจ๊ะ
ใส่ทั้งไก่และเห็ดหอม กลมกล่อมสุดจ้าาา เข้าใจเเล้วว่าทำไมถึงเปิดมานานขนาดนี้
พิกัด : หน้าปากซอยถนนวังเดิม 1 (เดินเข้ามาในซอยนิดนึง)
เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน / หยุดวันเสาร์ และวันหยุดนัตขตฤทธิ์
⏱: 08.00 น. - 13.00 น.Tel : 088-006-0012
----------------------------------
กินจนแน่นไปหมด ต้องไปเดินย่อยหน่อยเเล้ว แล้วอีกพิกัดหนึ่งย่านฝั่งธน ใครก็ต้องร้อง อ้อ ! ก็คือ วังหลัง นั้นเองง ไปช้อปปิ้งซื้ออะไรกลับบ้านสักหน่อยดีกว่า
การเดินทาง ข้าวมันไก่มุ่ยหลี - วังหลัง ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร
เดินทางได้ทั้งรถเมล์ สาย 177 หรือจะนั่งแท็กซี่ รถตุ๊ก ตุ๊ก มาเลยก็ได้ ค่ารถไม่เกิน 70 บาทค่ะ
วังหลัง
ตลาดวังหลัง แหล่งช้อปเสื้อผ้า รองเท้า มีให้เลือกทั้งมือหนึ่ง มือสอง นอกจากนี้ยังมีของกินอร่อยๆ ให้แวะชิมตลอดทาง บางร้านเปิดมานานจนเป็นตำนานของย่านนี้เลยก็ว่าได้
อย่างร้าน วังหลังเบเกอรี่ ขนมปังเจ้าเด็ดเจ้าดังที่เปิดมานานคู่กับวังหลัง นับเป็นขนมปังเจ้าแรกๆ
อด้วย อรทัยซูชิวังหลัง เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นกลางซอยวังหลัง ที่ชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นที่รู้จักไปทั่วกรุงเทพ
เอแคร์วังหลัง เปิดขายมานาน 12 ปี เอแคร์ของเค้าทำสดใหม่จากเตาทุกเช้า และมาบีบไส้กันสดๆ และร้านอื่นๆ อีกเพียบ
กินอิ่มจุใจ มาเดินย่อยกันต่อที่ ตลาดเวิ้งประตูเขียว (สินค้ามือสอง) มีทั้งเสื้อผ้าวินเทจ กระเป๋า รองเท้ามือสอง ราคามีตั้งแต่ถูกยันแพงขึ้นอยู่กับความเก่าและความเก๋า ซึ่งโซนนี้เปิดทุกวันเวลา 09.00- 18.00 น.
-------------------------------------------------------
เป็นไงกันบ้างคะ ทริปนี้ สนุกสนานกันเลยทีเดียว ทั้งอิ่มท้อง อิ่มใจ เเถมยังมีแหล่งช้อปปิ้งอีก เลิศเนอะ ! happy !
