Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

เที่ยวก่อนใคร MRT สนามไชย ก่อนเปิดใช้บริการ

เที่ยวก่อนใคร MRT สนามไชย ก่อนเปิดใช้บริการ


อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเปิดใหม่ แต่ไม่ได้เปิดแบบธรรมดานะเธอ นางมาพร้อมกับความสวยงามและอลังการตระการตา ออกแบบด้วยความวิจิตรตามศิลปะสมัยก่อน วันนี้เลือกมาให้ดูแค่หนึ่งสถานีเท่านั้น คือ สถานีสนามไชย รับรองใครไปต้องร้องว้าว แถมที่เที่ยวใกล้ๆสถานนีให้อีก ตามมาส่องกันเลยจ้า

ต้องบอกก่อนว่าใครที่ว่างมาอ่านในนี้แล้วละก็จะต้องปลื้มแน่ เพราะวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ถึง 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น. ทางรถไฟฟ้าใต้ดินจะเปิดบริการให้ใช้ฟรีจากสถานีหัวลำโพง - หลักสอง ถึง 5 สถานีด้วยกัน เริ่มตั้งแต่สถานี วัดมังกร สามยอด สนามไชย อิสรภาพ และท่าพระ รับรองถูกใจคนชอบเที่ยวแน่นอนจ้า ส่วนสถานีที่ไม่ได้อยู่ในชื่อที่กล่าวคือต้องเสียตังนะจ๊ะ
เริ่มที่แรกเลยนี้คือตัวเปิดงานเลยนะ ไม่ไปไม่ได้ ที่นั้นคือ MRTสนามไชยจ้าาาา 555 ตื่นเต้นเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ สถานีสนามไชยอยูใจกลางพื้นที่อนุรักษ์เกาะรัตนโกสินทร์ในแนวถนนสนามไชย ซึ่งภายในมีการตกแต่งที่เลิศมว๊ากก โดยใช้สถาปัตยกรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และได้รับการออกแบบโดย รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ ปรมาจารย์ผู้ชำนาญเรื่องสถาปัตยกรรมไทย คุ้นหูกันบ้างไหม

ภายในมีการประดับด้วยเสาสดมภ์ ลงลายกระเบื้องด้วยดอกพิกุล ที่มีความหมายว่าความมั่งคั่งสมบูรณ์ ปลายเสาประดับด้วยบัวจงกล ซึ่งเป็นบัวหัวเสาลักษณะคล้ายดอกบัวกำลังจะบานเต็มวัย มีกลีบยาวบริเวณปลายกลีบจะงอหรือโค้งเข้าหาศูนย์กลางเสา โคนกลีบมักจะมีกลีบเลี้ยงรอบ และปิดท้ายด้วยทองคำเปลว พื้นหลังและผนังจำลองมาจากกำแพงเมือง เพดานเป็นลายฉลุแบบดาวล้อมเดือน ให้ความรู้สึกเหมือนท้องพระโรงในสมัยรัตนโกสินทร์ ที่พูดไปคือดูเยอะและอาจจะน่าเบื่อนะ เพราะฉะนั้นไปดูของจริงดีกว่าสวยกว่าพูดเยอะค่ะ

ที่ต่อไปที่เราจะไปเที่ยวกันก็คืออยู่ใกล้กับ MRTสนามไชยมากๆอ่ะ ใกล้แบบไม่จกตาแน่นอน ที่นั้นก็คือ Museum siam ค่าาา ทำไมถึงว่าใกล้รู้ไหม ก็เพราะว่าแค่คุณนั่ง MRT มาลงสถานีสนามไชยและใช้ทางออกฝั่งมิวเซียมสยาม เพียงแค่ขึ้นบันไดเลื่อนมาเท่านั้นก็จะเจอเลยจ้าาา สะดวกมากจริงๆ

และ Museum siam ก็คือเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่เปิดให้บริการให้ผู้ที่อยากรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยก่อนว่าเป็นมาอย่างไร ภายในจัดแสดงทั้งหมด 14 ห้อง ในชื่อธีมว่า "ถอดรหัสไทย"

เริ่มด้วยห้องที่1 ชื่อห้องว่า "ไทยรึเปล่า" เป็นที่มีหุ่นอยู่กลางห้องแล้วให้ตีความหมายเอาเองว่า คิดว่าเป็น "ไทย" หรือไม่ นั้นสิใช่ไทยหรือเปล่าล่ะ อยากรู้ก็มาดูเอง 555

ห้อง 2 นี้ชื่อว่า "ไทยแปลไทย" ห้องนี้คือห้องจัดแสดงลำดับและพัฒนาการของความเป็นไทย จะมีพัฒนาการแบบไหนบ้างไปชมเอง พูดแล้วเดี๋ยวจะยาวววววว

ห้องที่ 3 ชื่อห้องว่า "ไทยตั้งแต่เกิด" ห้องแสดงพัฒนาการเหมือนห้องที่แล้วเลย เพียงแต่จัดแสดงในรูปแบบของการแสดงแสงสีเสียงบนโต๊ะขนาดใหญ่ แบบว่าอลังการ จนต้องร้อง Oh! my god!!! ดูแล้วเพลินดีเด้อ

ห้อง 4 ชื่อว่า "ไทยสถาบัน" มาห้องนี้ก็ต้องมาเล่นเกมทดสอบไหวพริบของเรากันหน่อย ซึ่งบอกเลยว่ามีน้อยมาก แต่เราจะไม่หยุดเรียนรู้ค่ะ จำคำนี้ไว้นะคะเด็กๆหนูๆทั้งหลาย

ห้องที่ 5 ชื่อ "ไทยอลังการ" อลังการสมชื่อห้องจริงๆค่ะคุณ เพราะห้องนี้ได้จำลองท้องพระโรงของพระราชวังสมมุติแห่งหนึ่งขึ้นมา ใครเขาคือต้องประทับใจอ่ะบอกเลย

ห้องที่ 6 ชื่อว่า "ไทยแค่ไหน" ห้องนี้จะจัดชุดเครื่องแต่งกายสวยๆ ไว้มากมาย เข้ามานึกว่าประกวด Miss Grand กันอยู่ ถ้าเข้าไปจะเจอชุดของ เลดี้ กาก้าด้วย เขาให้ตีความว่าเป็นของไทยไหม แต่นี้ว่าไทยนะเพราะอยู่ประเทศไทย แฮร่!! 5555

ห้องที่ 7 "ไทย ONLY" เข้าไปห้องนี้คืออย่าลืมพกธูปไปด้วยเด้อ เพราะมีนางกวักองค์ใหญ่คอยกวักเรียกพวกเราให้เข้ามาชมในห้องนี้ค่าาา ห้องนี้จะจัดแสดงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของไทย ที่ไทยคิด ไทยทำ ไทยขำ ไทยบูชา คือต้องมาดูอ่ะ ไปดูแล้วมีของหลายอย่างมากจนนึกถึงสมัยตอนเด็กๆเลย ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างมาดูค่ะ

ห้อง 8 "ไทย INTER" ห้องนี้จัดเพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างสมัยก่อนกับสมัยปัจจุบันค่ะ ไปดูไม่พูดเยอะไปดูค่าาาาา!!

ห้องที่ 9 "ไทยวิทยา" เป็นห้องที่จำลองห้องเรียนในสมัยก่อน คือเลิศมากเข้าไปในห้องนี้คือโดนเข้าสิงด้วยวิญญาณคุณครูและวิญญาณนักเรียน 55555 เลือกเลยค่ะว่าจะเป็นรั่วของชาติหรืออนาคตของชาติ แต่นี้บอกไว้ก่อนว่า ตอนเด็กเคยอยากเป็นครู พอมาตอนนี้ไม่เป็นดีกว่ากลัวอนาคตของชาติจะไม่มี อิอิ

ห้องที่ 10 "ไทยชิม" ห้องห้องจัดแสดงเกี่ยวอาหารไทยที่เราต่างคุ้นเคยกันดี อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ลองมา

ห้องที่ 11 "ไทยดีโคตร" มาเรียนรู้ต้นทางของความเป็นไทยได้ในห้องนี้ค่ะ ทั้งศิลปกรรมของไทยต่างๆ เยอะมาก ใครอยากเห็นชุดครุยสมัยก่อนหรือชุดนักเรียน รถตุ๊กๆ ก็มาดูได้

ห้อง 12 ห้อง "ไทยเชื่อ" ห้องนี้จัดแสดงเกี่ยวกับความเชื่อของไทยเอาไว้ มีทั้งเครื่องรางของขลังต่างๆ มีเสี่ยงเซียมซีด้วยนะ ยกช้างก็มี นี้ไปลองยกช้างดูถามเรื่องความรัก 555 สรุปคือปิ๋วววว เศร้ามากแม่!!

ห้องที่ 13 ชื่อว่า "ไทยประเพณี" ห้องนี้จะมีกล่องอยู่เยอะมาก ซึ่งจะมีความลับอยู่ในกล่อง แบ่งประเภทตามสีกล่อง สีส้มใส่เรื่องราวเกี่ยวกับประเพณี, สีเขียวเรื่องเทศกาล, สีน้ำเงินเรื่องมารยาท

ห้องสุดท้าย ห้อง "ไทยแชะ" ห้องนี้เก๋มากก นางมีชุดและเครื่องประดับให้เราเลือกใส่เพื่อไปถ่ายรูปกับ Backdrop นี้เลือกชุดเดรสมาใส่สวยมาก แต่ประเด็นคือใส่ไม่ได้ไงตัวอ้วนเกินนนน สุดท้ายต้องหยิบผ้าไหมมาทำเป็นโจงกระเบน 5555 สงสารตัวเองสุด รอฉันผอมก่อนฉันจะมาล้างแค้น และนี้ก็คือที่เที่ยวที่สองที่เรามา 5555 เราไปต่อที่อื่นกันต่อเลย

Museum siam
ที่ตั้ง : 4 ถนน สนามไชย แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทรศัพท์ : 02 225 2777
เปิดทุกวัน 10.00-18.00 น.

ที่ต่อมาที่เราจะไปกันก็คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือวัดโพธิ์นั้นแหละค่ะ เป็นเก่าแก่ที่อยู่คนไทยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที 1 เลยนะคุณๆ ทั้งหลาย แต่ก่อนเราอาจจะรู้จักวัดนี้ ด้วยตำนานยักษ์วัดโพธิ์ แต่สมัยนี้วัดโพธิ์ถือว่าเป็นแหล่งถ่ายรูปยอดฮิตของวัยรุ่นเลยนะ อ่อลืมบอก!! วันนี้เราแต่งตัวมาถ่ายรูปด้วยเด้อโดยมีธีมว่าเด็กแนวฮิปเตอร์ใสใส (ใสใสผู้ชายอยู่ใส) อิอิ

ภายในมีวิหารพระพุทธไสยาส เพื่อกราบสักการะพระนอนองค์ใหญ่ มีหมู่เจดีย์ขนาดเล็กหลายองค์ โดยมีเจดีย์ทั้งหมด 99 องค์เลยค่ะ เยอะสุดในประเทศแล้วและยังมีองค์พระเจดีย์ที่สำคัญคือพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย, พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตั้งอยู่ภายในพระวิหารข้างใน ต้องบอกเลยว่าเข้าวัดแล้วจิตใจสงบสุขจริง ไม่ใช่แค่ใจสุขนะ กายก็สุกค่ะสุกจนไหม้เลยคุ๊ณณณ ร้อนมากแม่!! เอ๊ะ!! หรือเพราะเราเป็นคนบาปว่ะ?

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ที่ตั้ง : 2 ถนน สนามไชย แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

ที่ที่เราจะไปต่อจากนี้คือ ตลาดท่าเตียนค่ะ แหล่งช็อปปิ้งอาหารทะเลแห้งต่างๆ บริเวณรอบนอกตัวตลาดนั้นตกแต่งในยุคสมัยเก่า ดูคลาสสิคและวินเทจมากๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนชีคๆเขามาถ่ายรูปกัน ถ่ายฟิวแบบเดินเม่อเอยอะไรเอยหรือถ่ายรูปแบบเอ๊ะใครเรียกเรานะ 5555555

ตลาดท่าเตียน
ที่ตั้ง : ถนน มหาราช แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

และที่สุดท้ายที่เราจะใช้ปิดทริปในวันนี้คือ ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ (สาขาท่าเตียน) เป็นอาหารที่ติดริมแม่น้ำเจ้ายา บรรยากาศดีมากแม่น้ำตาจะไหล บอกเลยถ้าไม่ได้ทำทริปคือก็ไม่รู้ว่าจะหาโอกาสไหนมาทานหรูๆแบบนี้ 5555 ร้านนี้เปิดมาเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วเองค่ะคุณ การตกแต่งร้านออกแบบแนวอีสานๆนิดนึงค่ะ จะมีของใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มาจากภาคอีสาน ใช้โทนสีเหลืองที่เป็นสีของดอกสุพรรณิการ์ ภาชนะที่มีในร้านทางผู้บริหารนี้ไปเดินเลือกซื้อเองเลยนะ เห็นไหมว่าใส่ใจรายละเอียดแบบสุดๆ เลิศศศ!!

จุดเด่นของร้านคือเปิดเป็น All-Day Dining ก็คือเปิดตลอดไม่มีพักเบรค ซึ่งสาขาต่างจากสาขาอื่นที่มีพักเบรค จุดประสงค์หลักของนางก็เพื่อที่จะให้ลูกค้าเนี่ยได้ดูวิวและบรรยากาศรอบๆได้โดยไม่เสียเวลานั้นไป มี Rooftop อยู่ด้านบนสำหรับใครที่อยากนั่งดูวิวบน Rooftop แนะนำให้โทรมาจองค่ะ ต้องรีบจองนะ เพราะวิวดีมากกกก จะเปิด 2 เวลาคือ 17.30-19.45 น. กับ 20.00-22.00 น. ถ้าเราในช่วงเวลาที่พูดมานี้เราจะได้เห็นวิววัดอรุณสองแบบคือวิวตอนพระอาทิตย์ตกดินกับวิวตอนที่วัดอรุณเปิดไฟตอนกลางคืน สวยมากก!! ใครอยากเห็นก็ต้องมาเลยอ่ะ ณ จุดๆนี้

อาหารต่างๆเป็นสูตรเฉพาะของคุณยายที่หลานต้องการจะเผยแพร่ให้คนอื่นได้ลิ้มลอง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจากภาคตะวันออกและส่วนมากจะเป็นซีฟู๊ด เมนูที่ทางร้านแนะนำก็จะเป็นหมูชะม่วง, กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา, น้ำพริกไข่ปู คนไทยก็มาทานได้ต่างชาติก็ทานได้เธอ มันอร่อยจริงง รสชาติเน้นความเป็นไทยเพราะอยากให้ชาวต่างชาติและคนไทยได้รับรู้รสชาติที่แท้จริงของอาหารไทย อลังการไปอี๊กกก ทางบาร์ชาได้รับชาคุณภาพดีจากร้าน tea ผลิตชาให้กับร้านนี้ร้านเดียวเลยเด้อ มีท่าเรือของร้านด้วยนะเป็นแบบ private อ่ะแกรร ไว้สำหรับรับหนักท่องเที่ยวที่เหมาเรือมาที่ร้านโดยเฉพาะ เก๋มากแม่!! 

"ชุดอาหารทานเล่นสุพรรณิการ์" จะประกอบไปด้วยม้าฮ่อ, เมี่ยงหยอง, ข้าวตังน้ำพริกกากหมู รสชาติดีทั้งสามอย่างเลยค่ะ นี้แค่อาหารทานเล่นนะ ของอย่างอื่นคือต้องเลียจานแล้วแหละ 5555

"น้ำพริกไข่ปู" ใช้เนื้อกับไข่ปูเน้นๆ ไม่ใช่ใช้วิญญาณปูเด้อ เนื้อเน้นๆค่ะ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นมันปูไข่ปูมากๆ เต็มปากเต็มคำสุดๆ
"หมูชะมวง" ถ้าเห็นภาพอาจจะคิดว่าต้องเผ็ดเวอร์พริกสิบเม็ดแน่ๆ แต่จริงแล้วนางไม่เผ็ดเด้อ รสชาตินางออกไปทางเปรี๊ยวๆหน่อย อร่อยดี หมูให้ชิ้นใหญ่มาก ข้าวที่เสริฟจะเป็นข้าวขาวหรือข้าวสวย และข้าวแจสเบอร์รี่ฟังไม่ผิดค่ะแจสเบอร์รี่จริง ตอนแรกที่ฟังนี้ก็งง มีด้วยหรอว่ะ 555 นางเป็นข้าวพันธ์หนึ่งแถบทางเหนือจ้าคล้ายๆข้าวกล้อง

"ไข่ลูกเขย" ของที่นี้จะเป็นฟิลแบบไข่ยางมะตูม สาขานี้ใส่เป็นจานตัวไก่ให้อารมณ์เหมือนไข่อยู่ในไก่แล้วเอาหมี่กรอบมารองไข่ลูกเขยไว้เหมือนกองฟางประมาณนี้น่ารักมากกก องค์ประกอบของอาหารจานนี้คือดี 

"กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" รสชาติกลมกล่อมกำลังดีไม่เค็มมากจนเกินไป คุณผู้จัดการบอกว่าจานนี้คนญีปุ่นชอบทานมาก แต่เราอยากทานคนญีปุ่นค่ะ อุ๊ป!!

"ชุดชา" ของที่นี้ดีนะเธอมีให้เลือกเด็ดๆเลย 5 อย่าง ได้แก่ Supanniga, Tha Tien, Jai Yen Yen, Rain Forest, Blooming Garland แต่ทางร้านแนะนำให้ชิมชา Jai Yen Yen ดูรสชาติดีนะ หอมมากได้กลิ่นมิ้นๆหน่อย ดื่มแล้วสดชื่น 

"Afternoon tea" ได้แก่ชาร้อน ขนมครกอร่อย ขนมจีบนกใช้ไส้ปลาเน้นๆเต็มคำ ช่อสุพรรณิการ์ไส้หมูให้อารามณ์แบบกินสาคูอ่ะ มะพร้าวแก้วอัญชันก็อร่อย panna cotta ชาไทยคือละมุนสุด ขนมสามสีเลิศมาก ข้าวเหนียวมะม่วงจะจับจีบเป็นดอกสุพรรณิกามองเผินๆนึกว่าขนมเค้ก มะม่วงที่นางใช้เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้นะ อร่อยมากอยากให้ไปลองชิมกัน 

ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ (สาขาท่าเตียน)
ที่ตั้ง : 392 25-26 ถนน มหาราช แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทรศัพท์ : 02 015 4224, 02 714 7608
เปิดทุกวัน 11.30-22.30 น.

เป็นไงกันบ้างคะทริปหนึ่งวันที่สนามไชยของดิฉัน นอกจากจะได้ข้อมูลดีๆแล้วยังไปถ่ายรูปตามได้ด้วยเด้อ ใครถ่ายดีก็อย่าลืมเอามาอวดกันบ้างนะคะ และถ้าไปช่วงวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 28 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น. ทางรถไฟฟ้าใต้ดินจะเปิดบริการให้ใช้ฟรี 5 สถานีนะคะ รีบค่ะรีบไป อยากไปเที่ยวตามกันบ้างไหม พวกเธอต้องอยากไปแหละฉันดูออก 5555

 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED