โฮจิมินห์ - ดาลัด - มุยเน่ 4 วัน 3 คืน
เคยคิดมาตลอดว่าทะเลทรายคงจะมีแต่ในทวีปแอฟริกา หรือทวีปยุโรปที่ห่างไกลชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ไปแน่ จนวันนึงไปเห็นภาพที่จุดประกายความหวัง เป็นภาพคนยืนอยู่กลางทะเลทราย ที่แว๊บแรกนึกว่าทะเลทรายซาฮาร่า แต่แคปชั่นดันบอกว่านั่นคือ ประเทศเวียดนาม! ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง ค่าใช้จ่ายก็ดีงาม ไม่แพง เดินทางง่าย นอกจากทะเลทรายแล้วยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย วางแผนชวนเพื่อนกดจองตั๋วเครื่องบินปุ๊บปั๊บได้มาในราคาน่ารัก ไป-กลับ เวียดนาม 3,100 บาท รวมน้ำหนักกระเป๋า ทริปนี้เราไปกับเพื่อนแค่ 2 คน โดยไม่มีการจองที่พักล่วงหน้า!
ค่าเงิน 10,000 VND = 15 บาท
DAY 1
ขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมืองตอน 6.45 น. ไปถึงเวียดนามก็ราวๆ 9 โมงกว่า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที รับกระเป๋าเสร็จ เดินออกมาหน้าสนามบินก็จะเจอกับร้านขายซิมโทรศัพท์ที่ตั้งเรียงราย เคยอ่านในรีวิวเห็นเขาบอกว่าร้าน Vinaphone ถูกที่สุด จากที่เดินดูหลายๆ ร้านขอบอกว่าจริง ซิมเน็ตความเร็ว 5 GB ใช้ได้เดือนนึง ราคา 105่,000 VND (152 บาท) พนักงานบริการดี ใส่ซิม ลงทะเบียนให้เรียบร้อย สามารถใช้งานได้ทันที สัญญาณอินเตอร์เน็ตเวียดนามแรงใช้ได้เลย
ออกจากร้านขายซิมเดินลากกระเป๋า ไปที่รถเมล์หมายเลย 152 คันสีเขียว ที่จะจอดอยู่หน้าสนามบินเลย บอกกระเป๋ารถเมล์ว่าไป ฟามงูหลาว ค่าโดยสาร 10,000 VND (15 บาท) ราคานี้เขาคิดค่ากระเป๋าสัมภาระด้วยนะ (ค่าโดยสารปกติแค่ 5,000 VND) ก็จ่ายๆ ไป นั่งรถกินลมชมวิว ดูสกิลการขับขี่มอไซต์ของคนเวียดนามที่ต้องบอกว่าฝีมือระดับเทพ หลบซ้ายแทรกขวาโคตรเซียนไม่มีพลาด! ไม่มีชน! บีบแตรใส่กันตลอดทาง การจราจรวุ่นวายมาก ประมาณ 30 นาที ก็มาถึง ฟามงูหลาว แหล่งรวมบริษัททัวร์ ที่พัก ผับบาร์ อารมณ์คล้ายๆ ข้าวสารบ้านเรา
ลงจากรถเมล์เดินลากกระเป๋าทุลักทุเลหน่อยๆ เพราะทางเท้าเวียดนามไม่ค่อยดีและต้องคอยหลบพี่มอไซต์ด้วย บ้านเมืองเขายังดูล้าหลังกว่าเรามาก เวลาข้ามถนนนี่มันส์สุด! เดินให้ไว ใจต้องนิ่ง อย่าหยุดเดิน เดี๋ยวพี่มอไซต์เขาหลบให้เอง ใครข้ามถนนที่เวียดนามได้นี่ ข้ามถนนที่ไหนในโลกนี้ก็ง่ายแล้วค่ะ! เป้าหมายของเราคือ The Sinh Tourist ไปจองตั๋วรถนอน Sleeping Bus ไปเมืองดาลัดก่อน ได้รถรอบ 4 ทุ่ม ไซง่อน(โฮจิมินห์) - ดาลัด ราคา 398,000 VND (577 บาท) ราคานี้สำหรับ 2 คน ตกคนละ 288 บาท ถูกเว่อร์! ถ้าเทียบกับระยะทางที่ค่อนข้างไกล ระหว่างรอรถเรากับเพื่อนก็ไปเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นฆ่าเวลา สามารถฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ที่บริษัททัวร์ได้ฟรี แต่ห้ามเกิน 8 ชั่วโมง ไม่งั้นมีคิดเงิน!
มาโฮจิมินห์พลาดไม่ได้กับ Apartment Cafe อันโด่งดัง! อาคาร 9 ชั้น ที่ถูกเนรมิตให้เป็นแหล่งรวมคาเฟ่สุดชิค! ห่างจากฟามงูหลาวประมาณ 1.8 กิโล เปิด Google maps เดินตามถนนมาเรื่อยๆ ผ่านวงเวียนตลาดเบนถั่น เมืองโฮจิมินห์อากาศร้อนมาก เดินเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เดินมาเรื่อยๆ จนเห็น Ho Chi Minh City Hall ตึกสีเหลืองๆ กับรูปปั้นอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ใต้ Apartment Cafe จะตั้งอยู่บริเวณลานกว้างหน้ารูปปั้น
จากที่ยืนสังเกตการอยู่พักนึงก็ไปถูกใจร้าน Boo Cafe ซึ่งอยู่ที่ชั้น 8 มีบันไดให้เดินขึ้นหรือใครขี้กียจก็มีลิฟท์คอยให้บริการ มีค่าใช้ลิฟท์ คนละ 3,000 VND (ประมาณ 4 บาท) ร้าน Boo Cafe เน้นเป็นเครื่องดื่ม โกโก้เย็นรสชาติเข้มข้น และชาเขียวก็อร่อยมาก กลิ่นหอม รสชาติติดลิ้น สนนราคาแก้วละ 45,000 VND (65 บาท) มีที่นั่งชิลล์ริมระเบียง
จากนั้นเราก็พากันเดินเที่ยวไปตามถนน ชิมสตรีทฟู้ดข้างทาง อาหารเวียดนามที่อยากลองชิมก็คือ เฝอ หรือก๋วยเตี๋ยวเวียดนามนั่นเอง ชามนี้คล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก น้ำซุปหอม กลมกล่อม บีบมะนาวกับพริกลงไปเพิ่มรสชาตินิดนึง ราคา 30,000 VND (ราคาประมาณ 43 บาท) รู้สึกเหมือนโดนชาร์จ เพราะป้ายหน้าร้านเขียนราคาไว้แค่ 20,000 VND เอง หึหึ!
เดินต่อมาเรื่อยจนมาเจอร้านมาม่าเห็นคนกินเยอะดี เป็นร้านที่มีเก้าอี้นั่งเตี้ยๆ ข้างทาง ตอนสั่งค่อนข้างลําบากคุยกับแม่ค้าไม่รู้เรื่อง อาศัยมองๆ จากคนที่นั่งกินอยู่แล้วใช้วิธีเปิดรูปในมือถือให้เขาดู กว่าจะได้กิน เพลีย! จานนี้มาม่าทะเลรสชาติอร่อยใช้ได้เลย น้ำจิ้มที่นี่เป็นซอสพริกผสมกับซีอิ๋วขาว ตอนแรกก็ งงๆ ว่ามันคืออะไร ลองชิมดูรสชาติหวานๆ เค็มๆ แปลกดี ส่วนตัวเราชอบนะ มาม่าจานละ 25,000 VND (36 บาท)
กลางคืนมาดื่มด่ำแสงสีต่อที่ร้านนั่งชิลล์ใกล้ๆ กับบริษัททัวร์ ตอนกลางคืน ฟามงูหลาว บรรยากาศคึกคักทีเดียวคล้ายถนนข้าวสารบ้านเรา แสงสี ผับบาร์เพียบ! ที่สำคัญราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกมาก โดยเฉพาะเบียร์ของเวียดนามขวดละ 15,000 - 30,000 VND แล้วแต่ร้าน คิดเป็นเงินไทย ตกขวดละ 20 - 50 บาท ถูกเว่อร์!
เวลาผ่านไปจน 4 ทุ่ม ก็ได้เวลาขึ้นรถ เราต้องไปติดต่อเช็คอินที่หน้าเคาร์เตอร์ Sinh Tourist ล่วงหน้า 30 นาที นี่คือภายในรถนอน Sleeping Bus ที่นอนคืนนี้ของเราเป็นเบาะนอนมีพื้นที่ให้เหยียดขา และช่องเก็บของเล็กๆ ที่ปลายเท้า พร้อมผ้าห่มอีก 1 ผืน นอนยาวไปเลยค่ะ 7-8 ชั่วโมง สบายๆ ไม่อันตราย เพราะที่นี่รถโดยสารถูกจำกัดความเร็ว เสียอย่างเดียว มี wifi ฟรี แต่ลองเชื่อมต่อแล้วใช้ไม่ได้ค่ะ 5555+
เจอกันอีกทีที่ดาลัดนะคะ ...
DAY 2
รถบัสพาเรามาถึงดาลัดราวๆ ตี 4 พอก้าวลงจากรถเท่านั้นแหละค่ะ แม่จ้าวว! สัมผัสแรก ดาลัดหนาวมาก! รถบัส Sinh Tourist พาเรามาจอดที่หน้าโรงแรม
ดาลัดเป็นเมืองเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขามีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี มีวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามจนได้ชื่อว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์เวียดนาม ส่วนตัวชอบเมืองนี้มากๆ คล้ายเมืองชนบทในแถบยุโรป พอตื่นนอนเราก็เดินกลับมาที่จุดลงรถที่เดิม เพื่อมาจองตั๋วรถบัสไปมุยเน่ไว้ก่อน เป็นรอบเช้าของวันพรุ่งนี้ ราคา 238,000 VND สำหรับ 2 คน (ราคา 345 บาท) ตกคนละ 170 บาท มื้อเช้าของเราก็หากินง่ายๆ เป็นเมนูไก่อบรสชาติหวานๆ ที่โป๊ะอยู่บนเส้นแป้งและผัก อาหารของชาวเวียดนามเท่าที่สังเกตส่วนใหญ่เน้นผักเยอะ ชามนี้ 40,000 VND (ประมาณ 60 บาท) ส่วนของเพื่อนเป็น เฝอไก่ ราคา 35,000 VND (ประมาณ 50 บาท)
ฝั่งตรงข้ามร้านข้าวเป็นร้านเช่ามอไซต์ พอกินเสร็จเราก็เดินข้ามถนนไปถาม ราคาค่าเช่ามอไซต์วันละ 200,000 VND (ประมาณ 300 บาท) ไม่รวมน้ำมันเพราะเจ๊แกเล่นซะน้ำมันตกเกเลย ต้องขับไปเติมปั้มใกล้ๆ อีก เติมไป 50,000 VND ซึ่งถือว่าเติมเยอะไปเกือบเต็มถังเลย จากนั้นเราก็หาที่เที่ยวตามรีวิว ใช้วิธีเปิด Google Maps ขับมอไซต์ไปตามสถานที่เที่ยวรอบๆ เมืองดาลัด ที่แรกเราไป Cable Car ไปขึ้นกระเช้า อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดไม่ไกลแค่ 4 กิโล ขับขี่มอไซต์ที่เวียดนามต้องระมัดระวังหน่อย ต้องคอยบีบแตรตลอดทางด้วย 555+ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิวตาตาม พอไปถึงก็หาที่จอดรถเสียค่าจอดมอไซต์ด้วยนะ คันละ 5,000 VND (ประมาณ 7 บาท)
ค่าขึ้นกระเช้าไป-กลับ คนละ 80,000 VND (คนละ 116 บาท) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
บนกระเช้าเราจะได้เห็นวิวสวยๆ เมืองดาลัด
จากนั้นก็ขับมอไซต์ไปที่ Datanla Waterfalls เสียค่าที่จอดรถมอไซต์อีก 5,000 VND (7 บาท) และก็ค่าเข้าอุทยานอีก คนละ 10,000 VND (15 บาท)
จากนั้นก็เดินไปซื้อบัตร Roller Coaster ราคาไป-กลับ อยู่ที่คนละ 60,000 VND (87 บาท) ชอบมากมันส์สุดๆ ระหว่างทางเป็นวิวป่าธรรมชาติสวยดีค่ะ
Roller Coaster จะพาเราลงมาที่น้ำตกเหลือง! อันนี้ตั้งชื่อเองตามสภาพที่เห็นเหลืองแค่ไหนถามใจดู 555+ แต่ชื่อจริงๆ คือ น้ำตกดาตันลา Datanla
แวะซื้อบาร์บีคิวกินรองท้องกันคนละไม้ ไม้ละ 20,000 VND (30 บาท) ไม้นิดเดียวแอบแพง!
จากนั้นก็ขับมอไซต์กลับเข้าเมืองดาลัด ทัศนียภาพเมืองสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ เรามาแวะพักที่ Dalat Church โบสถ์เมืองดาลัด ด้านหลังเป็นร้านขายของที่ระลึก
ตอนเย็นๆ ไปเดินเล่นหาของกินที่ Dalat Market ตลาดกลางของเมือง เป็นแหล่งช้อปปิ้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก เสื้อกันหนาวราคาถูก เดินชิมอาหารสตรีทฟู้ดรถเข็น นี้คือร้านลูกชิ้นปิ้ง ราคาไม้ละ 10,000 VND (15 บาท) อยากกินไม้ไหนก็ถามเขาให้แน่นะ ว่าเนื้ออะไร 555+ ตอนเราไปซื้อแม่ค้านำเสนอเนื้อหมา เรานี่รีบเซย์โนวววว เกือบไปแล้วไหมล่ะ!
พิซซ่าเวียดนาม แป้งบางกรอบ ย้ำว่าบางมาก! คล้ายๆ เครปมากกว่า ส่วนผสมก็ง่ายๆ แป้ง ไข่ ผัก และไส้กรอก ใช้วิธีย่างบนเตาถ่าน ราคา 20,000 VND (ประมาณ 30 บาท)
เดินหาร้านนั่งกินมื้อเย็นแบบจริงจังจนไปเจอร้านซีฟู้ด ซึ่งมีหลายร้านแต่ร้านนี้เด็กเสิร์ฟพูดไทยได้ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย สั่งเป็นปลาหมึกหมักซอส มีเตามาให้ย่างเองที่โต๊ะแต่คิดค่าเตาเพิ่มอีก 50,000 VND
ปลาหมึกหมักซอส ปลาหมึกสดๆ ย่างบนเตา เนื้อปลาหมึกหวานจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเวียดนามที่รสชาติน้ำจิ้มค่อนข้างเค็ม! ใครไม่กินเค็ม กินแต่ปลาหมึกเปล่าๆ ก็อร่อยดี ราคาปลาหมึก จานละ 150,000 VND (ราคาประมาณ 217 บาท)
หอยเซลล์อบเนย หอยเนื้อแน่นโรยด้วยถั่วลิสง รสชาติออกเค็มๆ จานละ 80,000 VND (ราคา 115 บาท)
จานนี้ชอบมากหอยขมผัดกระเทียม กระเทียมหอมเค็มนิดๆ อร่อยมาก จานละ 60,000 VND (ราคา 86 บาท)
และก็มีตีนไก่ย่าง ชิ้นละ 15,000 VND (ราคาชิ้นละ 21 บาท)
กลางคืนอากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ ชอบมากรู้งี้น่าจะมาค้างสัก 2 คืน กำลังดี ร้านต่างๆ ในเมืองจะปิดตอน 4 ทุ่ม บรรยากาศจะเริ่มเงียบสงบ ส่วนเรากับเพื่อนไปหาร้านนั่งชิลล์ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ใกล้ที่พักเป็นร้านสเต็ก ปิด 5 ทุ่ม พอร้านปิดก็พากันกลับไปนอนพักผ่อน เที่ยวมาทั้งวันถึงจะไม่ครบทุกที่แต่ก็เหนื่อยพอสมควร ...
DAY 3
ตื่นแต่เช้ามารอขึ้นรถไปมุยเน่ รอบ 8 โมง อากาศตอนเช้าดีมากๆ ระหว่างรอก็เดินมานั่งร้านน้ำชา ทานมื้อเช้ากันก่อน มีเมนูขนมปังกรอบ สอดไส้หมูยอ หมูหยองและผัก เสิร์ฟพร้อมชาร้อนๆ ฟรี! ขนมปังกรอบมากกัดทีหล่นใส่เต็มเสื้อเลย 5555+ ราคาชิ้นละ 15,000 VND (ชิ้นละ 25 บาท)
ได้เวลาขึ้นรถไปมุยเน่แล้ว เราใช้บริการ Sinh Tourist ตลอดทั้งทริปเลย สะดวกสบายดี จากดาลัด - มุยเน่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. รถบัสพาโค้งลงเขามาเรื่อยๆ ทั้งหูอื้อ ทั้งเวียนหัว 555+ถึงมุยเน่ ประมาณ 11 โมง รถบัสก็จอดส่งเราที่ออฟฟิศของ Sinh Tourist เหมือนเดิม เราเลยจอง Half-Day Trip มุยเน่ ครึ่งวันบ่ายซะเลย ราคาคนละ 119,000 VND (คนละ 173 บาท) ได้รอบบ่าย 2 แล้วก็จองตั๋วรถนอน Sleep Bus กลับโฮจิมินห์ด้วยเลย ราคา 280,000 VND 2 คน (ราคา 405 บาท) ตกคนละ 200 นิดๆ จากนั้นก็พากันเดินหาที่พักโชคดีมากได้ที่พักใกล้ๆ ออฟฟิศ Sinh Tourist ในราคา 250,000 VND ต่อคืน (คืนละ 362 บาท) จำชื่อที่พักไม่ได้แต่เจ้าของเป็นฝรั่ง ที่พักกว้าง มีห้องน้ำในตัว พร้อม wifi ฟรี! ดีงามไปอีก
พอบ่าย 2 ก็มารอขึ้นรถ Jeep ไปทัวร์ Half-Day Trip มุยเน่ 4 สถานที่ด้วยกัน ที่แรกคนขับพาเราไป Fish Village ค่อนข้างผิดหวัง ภาพที่คิดกับความจริงที่เป็นคนละเรื่องไม่เหมือนในรีวิว ชายหาดสกปรกมาก มีแค่เรือกลมๆ จอดแน่นิ่งอยู่ข้างกองขยะ แต่ไม่เป็นไร เพราะเป้าหมายหลักของเราคือทะเลทราย
ที่ต่อไปคือ ทะเลทรายขาว (White Sand Dune) พอถึงทะเลทรายขาว เราต้องเสียเงินนั่ง ATV เข้าไปอีก ค่ารถ ATV พร้อมคนขับ ไป-กลับ 300,000 VND (437 บาท) สำหรับ 2 คน เขาจะขับไปส่งเราบนเนินทรายสวยๆ ปล่อยเราถ่ายรูปเพลินๆ ให้เวลา 45 นาที แล้วค่อยกลับมารับ ตอนแรกเรากับเพื่อนกะว่าจะเดินไปเองแต่ดูระยะทางแล้ว จุดที่เป็นเนินทรายสวยๆ อยู่ไกลมาก เดินไปมีหวังเป็นลมตายกลางทะเลทรายแน่! คนขับ ATV ก็บิดไม่ยั้ง ชิ่งหูดับตับใหม้!
ทะเลทรายกว้างใหญ่ ซาฮาร่าน้อยอินเวียดนาม เนื้อทรายละเอียดนุ่ม แดดแรง ลมพัดเย็น ท้องฟ้าสวย ถ่ายรูปออกมาแล้วได้ฟิวพอๆ กับทะเลทรายแถบแอฟริกา
ขอข้าม Fairy Stream ไปเลยนะคะ ไม่สวย ไม่มีน้ำเลยสักหยด! ไม่ได้ถ่ายภาพมาด้วย
ที่สุดท้ายของทริปวันนี้คือ ทะเลทรายแดง (Red Sand Dune) ส่วนตัวเฉยๆ ทะเลทรายขาวสวยกว่าเยอะ ที่นี่เขาพามาเล่นกระดานสไลเดอร์และก็ดูพระอาทิตย์ตกดินค่ะ พอลงจากรถจะมีเด็กๆ มายืนเสนอให้เช่ากระดานสไลเดอร์ ราคาเท่าไหร่ไม่รู้เพราะไม่ได้เล่น 5555+
จบทริปกลับห้องอาบน้ำแต่งตัว ออกมาหาร้านกินข้าวที่เรียงรายริมถนนเดินเลือกได้เลยถูกใจร้านก็เข้าไปตีสนิท ถามราคาอาหารทะเลตัวเป็นๆ สดๆ ชอบตัวไหนชี้ เขาจะชั่งกิโล ย่างให้ที่หน้าร้านเลย เราสั่ง กุ้ง หอยแครง มาอย่างละครึ่งโล และก็ข้าวผัดไข่ ค่าเสียหายทั้งหมด 320,000 VND (ประมาณ 464 บาท) มีล็อบเตอร์ด้วยนะ 1 ตัวโล ตกโลละ 450,000 VND (ตัวละ 652 บาท) ถูกเว่อร์ๆ
กุ้งย่างเสียบไม้ จานนี้ครึ่งโลประมาณ 20 กว่าตัว น้ำจิ้มของเวียดนามเป็นเกลือกับมะนาว ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ เหมือนบ้านเรา ขัดใจนิดนึง!
หอยแครงผัดเนย รสชาติออกเค็มนิดๆ
DAY4
วันนี้เรากับเพื่อนตื่นสาย เพราะอ่อนเพลียจากการตากแดดตะลุยทะเลทรายเมื่อวาน ก่อนกลับเราลงไปเดินเล่นรับลมที่ชายหาดมุยเน่ อารมณ์คล้ายๆ พัทยาบ้านเรา เผลอๆ พัทยาจะสวยกว่าด้วยซ้ำ 5555+
มื้อเที่ยงเรามานั่งกิน เฝอ ร้านใกล้ๆ ที่พัก ชามนี้คล้ายบะหมี่หมูแดง ราคา 40,000 VND (58 บาท) รสชาติดี น้ำซุปเข้มข้น อร่อย ดูสะอาดกว่าทุกที่ที่กินมา
พอบ่ายโมงก็มารอขึ้นรถ Sleeping Bus กลับโฮจิมินห์ มุยเน่ - โฮจิมินห์ ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง นอนยาวๆ ไปเลย มีแวะพักรถให้เข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย ซื้อของฝากกลางทางด้วย 1 จุด
เป็นการเที่ยวแบบ Backpack ที่สนุกมาก เหมาะสำหรับนักเดินทางขาลุย ชอบการผจญภัยในที่ที่แปลกใหม่ แต่ละเมืองมีข้อดีแตกต่างกันไป อาจจะมีผิดแผนไปบ้าง คุยกับเขาไม่รู้เรื่องบ้าง โดนโก่งราคาบ้าง แต่รวมๆ แล้วเวียดนามไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ผู้คนก็เป็นมิตรดี แค่ระมัดระวังตัวไม่ประมาท เวียดนามก็เป็นอีกประเทศที่มีเสน่ห์น่าเที่ยว
สรุปค่าใช้จ่าย โฮจิมินห์ - ดาลัด - มุยเน่ 4 วัน 3 คืน (สำหรับ 2 คน)
ค่าเครื่องบิน 6,200 บาท (ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ)
ค่าเดินทาง 2,000 บาท (ค่ารถบัส ,ค่าเช่ามอไซต์ ,ค่ารถเมล์)
ค่าซิม 306 บาท (2 ซิม)
ค่าที่พัก 728 บาท (2 คืน ดาลัด มุยเน่ )
ค่าเข้าสถานที่ 500 บาท (ค่าเข้าอุทยาน ,ค่าที่จอดรถ ,ค่า Cable Car, ค่า Roller Coaster)
ค่าทัวร์มุยเน่ 346 บาท ( Half Day Trip)
ค่า ATV 437 บาท (ไปกลางทะเลทราย)
ค่ากิน 5,000 บาท (ค่าอาหารตลอดทริป)
รวมค่าใช้จ่าย 15,517 บาท หาร 2 = ตกคนละ 7,758 บาท