ซีรีส์จบ อารมณ์ไม่จบ เคยเป็นกันมั้ยคะ?
เราแอบเชยไปนิดเมื่อเพิ่งจะได้ดูซีรีส์ดัง “รักฝุ่นตลบ” จบไปเมื่อวันก่อน ดูแล้วอินมาก ภาพสวย สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ในเรื่องก็สวยงาม จนอยากเก็บกระเป๋าขับรถวีออสไปเที่ยวตามรอยละครทันที เพราะเราเองก็ขับวีออสอยู่แล้ว เพิ่งจะถอยตัวใหม่ New Vios มาไม่นานด้วย รักฝุ่นตลบ นี่มันซีรีส์ที่ฉันควรเป็นนางเอกชัดๆ มโนไปไกลมาก แต่จะไปคนเดียวคงไม่สนุกแน่ก็เลยชวนแก๊งค์เพื่อนไปด้วย งานนี้ก็มโนกันไป ใครคือเปรียว? ใครคือวีซ่า แล้วใครจะเป็น พีท (อ่านมาถึงบรรทัดนี้หากใครไม่เก็ทแนะนำให้รีบไปดูซีรีส์รักฝุ่นตลบย้อนหลังก่อนอ่านบทความจะได้อินมากยิ่งขึ้นนะ)
เพชรบูรณ์ แพร่ และจบที่น่าน ปลายทางคือ ดอยเสมอดาว แบบในซีรีส์เป๊ะ! คือเส้นทางที่เราจะไปเที่ยวในทริปนี้บอกเลยถ้าไม่อินมากทำไม่ได้นะ นาทีนี้ไม่ต้องคิดนานชวนเพื่อนปุ๊บทุกคนตอบตกลงทันที พร้อมกับยื่นใบลาพักร้อนกันยาวๆ เก็บกระเป๋ามาเจอกันที่บ้านของเราล้อหมุนตอนกลางคืนทันทีค่ะ เพื่อต้องการไปเจอกับภาพแรกของทริป ที่เต็มไปด้วยทะเลหมอกบนถนนสาย 12 เป็นถนนที่มีโค้งค่อนข้างเยอะ ซึ่งทำให้ถนนนี้มีความสวยงามที่สุดในเพชรบูรณ์
Day...1การเดินทางตอนกลางคืน เจอทั้งฝนตกหนัก ผ่านภูเขาหลายลูก ผ่านโค้งหลายร้อย แต่ Vios ของเราก็เดินทางได้คล่องตัว ด้วยระบบ VSC & TRC ของ Vios ที่สามารถควบคุมการทรงตัว และเข้าโค้งมันส์อย่างเหลือเชื่อ อยากจะแซงทางโค้งก็สบายๆ ด้วยเกียร์ CTV 7 Speed ปรู๊ดปร๊าด แต่ยังคงความนุ่มนวลสมาชิกในรถหลับสนิทมาก
เพชรบูรณ์
ประมาณเกือบ 6 โมงเช้า แสงแรกกำลังค่อยๆ โผล่มาทักทาย พร้อมกับทะเลหมอกเป็นสายบนถนนสาย 12 เขาค้อ – หล่มสัก เป็นภาพที่สวยงาม แม้ว่าหมอกไม่ได้เยอะจนเป็นทะเลหมอกแบบที่จินตนาการไว้ แต่มันก็ยังสวยอยู่ดีค่ะ มันดีไปกว่านั้นคือทริปนี้มี เพื่อน มีรถคู่ใจไปไหนไปกัน ยืนชื่นชมบรรยากาศตรงหน้าอยู่สักพักก่อนจะปลุกสมาชิกที่เหลือ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เฮ้ยยสวยมากก” จะรออะไรถ่ายรูปกันสิคะ
ไม่ค่อยจะเลียนแบบฉากในซีรีส์เลยนะ (จำกันได้หรือเปล่า)
ถ่ายกันเพลินๆ จนท้องร้องได้จัดมื้อเช้ากันแล้ว พวกเราไปทานอาหารง่ายๆ อย่างขนมจีน (นี่ง่ายแล้วเหรอ) แสบท้องกันแต่เช้าเชียว 55 ไม่ต้องไปไหนไกลเลยค่ะ เพราะว่าตั้งใจจะไปไหว้พระขอพร อโหสิกรรม (แบบในซีรีส์) ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่แล้ว
ขนมจีนป้าน้อย
ร้านขนมจีนป้าน้อยอยู่ใกล้กับวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จริงๆ ร้านนี้เราเฉยๆ นะไม่ได้อร่อยมากมาย หากใครอยากทานขนมจีนอร่อยๆ แนะนำให้ไปทานแถวหล่มเก่า หล่มสัก หรือในเมืองเพชรบูรณ์
ไม่พูดพร่ำทำเพลงสั่งคล่องมากแบบไม่ต้องมีพนักงานแนะนำ “ขนมจีนชุดใหญ่ค่ะ” ขนมจีนเส้นสดเสิร์ฟมาแบบพอดีคำหลากสีสัน ชอบสีอะไรหยิบทานกันได้เลย พร้อมกับน้ำยา 3 แบบ กะทิ น้ำยาป่า และน้ำพริก เราชอบแกงเขียวหวานไก่เลยขอสั่งมาเพิ่มอีกอย่าง กินกันไปชมวิวกันไป อิ่มมาก
ที่อยู่ : ต. แคมป์สน อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ 67280
โทรศัพท์ : 063 824 8593
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดชื่อดังแห่งเขาค้อ ตั้งอยู่บนยอดเขาใน ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และ เรียกตามๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
เป็นวัดที่มีความสวยงามมากหากวันใดที่ฟ้าเป็นใจจะเห็นทะเลหมอกปกคลุมวัดแห่งนี้เต็มไปหมด “ฉันอโหสิกรรม” “เดี๋ยวนะ! ฉันยังไม่ได้พูดเลย” เสียงเพื่อนสาวทักท้วงที่อยู่ๆ เราก็มโนว่าเป็นเปรียวเรียบร้อย ไม่รู้สินะใครชิงพูดก่อนชนะ 55
ที่อยู่ : 95 หมู่ 7 บ้านทางแดง, ต. แคมป์สน อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ 67280
โทรศัพท์ : 084 494 1262
Pino Latte
ไหว้พระขอพรเดินถ่ายรูปกันสักพัก สมาชิกก็ร่ำร้องขอไปจิบกาแฟสักแก้ว ก็เลยไปเช็คอินที่ร้านดังสุดฮอตยอดฮิตที่คนเยอะทุกวันอย่าง Pino Latte (ในซีรีส์ก็มีร้านนี้นะจำได้มั้ย) บางวันเราจะได้เห็นทะเลหมอกลอยมาเต็มหน้าร้าน สมแล้วที่ใครๆ ต่างก็อยากมาเช็คอินที่นี่ สั่งกันแบบไม่คิดเช็คบิลมาตกใจนิดนึงเพราะราคาอาหารและเครื่องดื่มของที่นี่แรงอยู่นะ กาแฟเริ่มต้น 85 บาท ขนมเริ่มต้น 145 บาท พวกเราสั่งเครื่องดื่มคนละแก้ว ขนม 2 อย่าง เช็คบิลมา 700 กว่าบาทช็อคเล็กๆ
ก่อนกลับต้องถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันหน่อย นอกจากจะให้บริการร้านกาแฟแล้วที่ Pino Latte ยังมีห้องพักบริการจำนวน 5 หลัง ซึ่งก็เต็มตลอดๆ อิ่มแล้วหลังตาก็เริ่มหย่อน เราไปเช็คอินที่พักกันเถอะ
ที่อยู่ : Pinolatte ต. แคมป์สน อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ 67280
โทรศัพท์ : 083 072 1280
บายเมือง ณ เขาค้อ รีสอร์ท วิวทะเลหมอก
พวกเราเลือกพักที่รีสอร์ทเล็กๆ โอบล้อมด้วยขุนเขากับวิว 360 องศา อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มากัน 4 คน เลือกพักบ้านแบบ Family Home คืนละ 6,800 บาท พักได้ 4 คน รวมอาหารเช้า
ห้องขนาดกำลังดี ห้องน้ำกว้างขวาง มีระเบียงหน้าบ้านทุกหลัง บ้านทุกหลังจะหันหน้าหาทะเลหมอกค่ะ ขอเวลางีบสักแป๊บเนื่องจากเดินทางมาทั้งคืน คนขับยังไม่ได้พักเลยให้เวลาเขาหน่อยค่ะ
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ
ตื่นมาอีทีก็เย็นพอดี ไปหามุมถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกกันเถอะพวกเรา จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะเลยค่ะ ไปถึงแม้ว่าจะไม่เห็นพระอาทิตย์กลมโตสวยงาม ก็หน้าฝนอย่าไปคาดหวังเลยแต่ฟ้าวันนั้นสวยน่าประทับใจมากเลยค่ะ
หากใครไปที่นี่ตอนเช้าในวันที่ฟ้าเป็นใจจะเห็นทะเลหมอกเต็มไปหมด มื้อเย็นเราฝากท้องที่บายเมือง เขาค้อ ก่อนที่จะปาร์ตี้กันเบาๆ ก่อนจะนอนหลับกันตอนไหนจำไม่ได้จริงๆ
Day..2
เราตื่นมาประมาณตี 5 กว่าๆ เปิดประตูหน้าบ้านพักออกไป ว้าวว หมอกเต็มไปหมดเลยค่ะอากาศดีสุดๆ หลังจากนั้นฝนก็ตกเบาๆ จริงๆ ตั้งใจจะตื่นไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นกันที่จุดชมวิววัดกองเนียม ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในเขาค้อ แต่ว่าฝนตกถ้าอย่างนั้นก็นอนกันต่อสิคะ ^^
สายๆ อากาศเริ่มดีขึ้น เก็บภาพบรรยากาศตอนเช้าของบายเมือง เขาค้อ มาฝากกัน เห็นภาพแบบนี้แล้วอยากจะพักที่นี่ต่อสักสองสามคืน แต่เสียงเพื่อนสาวก็ทำลายบรรยากาศ “เก็บของ กินข้าว เตรียมเดินทาง” หลอนมาก
มื้อเช้าที่บายเมือง มีข้าวต้มเห็ดหอมที่อร่อยมาก ตอนแรกเราไม่ค่อยอยากจะกินเท่าไร เบื่อข้าวต้ม แต่พอได้ชิมในถ้วยของเพื่อน ถึงกับขอเพิ่มอีกสักถ้วย นอกจากนั้นยังมีสลัดผัก พร้อมกับน้ำสลัดสูตรเด็ดของทางรีสอร์ทลองชิมแล้วจะติดใจ อิ่มท้องกันแล้วได้เวลาเดินทางต่อ
ที่อยู่ : บายเมือง ณ เขาค้อ วิวทะเลหมอก 198 หมู่ 12 เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ 67270
โทรศัพท์ : 094 345 2882
ล้อหมุนไปยังเมืองแพร่ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 4 ชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ Dual VVT-i ของ Vios เป็นเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ และประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นเยี่ยม ก็เลยทำให้พวกเราทำเวลาได้เร็วกว่าที่คิด และแล้วเราก็มาถึงเมืองแพร่ในตอนบ่ายๆ เจอป้ายจังหวัดเบรคเอี๊ยดกันเลยทีเดียว Vios นี่เกาะถนนดีจริงๆ ค่ะ ขับสนุก ขึ้นเขาก็เบาใจ อยากถ่ายรูปมาอวดเพื่อนๆ ว่าถึงแพร่จริงๆ ละนะ
ร้านข้าวซอยเจ๊เล็ก
เดินทางถึงเมืองเหนือก็ต้องหาลาบ ส้มตำ จัดหน่อย เดี๋ยว! มาเหนือนี่กินไส้อั่ว ข้าวซอยไม่ใช่เหรอแก 555 แหม! เล่นมุกปลุกเพื่อนให้ตื่นหรอกน่า เราไปถามคนในพื้นที่ค่ะว่าร้านข้าวซอยรสเด็ดมีร้านไหนบ้าง ส่วนใหญ่คนจะบอกให้ไปร้านเจ๊เล็ก
ข้าวซอยเจ๊เล็กขายมากว่า 30 ปี เจ๊บอกว่าขายมาตั้งแต่ลูกเรียน ม.2 เลยล่ะค่ะ ไม่กล้าถามต่อเลยว่าตอนนี้ลูกเรียนชั้นไหนแล้ว ร้านข้าวซอยเจ๊เล็กจะเป็นร้านค่อนข้างใหญ่เลยแหละ ด้านหน้ามีมุมฮิปๆ ด้วยนะเออ มีที่จอดรถกว้างขวาง สามารถนั่งรับลมชมวิวด้านนอก หรือจะนั่งด้านในก็ได้
เมนูแนะนำ ข้าวซอย ที่มีทั้ง ไก่ หมู เนื้อ กุ้ง ความแตกต่างของข้าวซอยเจ๊เล็กคือเสิร์ฟพร้อมผักแบบนี้ น้ำเข้มข้น เนื้อนี่นุ่มมาก ไก่ก็ละลายในปาก ส่วนกุ้งนี่อย่าให้พูดไม่คิดว่ากินกับข้าวซอยจะเข้ากั๋นเข้ากัน นอกจากข้าวซอยแล้ว ยังมีก๋วยเตี๋ยว ขนมจีบ หมูสะเต๊ะ อีกด้วยค่ะ
ร้านข้าวซอยเจ๊เล็ก : อยู่บนถนนน้ำคือ หากมาจากสี่แยกโรงพักเลยจากวัดน้ำคือและโรงเรียนอนุบาลเพ็ญรัตน์มาประมาณ 300 เมตร
เปิดให้บริการ : ทุกวัน 08.00 – 16.00 น.
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 054 620 113
ร้านกาแฟบ้านเบ้ว
เราจะไม่ยอมจบแต่เพียงของคาว ถ้าไม่ได้จัดกาแฟ พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว ไปเช็คอินกันที่ ร้านบ้านเบ้ว
Slope Coffee เป็นภาษาเหนือ แปลว่า บ้านเบี้ยว
เป็นบ้านเก่าแก่ที่เจ้าของปล่อยให้รกร้างมาเกือบ100 ปี โครงสร้างของบ้านยังเหมือนเดิม เมื่อก่อนเคยเป็นร้านตัดผม จนกลายมาเป็นร้านกาแฟ ที่ข้างในตกแต่งด้วยของเก่า มีมุมในสวนนั่งสบายๆ
เมนูแนะนำ เครื่องดื่มสุดเฟี้ยวที่แค่ชื่อก็ชวนสงสัย น้ำน้องฝ้าย เป็นการให้เกียรติน้องฝ้ายผู้ที่คิดสูตรนี้ขึ้นมา กีวี แอปเปิ้ล มะนาว โซดา รสชาติเปรี้ยว ซ่า สะใจ ดื่มแล้วสดชื่นมาก เสิร์ฟมาแบบบ้านๆ ใส่ถาดแบบโบราณชอบมากค่ะ
ร้านบ้านเบ้ว เปิดบริการทุกวัน 08.00 – 18.00 น. วันเสาร์ เปิดถึง 23.30 น.
ที่อยู่ : 126/1 หมูที่ 3 ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 084 043 4373
คุ้มเจ้าหลวง
มาเที่ยวเมืองแพร่ให้ได้ครบและตามรอยซีรีส์เป๊ะ คือต้องไปที่คุ้มเจ้าหลวง จำฉากในซีรีส์ได้มั้ย ที่สองสาวแต่งตัวเป็นพระเพื่อนพระแพงแล้วให้พีทถ่ายรูปให้
จริงๆ เราสองคนก็อยากแต่งแบบนั้นนะแต่หันไปหันมาหาชุดไม่ได้ เอาผ้ามัดย้อมและมโนว่าเป็นพระเพื่อนพระแพงไปก่อนนะคะ และถ้าจะเหมือนที่สุดมันต้องมีฉากถ่ายรูปแย่งซีน 55 คิดถึงตอนนั้นก็ขำไม่หายเลยค่ะ
คุ้มเจ้าหลวง เป็นชื่อที่ใช้เรียกสถานที่นี้ ซึ่งเป็นคำที่ชาวบ้านใช้เรียกบ้านของเจ้าผู้ครองเมืองแพร่องค์สุดท้าย (เจ้าพิริยเทพวงศ์อุดรฯ หรือพระยาพิริยวิไชย) มีรูปทรงอาคารเป็นแบบไทยผสมยุโรป หรือที่เรียกว่าแบบขนมปังขิง มีความหรูหรา สง่างามและโอ่โถงมาก เป็นฝีมือช่างชาวจีนและช่างพื้นบ้าน ใต้ถุนอาคารมีห้องสำหรับควบคุมข้าทาสของเจ้าหลวงฯ ที่กระทำผิด ทำให้มีเรื่องเล่าขานว่ามีวิญญาณสิงสถิตอยู่จวบจนปัจจุบัน บริเวณชั้น 2 ของคุ้มเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้สักการะบูชา
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 054 524 158
คุ้มวงศ์บุรี
ในซีรีส์ไม่ได้ไปที่นี่ แต่เราเห็นว่าอยู่ใกล้ๆ กันห่างกันไม่กี่ซอยก็เลยขอไปเที่ยวที่นี่ด้วย คุ้มวงศ์บุรี สีชมพู มีความเกี่ยวข้องกับคุ้มเจ้าหลวงหรือไม่ อย่างไร เดี๋ยวชาวคณะจะพาไปเที่ยวค่ะ
คุ้มวงศ์บุรี สร้างขึ้นตามดำริของแม่เจ้าบัวถา มหายศปัญญา ชายาองค์แรกในเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย เพื่อเป็นของกำนัลในการเสกสมรสระว่างเจ้าสุนันตา ผู้เป็นบุตรีเจ้าบุรีรัตน์ ที่ท่านรับมาเป็นบุตรีบุญธรรม และหลวงพงษ์พิบูลย์ (เจ้าพรหม วงศ์พระถาง) โดยท่านทั้งสองได้ใช้เรือนหลังนี้เป็นเรือนหอในพิธีเสกสมรสด้วย
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 054 524 158
กาดกองเก่า
ที่แพร่ยังมีถนนคนเดินทุกวันเสาร์ที่บริเวณถนนคำลือ ตั้งแต่สามโมงถึงสองทุ่มครึ่ง พวกเราไปเดินตั้งแต่ตลาดเพิ่งเปิดกันเลยทีเดียว
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : -
เฮือนนานา บูทีค โฮเทล
เดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นจนเย็นย่ำได้เวลาเช็คอินเข้าที่พัก พวกเราเลือกที่พักที่เดียวกับในซีรีส์เลยนะ ที่เฮือนนานา บูทีค โฮเทล โรงแรมบูติคระดับสี่ดาว ที่นี่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมด้าน Modern Contemporary ผสมผสานกลิ่นอายของล้านนา เข้ามาด้านในถัดจากรีเซฟชั่นจะเจอกับบ่อปลาคราฟขนาดใหญ่ เป็นมุมพักผ่อนได้เลยล่ะ
จำได้มั้ยคะในฉากที่เปรียวกับวีซ่าก็ไปเคาะห้องพีทเพื่อขัดจังหวะพีทกับมะเหมี่ยวแล้ววิ่งมาหลบหลังเสา เราชอบฉากนี้นะฮาดี
ไปดูห้องพักกันค่ะ ซึ่งที่เฮือนนานา บูทีค โฮเทล จะมีห้องพัก 3 แบบ Na Na Deluxe, Victoria Suiteและ Empire Suiteพวกเราสวยใส ไฮโซกันขนาดนี้ต้องพักห้องแพงที่สุด เอ๊ย! ถูกที่สุดสิคะ จะได้เซฟเงินไว้ไปกินข้าวต่อได้อีกหลายมื้อ ห้องนี้เลย Na Na Deluxe ราคา 2,600 บาท ห้องกว้างขวางดี มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ตู้เย็นใหญ่มาก ห้องน้ำก็กว้างขวางดี แยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน ที่ชอบมากคือสบู่ในห้องน้ำค่ะ ใช้ดี๊ดีหอมสุดๆ
ที่อยู่ : 7/9 ถนนศศิบุตร ต. ในเวียง อ. เมือง จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 054 524 800
เว็บไซต์ : www.huernnana.com
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เวลาไปหาของอร่อยกัน ไม่ต้องเสิร์ชหาร้านที่ไหนเลยไปถึงเมืองแพร่ต้องไปหาของอร่อย
แถวประตูชัยเลยค่ะ ซึ่งกลางวันมีร้านเด็ดๆ เพียบ พอตกกลางคืนเปลี่ยนมาเป็นตลาดโต้รุ่งมีร้านมาตั้งเรียงรายละลายตาเต็มไปหมด ทีเด็ดสุดยกให้
ป้าแป้งเย็นตาโฟประตูชัย ร้านนี้เคยออกรายการเยอะมาก คนอย่างแน่นค่ะ
สั่งกันคล่องมากประหนึ่งร้านประจำแต่เปล่าเลยนี่คือครั้งแรกของพวกเรา เมนูแนะนำ เย็นตาโฟต้มยำ ไม่ได้ดีแค่หน้าตาแต่อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ค่ะ ขนาดชามใหญ่ถึงกับต้องเบิ้ล
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : -
Day...3
เมื่อคืนหาอะไรกินกันจนดึก แต่ถึงกระนั้นสายบุญอย่างพวกเราก็ตื่นทันใส่บาตรตอนเช้าที่ต้องขับรถหาพระกันเอาเองนะจ๊ะ
ถามคนแถวนั้นเขาบอกว่าไปแถวตลาดแพร่ชมภูมิ่งสิ เจอแน่นอน สุดท้ายก็ได้ใส่บาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ว่าแล้วก็เดินเล่นตลาดหาของกินตอนเช้าเลยค่ะ จัดหมูปิ้ง ไก่ย่าง ข้าวเหนียวครบ ตลาดแพร่ชมภูมิ่ง เป็นตลาดที่ชิคมากเลย
ร้านเฌอ บาร์
เมืองแพร่มีร้านกาแฟเยอะมาก ประหนึ่งกรุงเทพฯ เลยทีเดียวเชียว เมื่อวานจัดร้านกาแฟไปหนึ่งร้าน เช้านี้ขอไป
เช็คอินต่อที่ร้านเฌอบาร์ หลังจากที่เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
ร้านเฌอบาร์ อยู่ใกล้กับร้านบ้านเบ้ว บนถนนคำลือ ถนนที่จะมีถนนคนเดินนั่นแหละค่ะ เป็นร้านที่ใช้ตัวบ้านเปิดเป็นร้านกาแฟ ขายมากว่า 10 ปีแล้ว ทีเด็ดคือกาแฟที่ทางร้านเบลนด์เอง และเบเกอรีโฮมเมด โดยเฉพาะสายชีสต้องชอบเพราะขนมที่ร้านส่วนใหญ่จะเป็นชีสเค้กที่อร่อยมากๆ แถมราคาไม่แพงด้วย
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 094 629 6445
พระธาตุช่อแฮ
ไปเมืองแพร่ถ้าไม่ได้ไปไหว้พระธาตุช่อแฮ ก็ถือว่าไปไม่ถึง พระธาตุช่อแฮอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองแพร่ ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเนินเขา พระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดปีเสือ (ปีขาล) มีความเชื่อว่า หากนำผ้าแพรสามสีไปถวายจะทำให้ชีวิตมีพลังคุ้มครองป้องกันศัตรูได้ นอกจากนั้นยังมีพระเจ้าทันใจ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้นิยมมากราบไหว้ บนบานศาลกล่าวอยู่เสมอ เชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใครมาขอพรแล้วจะสมปรารถนา พวกเราเลยตั้งใจขอพรท่านเป็นพิเศษเลยค่ะ ส่วนเรื่องขออะไรนั้นบอกไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวจะไม่ศักดิ์สิทธิ์นะคะ
ที่อยู่ : ซอย 11 ต. ช่อแฮ อ. เมืองแพร่ จ. แพร่ 54000
โทรศัพท์ : 054 599 073
หลังจากนั้นเรามุ่งไปยังปลายทางสำคัญของทริปนี้คือ ดอยเสมอดาว ใช้เวลาเดินทางเกือบๆ 3 ชั่วโมง เพราะเจอฝนตกตลอดทางเลยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะ Vios มีระบบ VSC และ TRC ในทุกรุ่น ช่วยควบคุมการทรงตัวและการลื่นไถลในทางโค้ง หรือถนนเปียกลื่น เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เย่! ภารกิจตามรอยซีรีส์ก็จบลงแล้วสินะ หาทำเลกางเต็นท์สิเพื่อนจะรออะไร แต่! ไม่มีเจ้าหน้าที่สักคน บรรยากาศรอบตัววังเวงมาก มีแต่พวกเรากลุ่มเดียวที่อยู่บนนั้น ยังดีที่เจ้าหน้าที่เขียนเบอร์เอาไว้ที่ประตูบ้านพักพวกเราโทรไปได้ความว่า ดอยเสมอดาวปิดนะจ๊ะ! เปิดให้กางเต็นท์ 1 ต.ค. 59 พวกเราไป 30 ก.ย. ตึง!! หันไปมองหน้ากัน “ไหนใครบอกดอยเสมอดาวเปิดทั้งปี พูด!” ไม่มีใครสบตาสักคน 55 เอาเถอะค่ะมาถึงนี่แล้วก็ต้องหาที่นอน เจ้าหน้าที่บอกว่าไปผาชู้ กางเต็นท์ได้ วิวดีงามไม่ต่างกัน ล้อหมุนไปผาชู้โลด
ผาชู้
ผาชู้อยู่ห่างจากดอยเสมอดาวเพียงแค่ 4 กม. เท่านั้น มาถึงก็ติดต่อเช่าเต็นท์ อุปกรณ์ที่หลับที่นอนกันเลย ดีนะที่ไม่ใช่ฤดูเทศกาลวันหยุด เพราะคนน้อยมากชอบค่ะ
โชคดีมากเลยค่ะที่ฝนไม่ตกพวกเราก็เตรียมอาหารมาเต็มที่แบบไฮโซสุดๆ เช่น มาม่า ปลากระป๋อง ไข่ (นี่ไฮโซแล้วเหรอ) แวะซื้อหมูสดก่อนจะขึ้นมาด้วยนะ พี่เจ้าหน้าที่ใจดีมากๆ บอกว่าไปทำกับข้าวที่ครัวก็ได้ ขาดเครื่องปรุงอะไรหยิบได้เลย กราบตรงนี้ค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ยังไม่ทันจะดึก เพื่อนหนวดของเราก็หายไปเงียบๆ ก็นึกว่าจะหนีไปนอนที่แท้ไปตามหาช้างค่ะ ได้มาแค่นี้หลังจากนั้นความมืดปกคลุม ดาวที่นั่งดูด้วยตาเปล่าตะกี้ที่มีอยู่เต็มท้องฟ้า หายไปกับตาพร้อมกับสายฝนโปรยปรายลงมาอีกครั้งตอนดึกทำให้พวกเราหลับสบายกันมาก
ที่อยู่ : ผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ. นาน้อย จ. น่าน
โทรศัพท์ : -
Day...4
ประมาณตี 5 ฝนก็ตก ความตั้งใจจะออกไปดูวิวที่ ดอยเสมอดาว เช้านี้ก็ต้องรอฝนหยุดเกือบๆ 7 โมง เลยค่ะ เมื่อวานเย็นแล้วไม่ทันจะได้เห็นสภาพถนนหนทางว่าเป็นยังไง เจอทางทั้งเปียก ทั้งขรุขระ Vios เอาอยู่ค่ะ ขับนุ่มและเกาะถนนดีมาก
ระหว่างทางไปดอยเสมอดาว มีหมอกปกคลุมเต็มไปหมดเลย
ถ่ายรูปหมู่ได้รูปเดียว ท่ามกลางฝนลงเม็ดเบาๆ พอถ่ายรูปเสร็จก็ตกหนักอีกแล้ว T_T
Mission Complete เย่ กลับไปที่ผาชู้ ทำอาหารเช้ากันค่ะ ก็เมนูไฮโซเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมมีกาแฟดริปด้วยนะ
ได้เวลาเก็บเต็นท์อำลาผาชู้ แล้วพวกเราจะคิดถึงเธอ…
เมื่อวานยังไม่ได้แวะอำเภอเมือง น่านเลย วันนี้ขอแวะไปไหว้พระ ทานข้าวซอย จิบกาแฟเบาๆ ก่อนกลับกรุงเทพฯ
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
โทรศัพท์ : 054 731 714
ข้าวซอยร้านเฮือนฮอม
ตอนแรกตั้งใจจะไปกินข้าวซอยร้าน ต้นน้ำ ไปถึงแค่เที่ยงกว่าๆ หมดแล้ว ฮอตจริงอะไรจริง ยืนทำหน้าหมาหงอย เพราะตอนนั้นคือหิวมาก พลันสายตาก็มองหาร้านแถวนั้นก็ไปจ๊ะเอ๋กับร้าน เฮือนฮอม ร้านนี้ก็อยู่ในลิสต์ร้านอาหารแนะนำเมืองน่าน เหมือนกันนะ แต่เหมาะแก่การจัดเต็มอาหารพื้นเมืองมากกว่า ซึ่งพวกเราสั่งง่ายๆ คนละถ้วยเหมือนเดิม ร้านเฮือนฮอม มีข้าวซอยไก่ ข้าวซอยหมู ข้าวซอยเนื้อตุ๋น ชามละ 40 บาทค่ะ
เหมือนเดิมอิ่มท้องแล้วต้องไปจัดเครื่องดื่มเย็นๆ และขนมอร่อยๆ กันต่อค่ะ ไปที่ร้านบรรยากาศดีริมแม่น้ำน่านกันเลย
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมือง จ. น่าน 55000
โทรศัพท์ : 054 751 122
สุดกองดี
คาเฟ่ชื่อแปลก สุดกองดี ถ้าจะแปลตรงตัวคือร้านนี้อยู่ในซอยกองดี อยู่สุดซอยริมแม่น้ำเลยค่ะ ตัวร้านจะเป็นบ้านไม้เก่า ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่แผ่ กิ่ง ก้านใบ ร่มรื่น มีมุมให้นั่งชิลล์ชมวิวแม่น้ำน่าน กลางวันเป็นร้านกาแฟ กลางคืนเป็นร้านเน้นเครื่องดื่มฟังเพลงเบาๆ
การเดินทางไปร้านสุดกองดี : จากตัวเมืองน่าน ใช้เส้นทางถนนมหาวงศ์ วิ่งข้ามสะพานพัฒนาภาคเหนือมุ่งหน้ามาทางวัดพระธาตุแช่แห้ง พอลงสะพานให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยแรก ตรงเข้ามาประมาณ 200 เมตรจะพบร้านสุดกองดีอยู่ทางด้านซ้ายมือ
ที่อยู่ : 110 หมู่ 2 บ้านแสงดาว ถนนน่านแม่จริม น่าน 55000
โทรศัพท์ : 086 995 6545
วัดช้างค้ำวรวิหาร
ในซีรีส์ไปไหว้พระที่นี่ด้วยนะ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เดิมชื่อ วัดหลวงกลางเวียง เจ้าผู้ครองนครน่าน พญาภูเข่ง เป็นผู้สร้างขึ้น พระวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เป็นวิหารขนาดใหญ่ รูปทรง สร้างตามสถาปัตยกรรม ทางภาคเหนือ ลักษณะภายในโอ่โถง ด้านหน้ามีสิงห์คู่ ยืนตรงเชิงบันได
ไหว้พระขอพรกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราไปเช็คอินร้านสุดท้ายในทริปนี้กันต่อค่ะ
ที่อยู่ : ต. ในเวียง อ. เมือง จ. น่าน 55000
โทรศัพท์ : 054 710 038
Workboxes Cafe'
คาเฟ่เล็กๆ อบอุ่นทรงกล่องสีเหลี่ยมเหมือนชื่อร้าน ไปดูบรรยากาศด้านในกันค่ะ
เปิดประตูเข้าไปแอบตกใจเล็กน้อยเพราะคนแน่นร้านมาก เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งแบบมินิมอล เล็กๆ น่ารัก น่านั่งทุกมุมเลยค่ะ เราสั่งเสาวรส กับอเมริกาโน่ เข้มข้นมาก
Workboxes Cafe' : เปิดบริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 08.00 – 18.00 น.
ที่อยู่ : 43 ถ. มหายศ ต. ในเวียง อ. เมือง จ. น่าน 55000
โทรศัพท์ : 086 918 7944
ได้เวลากลับแล้วสิ ไม่อยากกลับเลยรู้สึกยังเที่ยวน่านได้แค่นิดเดียวเอง แต่เวลาแห่งความสนุกก็ต้องจบลง
เรากลับกันตอนเย็นแล้วใช้เวลาเดินทางเกือบๆ 7 ชั่วโมง ถึงกรุงเทพฯ ขับไปเรื่อยๆ เม้ามอยกันบ้าง หลับกันบ้าง แต่เพื่อนหนวดคนขับรถของเราไม่ยอมเปลี่ยนให้เพื่อนช่วยขับเลย บอกว่า Vios ขับสนุกนั่งสบายชอบใจแบบนี้ก็ยกให้ขับเลยจ้า นอกจากขับสนุกแล้วรถคันนี้ยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย ระยะทางทั้งหมดในทริปนี้ 1,700 กม. เติมน้ำมัน E85 หมดค่าน้ำมันไปแค่ 3,000 บาท เท่านั้นเอง หาร 4 แล้วถูกมาก เที่ยวตั้งหลายจังหวัดไปตั้งหลายที่ แม้ว่าภารกิจพิชิตดอยเสมอดาวจะสำเร็จไปแล้ว แต่เรื่องราวของการเดินทาง เสียงหัวเราะ หลงบ้าง ขับเลยบ้าง มันคือสีสันของการเดินทางเพราะ
ชวนเพื่อน ขับรถ ออกท่องโลกกว้างกันเถอะ
