เมืองน่าน ถือเป็นเมือง ที่มีวิถีวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ที่ทรงคุณค่ามากมาย ถูกสืบทอดมานาน หลายชั่วอายุคน และผ้าทอพื้นเมืองน่านก็เป็นหนึ่งในสื่อที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวบ้านแต่ละท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี แต่ละบ้านแต่ละชุมชน ต่างมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะชุมชน เพราะฉะนั้น วันนี้ผมจะขออาสาพาทุกคนไปเที่ยวน่าน และซึมซับเรื่องราวอันมีเสน่ห์ของผ้าทอเมืองน่านไปพร้อมๆ กันครับ
ทริปนี้เราจะใช้เวลาด้วยกัน 2 วัน 1 คืน นั่งเครื่องมาลงที่ท่าอากาศยานน่านนคร จากนั้นไปเปิดทริปกันที่ โฮงเจ้าฟองคำ บ้านโบราณสไตล์ล้านนาที่มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ บอกเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนชาวน่าน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โฮงเจ้าฟองคำ เดิมเป็นบ้านพักของ เจ้าศรีตุมมา-หลานเจ้ามหาวงศ์ (เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 11 ของราชวงศ์หลวงติ๋นมหาวงศ์) อยู่ติดกับคุ้มแก้ว ที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครน่านในเวียงเหนือ ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าบุญยืน ธิดาคนสุดท้องของ เจ้าศรีตุมมา กับ เจ้ามะโน ได้ย้ายตัวโฮงลงมาสร้างในที่ปัจจุบัน และได้ตกทอดสืบต่อมายัง เจ้าฟองคำ ธิดาของ เจ้าบุญยืน กับ เจ้าอินต๊ะ ปัจจุบันด้านบนของบ้านเป็นสถานที่จัดแสดงของเก่าเมืองน่านมากมายหลายอย่าง แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องพระ และห้องครัว เป็นต้น โดยของทั้งหมดอยู่คู่กับบ้านนี้มาตั้งแต่อดีตกาล ยกเว้นเครื่องเงินที่เจ้าของบ้านได้สะสมเอง
ส่วนบริเวณใต้ถุนเรือน เป็นจุดที่คุณจะได้ร่วมซึมซับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาการทอผ้าของชาวน่าน มีการสาธิตการปั่นฝ้ายเป็นเส้นด้าย ไปจนถึงขั้นตอนการทอที่ต้องใช้ความละเอียดและประณีต โดยเฉพาะ ผ้าซิ่นลายน้ำไหล สุดยอดราชินีแห่งความงามของลายผ้าเมืองเหนือ ที่มีเพียงจังหวัดน่านแห่งเดียวเท่านั้น
ที่อยู่ 8 ซอย 2 บ้านพระเกิด ถ.สุมนเทวราช ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน
โทร. 0 5471 0537
เว็บไซต์ www.facebook.com/noblehousenan
และจากการได้พูดคุยกับคุณพี่และแม่ที่สาธิตการทอผ้าให้เราได้ชมกันนั้น ผมก็ได้ทราบว่า เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน แม่ญิงเมืองน่านมีการรวมกลุ่มทอผ้าเพื่อขาย คุณค่าบนผืนผ้าได้กลายเป็นมูลค่า สร้างงาน สร้างรายได้ให้เป็นรูปธรรม แต่การทอผ้าผืนด้วยวิธีการแบบเดิมๆมีตลาดแคบ บางช่วงขายผ้าได้ช้า จนขาดรายได้ ทำให้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เล็งเห็นปัญหาในจุดนี้ จึงมีโครงการสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจทอผ้าพื้นเมืองน่าน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทอผ้าบ้านซาวหลวง กลุ่มทอผ้าบ้านนาปงพัฒนา และกลุ่มทอผ้าบ้านมหาโพธิ เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็น กิจการเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน (Social Enterprise หรือ SE) มุ่งแปลงทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาเพื่อขยายตลาดของผ้าทอเมืองน่าน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และมุ่งหวังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน รวมถึงเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นๆ นำไปต่อยอดได้นั่นเอง...น่าสนใจมากๆ อย่างนี้ต้องไปดูให้รู้ซะแล้วแหละ อิอิ
กลุ่มทอผ้าบ้านซาวหลวง เป็นกลุ่มและศูนย์เรียนรู้วิถีการทอผ้าเมืองน่าน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้าไปดูหรือทดลองเก็บ ปั่น ตี ย้อม และทอฝ้ายเองได้ครับ โดยลายผ้าที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคือ ผ้าลายบ่อสวก ที่เชื่อกันว่าหากสวมใส่แล้ว จะนำมาซึ่งความมั่งคั่งเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้สวมใส่ และกลุ่มนี้ยังมีการท่องเที่ยวโดยชุมชน มีโฮมสเตย์ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบหมู่บ้านที่น่าสนใจอีกด้วย
มื้อกลางวันนี้ฝากไว้ที่นี่ครับ เป็นอาหารพื้นบ้าน แต่รสชาติไม่ธรรมดา
ที่อยู่ : 116 หมู่ที่ 5 บ้านซาวหลวง ต.บ่อสวก อ.เมืองน่าน จ.น่าน 55000
โทร. : 08 8454 1005
เว็บไซต์ : Facebook กลุ่มวิสาหกิจผ้าทอมือซาวหลวง
กลุ่มทอผ้าบ้านนาปงพัฒนา อีกหนึ่งกลุ่มทอผ้าที่มีจุดเด่นด้านการแปรรูปสินค้า และการเลือกใช้สีและลวดลายในการทอผ้า สำหรับลายผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์คือ ผ้าลายดาวล้อมเดือน มีสีอ่อนหวานนุ่มนวล ใครได้สวมใส่จะเสริมบุคลิกภาพให้มีสเน่ห์ ตรึงใจแก่ผู้พบเห็น เป็นต้น
กลุ่มทอผ้ามหาโพธิ ตั้งอยู่ภายในวัดมหาโพธิ์ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน เป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชนที่สืบทอดภูมิปัญญาและเผยแพร่ ความรู้การทอผ้า เพื่อช่วยการอนุรักษ์และต่อยอดผ้าทอ ให้กับเยาวชน และผู้ที่สนใจ ผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์คือ "ลายคำเคิบ" ลวดลายโบราณที่จะเลือนหายไปหากไม่มีใครอนุรักษ์และต่อยอด
หลังจากท่องเที่ยว ซึมซับสเน่ห์แห่งผ้าทองเมืองน่าน จากทั้ง 3 กลุ่มกันจนครบ ตอนนี้เราจะกลับสู่โหมดเที่ยวน่านแบบปกติกันแล้วครับ เริ่มจากที่ วัดมหาโพธิ์ นี่แหละ ที่ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน พระพุทธรูปไม้แกะสลักทรงเครื่องลงรักปิดทองปางเปิดโลก สูง 2.83 เมตร พระพุทธรูปองค์นี้เป็นที่นับถือของชาวน่านว่า ศักดิ์สิทธ์ เป็นสิ่งอัศจรรย์ ไม่ไหม้ไฟ และถือว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญของวัดมหาโพธิ์และเป็นสมบัติของชาวเมืองน่าน มีเรื่องเล่ากันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ชาวต่างชาติจะขอซื้อโดยจะหล่อรูปโลหะให้แทน แต่ปรากฎว่า โลหะที่ใช้หล่อนั้นมีอันเป็นไปใช้ไม่ได้เสียทุกที จนต้องล้มเลิกไป
นอกจากไหว้พระในอุโบสถแล้ว ด้านหลังยังมีจุดที่น่าสนใจคือ ที่วัดแห่งนี้จะมีการแกะสลักพระพุทธรูปไม้ ให้ได้เห็นกัน เป็นศิลปะที่ผสมผสานกับพระพุทธศาสนาที่แปลก และเป็นภาพที่หาชมได้ยากทีเดียวครับ
ที่อยู่ : ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน
เสร็จจากที่วัดมหาโพธิ์ เหลือบดูนาฬิกา ก็เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว ขอตัวเช็คอินเข้าที่พักกันก่อนดีกว่าที่ ศศิดารา รีสอร์ท ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ4 กิโลเมตรเศษ อยู่ใกล้ๆกับโลตัส น่าน ทางเข้าทางเดียวกับวัดพระธาตุเขาน้อย เข้ามาจนเกือบถึงตัววัดจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาวิ่งไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ ภายในรีสอร์ทจะเน้นการโชว์ศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านพร้อมลวดลายตกแต่งตามแบบศิลปะล้านนา รวมทั้งเครื่องเงินที่ประดับอยู่ตามฝาผนังโรงแรม สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเป็นน่านอย่างแท้จริง ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 30 ห้อง ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน
ห้องที่ผมนอนวันนี้เป็นโซนของบ้านเรือนเรือนไทยครับ บรรยากาศเป็นวิวสวน มองดูแล้วสบายตา และให้ความรู้สึกสดชื่นพอสมควรเลยล่ะ
ที่อยู่ : 629 หมู่ 4, ไชยสถาน, อ.เมือง, จ.น่าน 55000
โทร : 05 4774 483, 0 8 9850 9762
อีเมล์ : info@ sasidararesort.com
ตอนนี้ก็คงได้เวลาของปากท้องกันอีกแล้วฮะ หลังจากผจญภัยกันมาทั้งวัน กับมื้ออาหารเย็นที่ ร้านสวนสะเนียน ร้านอาหารพื้นบ้านเมืองเหนือ ริมแม่น้ำน่าน วิวสวย บรรยากาศดี ลมเย็นๆ
เมนูอาหารของร้านที่มาแล้วแนะนำให้สั่งเลยก็จะมี ไก่ทอดมะแขว่น แกงส้มเมืองปลาคัง ต้นอ่อนทานตะวันผัดน้ำมันหอย ปลาทับทิมทอดสมุนไพร เปาะเปี๊ยะสด ขอบอกว่าแต่ละจานเด็ดทั้งนั้น
ที่อยู่ : 204/1 ถนนมะโน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 55000
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.
โทร : 08 1111 3035
ของคาวผ่านไป จะขาดของหวานได้อย่างไรล่ะจริงมั้ย? เรามาต่อกันที่ ร้านขนมหวานป้านิ่ม ร้านชื่อดังประจำเมืองน่าน ตั้งอยู่ทีสี่แยกไฟแดงวัดศรีพันต้น (วัดสวยๆ สีทองอร่าม) ครับ เป็นเรือนไทยหลังใหญ่สุดคลาสสิค ให้บริการความอร่อยด้วยขนมไทยสูตรโบราณสารพัดเมนู ที่คัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดีมาปรุงแต่งให้ขนมมีรสชาติหอมหวานกลมกล่อม จนเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้านักท่องเที่ยวและลูกค้าเจ้าประจำคนเมืองน่าน และเมนูขึ้นชื่อของร้านก็คือ บัวลอยไข่หวาน ที่รสชาติเป็นที่กล่าวขานไปทั่วทิศ
แป้งบัวลอยที่ทั้งนุ่มและเหนียวกำลังดี เมื่อได้ทานพร้อมกับน้ำเชื่อมรสหวานอ่อนๆ ที่มีมะพร้าวน้ำหอมเป็นส่วนผสม ทำให้ขนมถ้วยนี้ทั้งหอมและหวานติดใจ หมดถ้วยไปแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว อร่อยจริง ตัวจริง คอนเฟิร์มครับ
ที่อยู่ : สีแยกวัดศรีพันต้น ถ.เจ้าฟ้า ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 55000
เวลาเปิด-ปิด : 11.30-22.30 น. (หยุดทุกวันพุธ)
โทร : 08 5036 6108, 08 1469 5082
จัดเต็มกับทั้งของคาวและหวานขึ้นชื่อของน่านแล้ว เราก็มาเดินย่อย ช็อปปิ้ง สินค้าต่างๆ กันที่ ถนนคนเดินน่าน ข้างวัดภูมินทร์ หรือ ใครยังไม่อิ่ม จะเดินกินเพิ่มก็มีอาหารการกินให้เลือกเพียบไปหมด ที่นี่ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองน่านเลยล่ะครับ เป็นถนนสายวัฒนธรรมที่เราจะสามารถมองเห็นรูปแบบการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายของคนเมืองน่านได้เป็นอย่างดี
ที่อยู่ : ข้างวัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น.
และแน่นอนว่ามาน่านต้องอย่าลืมเข้าไป วัดภูมินทร์ ซึ่งมีเอกลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นคือ ตัววิหารสร้างเป็นทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว ด้านในกลางพระอุโบสถจัตุรมุข ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ หันเบื้องปฤษฏาค์ชนกัน ประดับนั่งบนฐานซุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่งดงามมากๆ
และจุดเด่นอันเป็นที่เลื่องลือมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศของวัดภูมินทร์ ก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ของวัด โดยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่โดดเด่นเป็นพิเศษและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในวัดภูมินทร์ ต้องยกให้ภาพ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทิศตะวันตกครับ เป็นภาพของชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดแต่งกายแบบพม่าหรือแบบไทยใหญ่ ฝ่ายชายจับบ่าหญิงสาวและใช้มือป้องปากเหมือนกำลังกระซิบกระซาบถ้อยคำบางอย่างข้างๆหู เป็นภาพอันแสนคลาสสิคจนได้รับการขนานนามว่าเป็นภาพ “กระซิบรักบันลือโลก”
เมื่อไหว้พระ ขอพรกันจนเหนื่อยก็ได้เวลากลับที่พักไปพักผ่อนกันแล้ว สำหรับคืนนี้ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์จ้าาา Zzzz
ที่อยู่ : ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน 55000
โทร : 0-5471-0935
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า จากทุ่งนาเมืองน่าน เป็นวิวที่เมื่อเปิดประตูห้องออกมาก็เจอแบบนี้ สดชื่นสุดๆ ไปเลย
เช้านี้ขอฝากท้องไว้กับ Breakfast ของรีสอร์ทก็แล้วกัน
ก่อนตีตั๋วกลับสู่เมืองกรุง แวะไปปิดท้ายทริปกันที่ วัดพระธาตุเขาน้อย องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ ศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากวัดพระธาตุเขาน้อยสามารถมองเห็นทิวทัศน์ โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542
ชมวิวเมืองน่าน พร้อมกล่าวคำลา แต่สัญญาว่า จะกลับมาอีกแน่นวลจ้าาา บ๊ายยย บายยย