อีกหนึ่งมัสยิดคู่บ้านคู่เมืองปัตตานี ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ซึ่งสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 ร่วมสมัยกับกรุงศรีอยุธยา
ที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อคือ “มัสยิดปิตูกรือบัน” ถูกเรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ที่มีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบโกธิคหรือกอทิกของยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง โดยคำว่า “ปิตู” แปลว่า “ประตู” ส่วนคำว่า “กรือบัน” แปลว่า “ช่องประตูทรงโค้ง” นั่นเอง
ณ ปัจจุบัน “มัสยิดกรือเซะ” ยังคงสภาพเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองปัตตานี และสามารถใช้เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิมได้ด้วย