Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

ลางานลากเพื่อนไปกระบี่ ทริปนี้มีแต่ผู้หญิงถึก!

ลางานลากเพื่อนไปกระบี่ ทริปนี้มีแต่ผู้หญิงถึก!


ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ท่านๆ (ใช่มั้ย) วันๆ ก็ไม่มีอะไร ตื่นเช้าไปทำงาน เลิกงาน กลับบ้าน นอน บางคนก็อาจจะไปสังสรรค์ ออกกำลังกายบ้างอะไรบ้าง แต่สำหรับเรามันก็ยังวนเวียนอยู่แค่นี้ หากจะไปเที่ยวต่างจังหวัดพักผ่อนบ้างก็ต้องแพลนล่วงหน้า จนกระทั่งๆ …ชะนีน้อยที่ทำงาน (นางบอกว่าอย่าเรียกชะนีคำนี้เกร่อแล้วให้เรียก E-เห็น อืม....นี่คิดดีแล้วใช่มั้ย) นางเปิดไปเจอตั๋วไปกระบี่ 833 บาท ของสายการบินนกแอร์ ราคาเน็ทแบบรวมทุกอย่างแล้วไม่มีบวกโน่นนี่นั่นจุกจิกรำคาญใจ นางก็มากรี๊ดๆๆ 

เจ้: ไปกระบี่กันเหอะ นี่แบบราคาดีงามมากจัดเลยๆ 
เรา: พรุ่งนี้เลยป่ะละ (พูดส่งๆไปงั้น) ว่าแต่..ไปทะเลหน้าฝนนี่นะ บ้าไปแล้วดำน้ำก็ไม่สวย ฟ้าก็ไม่งาม บลาๆ (ก็บ่นไปตามเรื่องตามราว) 

แต่สุดท้ายก็รวมกันได้ 3 นาง กดวันลาพักร้อนเรียบร้อย แต่มันเก๋ตรงที่ลาอังคาร – พฤหัสบดี จ้า เข้าคอนเซปต์ ททท.เลยไง “วันธรรมดาน่าเที่ยว” อยากจะไปพรุ่งนี้แต่ก็ไวไป มีเวลาเตรียมตัว 3 วัน สุดท้าย 3 นาง ก็พร้อมโบยบินทริปกระบี่ท่องอันดามัน 3 วัน 2 คืน กับนกแอร์ 

วันแรก พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง

ขนกระเป๋าประหนึ่งลางานอาทิตย์นึง สัมภาระมากมาย เราก็บ่นนางนะจะเอาอะไรไปเยอะแยะ แต่เราก็เชิดใส่และบอกว่า "หล่อนๆ จะบ่นทำไมย่ะนี่โหลดกระเป๋าฟรีคนละ 15 กิโล ไม่ต้องเสียเงินจ๊ะเข้าใจ๋" 55 ต้องบอกก่อนว่า 2 นางข้างๆ เรา ยังไม่เคยไปกระบี่เลยสักครั้ง ส่วนเราครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ดังนั้น ไม่ต้องห่วงตามเจ้มาโลด
ขึ้นเครื่องปุ๊บก็ชวนกันเซลฟี่ปั๊บ ก่อนจะนั่งให้เรียบร้อยและรออาหารว่าง ชอบนกแอร์ที่สุดก็จุดนี้แหละ ^^
มาแล้วนกขนม และนกชื่นใจ ช่วงเวลานี้ไม่ต้องพูดไรอะไรกันมาก กินๆ แล้วพักสายตาแป๊บนึง 10.05 น.ได้เวลาโบยบินขึ้นฟ้า หลับไปแป๊บนึงก็ถึงกระบี่แล้วจ้า 
เราเช่ารถกับ Avis ไว้ล่วงหน้า ไปถึงก็แค่เดินไปที่เคาเตอร์ ทำเรื่องไม่กี่นาที ก็ได้กุญแจกับรถวีออสมาขับตะลอนทัวร์กันแล้ว มีเวลาวางแผนไม่กี่วัน แต่มนุษย์กล้องอย่างเราก็ลิสต์สถานที่เพื่อถ่ายรูปมาเป็นหางว่าว ทำให้พวกนางแอบบ่นเหมือนกันนี่มาพักผ่อนไม่ใช่มาถ่ายรูปล่ารางวัลป่ะเจ้ _ _”
กว่าจะโน่นนี่นั่นกันนะก็ปาไปเที่ยงพอดี หิวกันสิคะคุณผู้ชม เราทำหน้าที่ไกด์สาวพาสองนางไปกินขนมจีนเจ้าดัง ร้าน โกจ้อย ขนมจีน – ไก่ทอด 
ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินขับไปแค่ 2 แยก ก็ถึงแล้ว อย่าต้องให้เราอธิบายทางเลยนะเพราะเราก็ถามเพื่อนสนิทชื่อ GPS เช่นกัน 

ร้านนี้มีอะไรเด็ด..คำตอบคือ ขนมจีนน้ำยา ส่วนใครชอบแกงไตปลาไม่ต้องสั่งเพิ่มเพราะมีไว้บริการทุกโต๊ะเป็นหม้อเลย ส่วนไก่ทอดใครใคร่จะกินก็เดินไปหยิบใส่จาน ทอดใหม่ร้อนๆ หอมๆ เลยจ้า
ขนมจีนเสิร์ฟมาเป็นถ้วยเล็กๆ แบบนี้ แวบแรกมองหน้ากันจะอิ่มเหรอว่ะแก แต่..กินไปกินมาเกือบเหลือ ส่วนช้อนสั้นแบบนี้แหละได้อรรถรส อย่าถามหาช้อนส้อมเชียวนะมันไม่ได้ฟีลลิ่ง อิ่มท้องกันแล้วเห็นโกจ้อยนั่งหล่ออยู่เลยชวนโกมาเซลฟี่กันเป็นที่ระทึก เอ๊ย! ระลึก! ค่าเสียหายร้านนี้ขนมจีนคนละถ้วย ไก่ทอด 3 ชิ้น 3 แก้ว 185 บาทถ้วน
หลังจากแซบกับขนมจีนไก่ทอด มันยังขาดของหวานไง ทีนี้ไปเปิดดูรีวิวในพันทิปมีคนแนะนำร้านไอติมเจ้ไหม เราก็ตามหากันสิคะ ขับไปถึงในเมืองแล้วไปถามตำรวจ ตำรวจก็งง ไปถามแม่ค้าแถวนั้นก็ทำหน้าเหวอ ร้านอะไรไม่เคยได้ยินชื่อ ตายละหว่า..หรือชั้นหาข้อมูลมาผิด 2 นาง เตรียมอ้าปากจะด่าแล้วนะ ยังดีที่ร้านก๋วยเตี๋ยวคนขายบอกว่า อ๋อ..ร้านไอติมเค้าเปิดตอนกลางคืน โอเค! จบข่าว แยกย้ายๆ
ขับออกมาก็มาจ๊ะเอ๋กับ ลานปูดำ พอดี ที่เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของกระบี่ไปแล้ว ใครไปต้องแวะไปถ่ายรูปคู่
ลานปูดำจะอยู่บริเวณ เขาขนาบน้ำ ซึ่งเช้าๆ น่าจะอากาศดี เหมาะแก่การล่องเรือชมวิวใช้ชีวิตช้าๆ แต่ตอนนั้นเที่ยงวัน ชั้นว่าเรากลับไปกันเถอะร้อนเกรียมมากแต่ก็ดีกว่าฝนตกแหละว่ามั้ย
ออกจากเขาขนาบน้ำ เรามุ่งหน้าเข้าที่พัก ซึ่งค่อนข้างไกลพอสมควร หลังจากที่ครั้งก่อนๆ ไปกระบี่ทีไรพักแต่ อ่าวนาง ตลอดตลอด คราวนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศไปนอนเงียบๆ บ้าง มุ่งหน้าไปที่หาดคลองม่วง กับถนนที่สวยงามของกระบี่ ขับรถเพลินมาก
ประมาณเกินครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึง Beyond Resort Krabi คือเริ่มจะตื่นเต้นมากๆ เพราะเราเป็นคนจองที่นี่และโม้กับพวกนางไว้เยอะไงว่าสวยมากๆ 
Lobby ของที่นี่อยู่บนชั้น 5 ขับขึ้นเนินมาเลยจ้า และก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น บร๊ะ! สวยงามสมราคาคุยนางน้อยของเราทำหน้าฟิน คือแค่วิวจาก Lobby ก็ดีงามแล้ว อยากเข้าห้องพักแล้วสิ 
ห้องพักขนาดกำลังดี พร้อม Extra Bed จริงๆ มีแต่คนอยากนอนเตียงเสริม เพื่อจะได้นอนชมวิวเพียงเปิดม่านก็ได้เห็นแบบนี้
ว้าว! สระว่ายน้ำ ทะเล หาดทราย ท้องฟ้า ต้นไม้ รวมกันไว้เป็นภาพที่สวยงาม สองนางก็ยึดพื้นที่นอนชิลล์ๆ กันอย่างสบายใจ ส่วนเราก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องให้พวกนาง อีกแล้ว...
กิจกรรมยามบ่ายอันแสนสนุกบนเตียงนอนนุ่มๆ คือ..เล่นปาหมอน มันใช่หราาาแกรรร 55 แต่จริงๆ มันก็สนุกดีนะ กะว่าจะถ่ายรูปเล่นทำมิวสิคไง เล่นไปเล่นมาหลับจ้า Zzzzz
จากแผนเดิมคือ 4 โมงเย็น จะไป วัดถ้ำเสือ แต่ตื่นมาตกใจมากปาไป 5 โมงเย็นแล้ว ทำยังไงก็รีบซิ่งสิคะ จากที่พักไปวัดถ้ำเสือไกลมากๆ เกือบพอๆ กับสนามบินไปที่พัก ไปถึงวัดถามคนแถวนั้นว่าทางเดินขึ้นไปจุดชมวิวไปทางไหน คุณน้าใจดีชี้บอกทาง แต่บอกกับพวกเราว่า อย่าขึ้นไปตอนนี้ไม่ทันหรอก กว่าจะถึงมืดพอดี แต่ทำยังไงได้มาถึงที่แล้ว อยากเอาชนะตัวเองด้วยว่าทำได้ดิ ซึ่งตอนนั้นเกือบๆ หกโมงแล้ว 
เดินจากจุดจอดรถไปไม่ไกลก็เจอทางขึ้น 1,237 ขั้น แม้จะทำการบ้านมาแล้วว่าบันไดมีกี่ขั้น แต่พอเห็นทางมันก็มีแป้วบ้างเล็กน้อย แต่เอาเถอะผู้หญิงถึกอย่างพวกเราอย่าไปยอมแพ้!
แต่แล้วก็มีคนขาสั่น เห็นบันไดจะเป็นลม นางขอบ๊ายบายรออยู่ข้างล่าง เหลือเพียงเรากับอีกหนึ่งนางเท่านั้น Fighting! ขณะนั้นประมาณ 18.05 นาที มาดูกันว่าเราจะใช้เวลาถึงยอดกี่นาที 
คือเดินไปถึงแค่ 166 ขั้น ขาก็สั่นผับๆๆ ยังดีที่มีตัวเลขบอกไว้ตามเสาทำให้มีเรารู้ว่าต้องเดินอีกแค่ไหนจะถึงที่หมาย เดินสวนกับคนที่เดินลงมา แต่คนพูดว่าใกล้จะมืดแล้วนะ เรานี่อยากจะโหนต้นไม้ไปเลยให้ตายเถอะ เดินไปประมาณ 300 กว่า เพื่อนสาวนางก็บอกว่าไปก่อนเลยไม่ต้องรอ ถ้ามัวรอเธออดถ่ายพระอาทิตย์ตกนะ คำว่า อดถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก มันเหมือนเป็นพลังมหาศาลให้เราลุกขึ้นเดินต่อ 
แทบยืนไม่ไหวตอนถึงขั้นที่ 1,000 น้ำก็ไม่ได้เอามา แถมยังสะพายกระเป๋ากล้องที่มีเลนส์กระบอกใหญ่ด้วยสิ เหงื่อไหลท่วมตัว แต่อีกแค่ 200 กว่าๆ ก็พยายามฮึดสู้เดินไปต่อ แล้วไปเจอกับหมาเจ้าถิ่นยืนรอรับอยู่ ดีใจมากอยากจะกรี๊ดดว่าชั้นทำได้แล้ว 
เดินขาสั่นเข้าไปไหว้พระ แล้วรีบคว้ากล้องไปที่มุมพระอาทิตย์ตก กรี๊ดหนักมากว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วแกรร อยากจะบอกเพื่อนแบบนี้แต่นางยังขึ้นมาไม่ถึงจ้า
เราทำเวลาถึงข้างบนประมาณ 30 นาที ส่วนเพื่อนสาวนางตามมาห่างๆ แบบสภาพอิดโรย เหงื่อท่วมตัว แต่นางเดินขึ้นมากับผู้ชาย แถมผู้ชายให้น้ำดื่มด้วยนะ โถ..พ่อคุณใจคุณหล่อมากที่ดูแลเพื่อนเราเป็นอย่างดี
เคยเห็นแต่ภาพพระอาทิตย์ขึ้นรายล้อมด้วยทะเลยามเช้า แต่สำหรับเรามันเป็นช่วงเวลาอีกช่วงหนึ่งที่จะบันทึกกับความทรงจำอย่างไม่ลืม...และที่ทำให้หายเหนื่อยคือมีหนุ่มฝรั่งหน้าตาดีหุ่นแซบ มาถอดเสื้อรับลมชมวิวบนนี้ แทบละลาย 55 มีแรงเดินลงอย่างสบายใจละ ขาลงโชคดีเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงไม่มืดมากเดินสบายๆ ส่วนใครที่จะไปพกไฟฉายไปด้วยก็ดีนะ วัดถ้ำเสือหากขึ้นไปตอนเช้าอาจจะได้เห็นทะเลหมอกเต็มไปหมด หากมีโอกาสจะขึ้นไปตอนเช้าบ้าง ส่วนเพื่อนสาวนางบอก ยังจะมาอีกหราา 
หลังจากทะลักทุเลลงมาถึงพื้นขายังสั่นไม่หาย คนรอข้างล่างก็ตบยุงรอ ถึงรถถอดเสื้อเขวี้ยงเลย 55 เหงื่อเหม็นทั้งตัวไงแถมหิวด้วย รีบซิ่งไปที่ ตลาดโต้รุ่งท่าเทียบเรือเจ้าฟ้า อย่างแรกที่ต้องการคือ น้ำผลไม้สดๆ จัดมา 3 แก้วด่วนๆ (รูปกลางคืนไม่มีแรงยกกล้องแล้วเลยใช้มือถือถ่าย)
เสร็จแล้วไปนั่งโซ้ยส้มตำ ปลาเผา ที่ร้านส้มตำสะพานเจ้าฟ้า ราคาไม่แพง 40-50 บาท และสั่งกันมาเต็มโต๊ะประหนึ่งเป็นวันสุดท้ายของชีวิต 
ยังไม่ลืมเผื่อท้องไปตามหาร้านเจ๊ไหม ไอศกรีม เจอแล้วร้านเล็กๆ มีโต๊ะให้นั่ง ของอร่อยคือไอติมกะทิ คืออร่อยมากๆ สมคำร่ำลือในโลกโซเซียล จัดมาถ้วยนึงเป็นไอติมร่วมสาบานกินกัน 3 คน อิ่มท้องขับรถกลับพาร่างอันบอบช้ำไปนอนเถอะ


วันที่สอง

เช้านี้ตื่นแต่เช้าทั้งๆ ที่ปวดเมื่อยสุดๆ จองทัวร์ดำน้ำเกาะห้องไว้ รถมารับที่โรงแรม 08.00 น. ดังนั้นต้องรีบตื่นไปกินข้าวเช้ากัน กำลังเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ ก็ใกล้ได้เวลารถมารับ 
ไปกระบี่หลายคนคงนึกถึงทะเลแหวก เกาะปอดะ สระมรกต คือเราไปมาแล้วไง ทริปนี้เลยไปที่อื่นบ้างแต่โดนสองนางว่าขี้โกงเพราะนางทั้งสองยังไม่เคยไป 55 /เบ้ปากสะใจเล็กๆ เราซื้อทัวร์ดำน้ำ one day trip ไว้กับ ภูเก็ตทัวร์ฮอลิเดย์ เจ้าประจำคือไปดำน้ำทีไรต้องเจ้านี้ตลอด หลายคนคงงงไปดำน้ำกระบี่ทำไมต้องซื้อกับภูเก็ตทัวร์ฮอลิเดย์ เพราะว่าเค้าก็มีบริการทั้งกระบี่ ภูเก็ตเลยจ้า ราคา 1,200 บาท ต่อคน โชคดีที่ฟ้าเป็นใจฝนไม่ตกแดดเปรี้ยงเลย
นั่งเรือประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงเกาะแรกสำหรับทริปนี้นั่นก็คือ เกาะเหลาลาดิง เกาะชื่อประหลาดถ้าไม่ได้ซื้อทัวร์มาเกาะห้องคงไม่รู้ว่ามีเกาะชื่อนี้ด้วย
น้ำทะเลใสมากๆ นี่ขนาดหน้าฝนนะ ถ้าเป็นซัมเมอร์คงใสกว่านี้ โดยเฉพาะหาดฝนตกพัดเศษไม้มากองอยู่ริมหาด เยอะเลย แต่ที่ตื่นเต้น เฮ่ย! แกรร มีกระท่อมน้อยด้วย ประหนึ่งโดนผู้ชายลักพาตัวมาเกาะร้าง 
กักขังฉันเถอะกักขังไป...เพลงบ่งบอกอายุ 55 เอาเถอะเกาะนี้เหมาะแก่การพักผ่อน นอนเล่น บอกเลยว่ามีแต่เราคนเดียวที่โดนน้ำ ส่วนสองนางมาทะเลแต่ไม่อยากลง! คืออัลไลคะ แต่เกาะนี้มีมุมให้ถ่ายรูปสนุกๆ เยอะไม่ว่าจะเป็นโหนเชือก ชิงช้า กระท่อม โหดหิน กิ่งไม้ คือชอบมาก
อยู่ที่เกาะเหลาลาดิง ประมาณ 40 นาที กำลังจะถอดเสื้อคลุมนุ่งบิกินีลั้ลลากันแล้วเชียว แต่ไกด์บอกว่าหมดเวลาแล้วครับเราต้องไปต่อ...เกาะผักเบี้ย คือปลายทางต่อไปของทริปวันนี้
เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ด้านหลังของเกาะห้อง เกาะผักเบี้ยมีชายหาดเล็กๆ น้ำทะเลใสน่าเล่น เมื่อน้ำลงสันทรายที่เกาะผักเบี้ยจะปรากฏเป็นแนวยาวประหนึ่งทะเลแหวกให้เดินไปอีกเกาะหนึ่งได้
เรียกได้ว่าแวะมาถ่ายรูปบนเกาะนี้กันดีกว่า เพราะอยู่ไม่นาน นั่งส่องฝรั่งได้แป๊บเดียวก็ต้องขึ้นเรือไปต่อแล้ว
ได้เวลาไปเยือนเกาะไฮไลต์สำหรับทริปนี้แล้วนั่นก็คือ เกาะห้อง แต่ก่อนจะไปไกด์พาเราไปที่ลากูน หรืออ่าวห้อง ห้องโถงกว้างกลางทะเล 
มุมถ่ายรูปต้องมุมนี้ที่ไกด์อาสาถ่ายให้ทุกคน 
และแล้วก็ได้เหยียบเกาะไฮไลต์ที่อยากมามากๆ ซะที ที่นี่ เกาะห้อง อยู่ในอุทยานแห่งชาติธารโบกธรณี ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเกาะด้วย แต่เราจ่ายพร้อมกับค่าทัวร์ไปเรียบร้อยแล้ว เดินเข้าไปด้านในกินข้าวกล่องเอาแรง ก่อนจะไปวิ่งลงทะเล

3 ชะนี ยืนเรียงหน้ากระดาน ถามว่าพร้อมมั้ย ตอบเลยว่าพร้อมมาก! 1 2 3 ทะเล 
หาดทรายเกาะห้องนุ่มเท้ามากๆ แนะนำว่าหากใครไม่ชอบเล่นน้ำเอาหนังสือเล่มโปรดไปสักเล่ม เพลินมากพูดเลย อยู่เกาะห้องประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลากลับประมาณ 14.30 น.
กลับมาถึงโรงแรมไม่ต้องเข้าห้องให้เสียเวลา แทบจะกระโดดลงสระเลยจ้า สระว่ายน้ำที่ Beyond Resort Krabi ดีงามมาก มีหลุมที่เป็นจากุซชี่ 4 หลุม แช่น้ำอย่างสบายใจ เรียกว่าใช้เวลาอยู่ในสระนานที่สุดตั้งแต่เราเคยไปเที่ยวมาเลยล่ะ 
ตอนแรกตั้งใจว่าอาบน้ำเสร็จจะขับรถไปเรื่อยๆ หาร้านอร่อยๆ ดีทานกันสักหน่อย โชคดีที่ตอนเช้าผู้จัดการห้องอาหารของโรงแรมแนะนำร้านเด็ดมา ถึงกับบอกว่าถ้าจะไปต้องโทรจองเพราะมุมดีๆ มีจำกัด แถมการันตีว่าร้านนี้วิวสวยที่สุดในกระบี่ อัยยะ! พูดซะขนาดนี้ก็ต้องไปสิค้า 
ร้าน แลเล กริลล์ (Laelaygrill) อ่าวนาง บนร้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวทะเลของอ่าวนาง โดยเฉพาะพระอาทิตย์ตกจะเห็นได้อย่างชัดเจน ที่ร้านแบ่งเป็นหลายชั้น มุมโรแมนติกสำหรับสองคนคือมุมที่พิเศษสุดๆ 
อาหารของร้านก็อร่อยแถมราคาไม่แพง เราสั่งกันไปเต็มโต๊ะเลยหมดไปประมาณ 1,600 บาท เองนะ แนะนำ น้ำพริกกุ้งสด ดีงามอร่อยยกนิ้วให้ อยู่ชมวิวที่ร้านจนถึงมืดค่ำ ได้เวลาไปนอนเอาแรงแล้วเพลียร่างมากๆ แต่เพื่อนสาวนางบอกว่าเฮ่ย! ซื้อดอกไม้ไฟมาไปเล่นกันเถอะ
เล่นดอกไม้ไฟหัวเราะกันคิกๆ ประหนึ่งเมาหนัก 55 ตั้งแต่มาถึงโรงแรมยังไม่ได้เหยียบทรายเลย อยากบอกว่าทรายนุ่มมาก เรายกให้สิมิลัน ตาชัย ที่หาดทรายสบายเท้า และหาดคลองม่วงนี่ก็ไม่แพ้กันเลยนะ สรุปกว่าจะได้นอนดึกเหมือนเดิม 


วันที่สาม

เช้านี้สองนางอิดออดอีกแล้ว จะว่าไปกิจกรรมเราก็แน่นจริงๆ แต่ก็อยากลุกขึ้นไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นจริงๆ นะ ต่อรองเวลากันจาก ตี 04.30 ไปๆ มาก็กว่าจะลุกจากเตียงได้ก็ปาไป 05.30 น. เป้าหมายของมนุษย์กล้องคือ หนองทะเล 
พูดถึง หนองทะเล นี่ต้องเล่ายาวมาก แต่เรารู้ว่ายาวไปคุณจะเบื่อซะก่อน 55 คือหาใน GPS ไง ก็ขับตามไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มาโผล่ในโรงเรียนหนองทะเลวิทยา แล้วยังไงต่อ หนองทะเล ละแกรรมองซ้ายแลขวาไม่มีหนองเลยนะ ถนนก็ไม่มี เปิดหาในกระทู้ในเวปต์ก็ไม่มีคนบอกทางอย่างละเอียด เอาล่ะสิ อุตส่าห์แหกขี้ตาตื่น! ขณะนี้กำลังถอดใจตอนนั้นก็ 6 โมงกว่าๆ เพื่อนสาวหันไปเห็นคุณลุงทำกับข้าวอยู่นางวิ่งไปถามได้ความว่า ขับเข้าไปในโรงเรียนเหมือนเดิม (เสียดายไม่ได้ถ่ายระหว่างเดินทางให้เห็นภาพเพราะมัวแต่รีบ)
หนทางสู่หนองทะเลตามนี้เลยจ้า อยากให้ชาวโลกรับรู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเรามีความพยายามมากแค่ไหน 
หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจท้องก็เริ่มหิว ขับรถมุ่งหน้าแบบตั้งใจไปกินติ่มซำมากที่ร้าน ราชรสติ่มซำ ร้านนี้เปิดที่กระบี่ไม่นาน มีสาขาอยู่ทั้งภูเก็ตและตรัง มีทั้งติ่มซำ โจ๊ก กระเพาะปลา ข้าวหน้าเป็ด และอีกหลายสิ่ง อ้อ..ไปส่งที่ตู้มาเห็นมีป้าย นกชวนชิล ด้วย ซึ่งเป็นร้านที่ทางนกแอร์ recommend ว่าร้านเค้าดีจริง อร่อยจริง นกรับประกัน 
จัดติ่มซำมา 10 เข่ง เข่งละ 23 บาท สรุปมื้อเช้ากะว่าจัดเบาๆ เล่นเอาซะแน่นเลย 
หลังจากนั้นก็แวะไปไหว้ ศาลหลักเมือง แล้วกลับไปเก็บเสื้อผ้า เตรียมกลับกรุง เจ้านายโทรมาตามยิกๆ แล้ว ฮือๆ เวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วจริงๆ 
ขากลับโดยสายการบินนกแอร์เหมือนเดิม เที่ยวบิน 12.10 น. ถึงดอนเมือง 13.30 แต่ทั้งขาไปขากลับ ถึงก่อนเวลาทุกเที่ยว กัปตันทำเวลาดี๊ดี Landing นิ้มนิ่ม แอร์ก็น่ารัก ทุกเที่ยวบินมีแต่รอยยิ้มสมชื่อ 
ใครอยากจะไปบ้างก็ไม่ต้องแพลนเยอะอะไรกระบี่ไปได้ทั้งปี หน้าฝนใครว่าไม่น่าเที่ยว ลองเปลี่ยนความคิดมั้ยกดลาพักร้อน จองตั๋วกันได้ไปกับนกแอร์ได้ทุกวันวันละ 2 เที่ยวบิน เริ่มติดใจเที่ยววันธรรมดาแล้วสินะ เพราะคนไม่เยอะราคาก็ถูกกว่าวันหยุดมากมาย จะไปเที่ยวมุมไหนก็ถ่ายรูปสบายๆ ไม่มีใครแย่ง โอ๊ยย อยากมีวันพักร้อนเดือนละ 10 วันราคาดีแบบนี้จะบินทุกเดือนเลย ^^ หยุดมโนรับกระเป๋าที่ช่อง 5 กลับออฟฟิศกัน เสียงชะนีข้างกายปลุกให้ฉันเดินไปรับกระเป๋าอย่างเซ็งๆ กระบี่ต้องมาครั้งเดียวไม่เคยพอพูดเลย!


เรื่องราวและภาพถ่าย โดย BlackPearl






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED