ทริปนี้แอดมิน EDTguide จะพาไปแอ่วเหนือ เมืองลำปาง อ้ะ ว่าแต่เมืองลำปางที่ว่านี้ไม่ได้มีดีแค่มานั่งรถม้าชมเมือง ที่นี่ถือว่ายังคงความคลาสสิค ตึกรามบ้านช่องยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนะเออ ยังมีอีกหลายที่หลายอย่างที่น่าไปเที่ยว ไม่ว่าจะไปสักการะวัดบนดอย ไปกาดเช้า รึจะไปพิพิธภัณฑ์เซรามิค หรือจะไปแจ้ซ้อน เอาขาแช่น้ำพุร้อนให้สบาย พูดยังไม่หมดนะ บอกเลยว่า เยอะค่ะ ตามไปแอ่วในแต่ละที่เลย
เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเครื่องบิน สายการบินบางกอกแอร์เวย์
เข้ามาถึงด้านในกับบรรากาศ Bangkok Airways lounge ห้องรับรองสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สุวรรณภูมิ น่านั่งแล้วก็นั่งสบายด้วยล่ะ ระหวางนั่งทานอาหารไปเราก็หาปลั๊กไฟ เสียบชาร์ตโทรศัพท์ และโน๊ตบุ๊คไปด้วยระหว่างนั้นค่ะ พร้อมมีบริการฟรีไวไฟอีก ภายใน Lounge ก็มีอาหารหลากหลายชนิดด้วยกันค่ะ รับประทานจนอิ่มก็เตรียมบินไปลำปางกันเลย
เช้าวันแรกแวะไปไหว้ พระธาตุปางหลวง กันก่อนเลย พระธาตุปางหลวงนี้มีความงามล้านนา เมื่อมาลำปางแล้วเพื่อนๆก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลยนะคะ พระธาตุลำปางหลวง ยังเป็น พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู (ปีวัว) ใครเกิดปีฉลู ยิ่งต้องมาเลยล่ะ พระธาตุปางหลวง ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนาภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามในแบบต่างๆ สวยงามลองหาโอกาสมาสักการะให้ได้นะคะ
และนี่คือด้านในวัดค่ะ เมื่อเข้าไปในวัดจะมี เงาพระธาตุเป็นภาพสะท้อนจากภายนอก มาสู่ด้านใน ที่เรียกว่า เงาพระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวง จะเห็นแบบภาพถ่ายที่เรานำมาให้ดูนี้ค่ะ
ออกตัวไปเที่ยวกันต่อเลยค่ะ ที่ๆเราจะไปสถานที่ต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ที่นี่เป็น โรงงานเซรามิคแห่งแรกของลำปาง นั่นก็คือ ต้นกำเนิดของถ้วยตราไก่ นั่นเอง หรือชามไก่ในตำนาน เมืองแห่งเซรามิคของ ประเทศไทยภายในพิพิธภัณฑ์แสดงถึงประวัติของบริษัทในเครือธนบดี ระหว่างนี้ก็ไปเดินชมกระบวนการผลิตเซรามิคสมัยใหม่ๆพร้อมกัน เรียกได้ว่า วาดกันสดๆให้เห็นเลยค่ะ เพื่อความคลาคสิค นี่คือใช้พู่กันวาดลงสีกันแบบชามต่อชาม กว่าจะทำได้แต่ละชามให้สมบูรณ์แบบออกมาใช้งานก็ต้องใช้ความใส่ใจพิถีพิถันน่าดูค่ะ
และทีมงานก็ได้ลองละเลงวาดเองด้วยนะ อย่างที่เห็นค่ะ
พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี เปิดให้เช้าชมทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม คนไทย 50 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาท ถ้าสนใจก็ตามกันไปชมได้เลย เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมากค่ะ
แดดร่มลมตก ตกเย็นหน่อยๆ ไปนั่งรถม้าชมเมืองลำปาง ชิลล์ๆ ให้เย็นใจชมเมืองลำปางให้ทั่วกันค่ะ นั่งรถม้าที่นี่ถือเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง นั่งเพลินๆชมเมืองเก่าไปด้วยกัน นั่งรถม้าวนเมืองไปค่ะ เมื่อมองไปโดยรอบรู้มั้ยว่าที่นี่ ยังคงไว้ซึ่งความเงียบสงบและวิถีชีวิตที่ดูเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ผู้คนในเมืองลำปางยังดูเหมือนใช้ชีวิตสบายๆเรียบง่ายสโลไลฟ์ของแท้ค่ะ ถ้าเพื่อนๆอย่างสัมผัสชีวิตที่ไม่วุ่นวายจนเกินไป ลองมาเที่ยวเมืองลำปางกันดูนะคะ ลองมาใช้ชีวิตให้ช้าลงบ้าง เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปซะหมด ว่ามั้ยยย
ร้านอาหารอีกหนึ่งที่ชาวลำปาง พี่คนขับรถม้าแนะนำมาค่ะ ร้านนี่เลย ร้านอาหาร The Riverside Restaurant And Bar มาชิลล์วิวเพลินๆ วิวแม่น้ำวัง พร้อมสายลมอ่อนๆ ทานอาหารไปเสฟดนตรีสด และทานอาหารเมืองเหนือรสชาติถูกปาก สุขใดจะปานเท่าตอนนี้ ร้านอาหารThe Riverside Restaurant อยู่ไม่ไกลจากวัดเชียงราย ลำปาง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำวัง บรรยากาศโอเคเลยล่ะ
เช้าวันที่2 ในการใช้ชีวิตกินอยู่เที่ยวในลำปาง เช้านี้ขอทำตัวเป็นสายบุญมุ่งหน้าไป วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ เป็นอีกวัดที่อยากให้เพื่อนๆชาว EDTguide ลองแวะมาสักการะค่ะ เป็นสถานที่ที่น่าไปเที่ยวชม เป็นวัดที่มีพระธาตุเก่าแก่มีมาแต่โบราณ แต่หลายๆคนอาจยังไม่รู้จักกัน ขับรถมาบริเวณแนวภูเขาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทศบาลตำบลป่าตันนาครัว ที่นี่ขับขึ้นเขาไปค่ะ ในบริเวณวัดจะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอำเภอแม่ทะ ถ้ามาช่วงหน้าหนาวในช่วงเช้าๆ ก็จะเจอกับทะเลหมอกด้วยล่ะ และที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามอีกจุดนึงด้วยนะ
ไปต่อค่ะ สถานที่ๆจะแนะนำที่ต่อไปก็คือ พระมหาเจดีย์พุทธคยา วัดจองคำพระอารามหลวง
พุทธคยา หนึ่งในสี่สังเวชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธทั่วโลก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา สถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้ว พระมหาเจดีย์พุทธคยา ก่อสร้างด้วยหินทรายสีนํ้าตาลนวล มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ยอดแหลมคล้ายยอดพระเจดีย์ทั่วไป มีความสูงประมาณ ๕๑ เมตร ตอนที่ถ่ายเหมือนดูไม่สูงมาก แต่ถ้ามายืนมองที่นี่ด้วยตัวเอง สูงเหมือนกันค่ะ แนะนำว่าถ้ามาเยือนลำปางก็ลองหาโอกาสมาให้ได้นะคะ
หล่มภูเขียว แอ่งน้ำสีมรกต
ความสวยงามจากธรรมชาติยังมีให้ได้พบเห็น แอ่งน้ำขนาดใหญ่บนภูเขา ผืนน้ำมีสีเขียวมรกต ดูเยือกเย็นและสงบนิ่ง ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ถ้ำผาไท ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาว ลำปาง ในนี้มีปลาขนาดใหญ่เท่าขาแอดมินก็มีนะเนี่ยยย อู้ววว คือถ้าตกลงไปปลาจะแอบกินเรามั้ย แอบคิดนะ555 ถ้าใครไปที่นี่เดินหรือถ่ายรูปตามโขดหินก็ให้ระวังลื่นพลัดตกน้ำกันด้วยนะคะเพราะน้ำลึกมากแต่ไม่มีใครทราบว่าลึกกี่เมตร ยังไงก็ระมัดระวังกันหน่อยนะคะ
หล่มภูเขียว แห่งนี้เกิดจากการยุบตัวของหินปูนซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ เรียกว่าหลุมยุบ รอบๆจะเห็นโขดหิน และต้นไม้เขียวขจี ขึ้นอยู่โดยรอบ บรรยากาศโดยรอบของที่นี่คงความเงียบสงบร่มเย็น สะกดสายตาให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้โดยง่ายดาย และนี่คืออีกหนึ่งความงามอันลึกลับของ อ.งาว จ.ลำปาง ที่น่ามาเยือนอีกสถานที่
ตกเย็นไปแชะภาพ ฮิปสเตอร์กันหน่อยดีมะ สะพานโยง สะพานข้ามแม่น้ำงาว ในเมืองลำปาง สะพานนี้รูปทรงเป็นเอกลักษณ์ในตัวของมันเองค่ะ อย่างที่เพื่อนๆเห็น สะพานนี้อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำปางมาแต่โบราณ เกือบร้อยปีได้ สันนิษฐานกันว่าสะพานนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2464 ใครชอบความคลาสสิคที่คงความเป็นไทย ก็ต้องมาแวะถ่ายรูปคู่กับสะพานนี้เป็นที่ระลึกกันหน่อยเนอะ ลําปางเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา
เช้าวันสุดท้าย วันที่3 กับการใช้ชีวิตในเมืองลำปาง ออกเดินทางกันช่วงเช้าตรู่ของวัน เพื่อไม่ให้อากาศร้อนมาก เพราะเพื่อไม่ให้เจอกับสภาพอากาศที่ร้อนมาก เพราะต้องขับรถขึ้นเขาไปและต้องเดินเท้าขึ้นไปบนวัดกันต่อ ที่ๆเราจะไปก็คือ วัดเฉลิมพระเกียรติฯ Unseen Thailand เพื่อไปชมไฮไลท์เด็ดของวันนี้
ที่ตั้งของวัดพระบาทปู่ผาแดง ศาลาของวัดและเจดีย์ต่างๆ ซึ่งมีความสูง 815 เมตร จากระดับน้ำทะเล และตั้งอยู่ภายในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ยอดเขาวัดพระบาทปู่ผาแดงมีความสวยงามแบบอลังการในมุมสูงอย่าง Bird Eye View นักท่องเที่ยวที่ชอบความงามแบบมุมสูงไม่ควรพลาดเลยล่ะที่จะมาเก็บภาพความสวยความงามที่นี่ รู้มั้ยคะว่าที่นี่ เจดีย์ประดิษฐานอยู่บนยอดเขามากกว่า 10 องค์ และภายในบรรจุไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ที่สร้างด้วยแรงศรัทธาของพระสงฆ์และเหล่าชาวบ้าน และใช้ระยะเวลาก่อสร้างยาวนานถึง 10 ปีเลยล่ะ
เมื่อขับมาถึงวัดพระบาทปู่ผาแดง แล้วก็ต้องซื้อตั๋วรถเพื่อให้คนท้องที่ที่เค้าชำนาญการขับ ขึ้น-ลงเขา เค้าพาขับไปส่งด้านบนกันค่ะ ค่าบริการรถโดยสาร ขึ้นและลง รวม 100บาท เมื่อรถมาส่งถึงที่หมายเราก็เดินเท้าขึ้นไปบนตัววัดกันต่อ ระยะทางเดินขึ้นไปรวมๆแล้วก็ประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงแล้วพร้อมไปเก็บภาพ ตัวเจดีย์กันค่ะ ตามไปชมวิว บนยอดด้านบนแบบ 360 องศา เช้าๆลมกระทบตัวเย็นสบายมากเลยล่ะ เหนื่อยหน่อยตอนเดินขึ้นมา แต่ถ้าแลกกับวิวที่ตาเห็น ก็คุ้มค่าและน่าประทับใจมากค่ะ ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปให้ได้นะคะ สวยงามตามท้องเรื่องจริงๆ สวรรค์บนดินทั้งของชาวลำปางและ ของนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนต่างยกย่องให้เป็น 1 ใน Unseen Thailand ลำปางเลยล่ะ
2 คืน 3 วัน กับทริปลำปาง มันช่างฟินเหมือนกับการได้พาตัวเองย้อนวัยกลับไปใช้ชิวิตแบบช้าๆ ไม่เร่ง ไม่รีบ ทำอะไรแบบที่อยากทำ หันไปมองการใช้ชีวิตวิถีชาวบ้านแบบสบายๆ แบบที่ ลำปางเค้ามีประโยคเด็ดที่ว่า ลําปางเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เพื่อนๆลองพาตัวเองมาเที่ยวที่ลำปางกันดูนะเจ้าาาา แล้วจะชอบ!!
ได้เวลากลับเมืองกรุงซะแล้ว 2คืน3วันเหมือนยังไม่ค่อยพอเลย เพราะกำลังใช้ชีวิตช้าๆสโลไลฟ์แบบเพลินๆ ฮ่าๆๆ แล้วไว้จะกลับมาอีกนะจ๊ะเมืองลำปาง ตอนอยู่ลำปางก็ใช้ชีวิตช้าๆแล้ว จะใช้ชีวิตช้าๆอีกหน่อยจะเป็นไรไป ก็เลยตีตั๋วกลับด้วยรถไฟ ตู้นอนปรับอากาศ ขบวนด่วนพิเศษ คันนี้ใหม่เอี่ยมและเป็นการขึ้นรถไฟขบวนใหม่นี้เป็นครั้งแรกซะด้วย แอบตื่นเต้นไปอี้กว่าข้างบนรถไฟจะเป็นไง ตามไปดูเลย
ภายในรถไฟ มีกล้อง CCTV แบบ Built-In ด้วยค่ะ หายห่วงเรื่องอันตรายอุ่นใจไปได้บ้าง ทางเดินเชื่อมตู้ที่กว้างขวางดีนะ ภายในก็มีตู้เสบียงอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก 4 คนที่จองไว้ ภายในห้องพัก 4คน ประตูคอนเน็ค เปิด-ปิดหากันได้ด้วยนะ
พร้อมทุกเตียงภายในห้องโดยสารชั้น1 ยังมี จอสัมผัสส่วนตัวแต่ละเตียง ที่เริ่ดไปกว่านั้นสามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มระบบทัชหน้าจอได้เลย และมีห้องอาบน้ำสำหรับขบขนชั้น1ที่แอดมินนั่งมาด้วย แต่ต้องเป็นห้องโดยสารชั้น1 เท่านั้นนะคะ ประทับใจกับการบริการของรถไฟไทยมากในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้นั่งรถไฟมานานก็รู้สึกว่าอุ่นใจขึ้น แบบนี้ครั้งหน้าถ้าได้เดินทางก็คงจะมาใช้บริการรถไฟอีกแน่นอน
เจอกันทริปหน้าจ๊ะ บัยยยยย
