เสน่ห์ของตลาดชุมชน ชวนให้เราหาวันว่าง ไปซึมซับวัฒนธรรม ไปเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในแต่ละภาคที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน แม้จะเคยไปเที่ยวนครศรีธรรมราชมาบ้างแล้ว แต่ครั้งนั้น เราไปเที่ยวคีรีวง, วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร, วัดพระธาตุน้อย, ไปดูขั้นตอนการแปรรูปรังนก, ไปชิมขนมลาที่ชุมชนหอยราก, ไปเยือนตลาด 100 ปีเมืองปากพนัง, เที่ยวแหลมตะลุมพุก, ล่องเรือชมวิถีชาวปากพนัง, ชิมส้มโอทับทิมสยาม ครั้งนี้เลยเปลี่ยนแนวมาเที่ยวตลาดชุมชน ไปชิม ไปช้อป 4 ตลาด 4 สไตล์
หลาดหน้าพระธาตุ
เริ่มกันที่ ตลาดแรก "หลาดหน้าพระธาตุ" ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “ไม่ได้สร้างถนนคนเดินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการเผยแพร่ และอนุรักษ์วัฒนธรรมของนครฯ พร้อมกับสร้างเศรษฐกิจในท้องถิ่น”
เส้นทางถนนราชดำเนิน หน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถูกเนรมิตให้เป็นแหล่งรวมของอร่อย ศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรม ตามวิถีของคนคอน โดยแบ่งเป็น 3 โซน คือ
โซนอาหารพื้นถิ่น รวบรวมของกิน ทั้งคาวหวาน มากกว่า 300 ร้าน อาทิ ขนมจีน ข้าวยำ ไตปลา น้ำชุบตะไคร้ อาหารสมุนไพรห่อใบตองปิ้ง เหนียวห่อกล้วย (ข้าวต้มมัด) ขนมค่อม (ขนมสอดไส้) จำปาดะทอด ตอกคง (ข้าวโพดคั่ว) ขนมฝรั่งหน้าเบื้อง ขนมขี้มอด ยาหนม (กาละแม) ยาร่วงผัดน้ำตาลโตนด (มะม่วงหิมพานต์ฉาบน้ำตาล) โดยภาชนะที่ใส่อาหารนั้นเน้นวัสดุที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ใบตอง ถุงกระดาษ กะลามะพร้าว และที่น่ารักคือ หลายร้านค้าจะมีถุงรับฝากขยะให้ทิ้งได้ เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกอีกทางหนึ่ง
โซนศิลปวัฒนธรรม มีการออกร้านแนว DIY การสาธิตทำผ้าบาติก การแสดงหนังตะลุง และสาธิตย้อมผ้า
และยังมีโซน OTOP จำหน่ายสินค้า หัตถกรรม ผลิตภัณฑ์ของดีมีคุณภาพ ของนครศรีธรรมราชด้วย
หลาดหน้าพระธาตุ
เปิดเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น.
ขยายเวลา นมัสการองค์พระบรมธาตุเจดีย์ถึง 21.00 น. (ปกติปิด 17.00 น.)
ตลาดริมน้ำเชียรใหญ่
จากลานกิจกรรมริมแม่น้ำเชียรใหญ่ ที่คนส่วนใหญ่ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย ได้ต่อยอดมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ “ตลาดริมน้ำเชียรใหญ่” โดยปรับปรุงพื้นที่และตกแต่งร้านค้าเป็นซุ้มไม้ไผ่หลังคามุงจาก ให้บรรยากาศย้อนยุคแบบไทยๆ ใช้ภาชนะจากธรรมชาติ อาทิ กระทง, หมาจาก (ทำมาจากยอดอ่อนของต้นจาก), กระบอกไม้ไผ่, ภาชนะจักสาน
พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ของที่นำมาขายมีทั้ง ผลิตภัณฑ์โอท็อปและอาหารพื้นบ้าน อาทิ แกงส้มปลากดลูกเถาคัน เมนูจากกุ้งแม่น้ำสดๆ ขนมจีนแกงน้ำเคย ซึ่งน้ำเคยเป็นเมนูอาหารพื้นบ้าน หมี่ผัด ข้าวยำ ส่วนของหวานแบบพื้นบ้าน มีทั้งขนมจาก ขนมลา ข้าวเหนียวสองดัง ขนมครก
มีการสาธิตการทำ หมาจาก ภาชนะใส่อาหารที่เราจะเห็นบ่อยในภาคใต้
ที่ลานกิจกรรม จะมีการแสดงพื้นบ้านจากน้องๆ เยาวชน ที่สลับสับเปลี่ยนกันไปแต่ละสัปดาห์ แต่ที่มีประจำคือ การแสดง มโนราห์
ถ้ามีโอกาสมาตลาดริมน้ำเชียรใหญ่ ก่อนกลับแนะนำ ให้แวะสักการะศาลเจ้าทวดปากเชียร ที่ชาวเชียรใหญ่เลื่อมใสศรัทธา เพื่อความเป็นสิริมงคล
ตลาดริมน้ำเชียรใหญ่ เปิดเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น.
ตลาดกรีนภูมิปัญญา
ตลาดกรีน โรงบ่มเพาะภูมิปัญญา
อาจารย์ทวี พลายด้วง ศิลปินชาวนครศรีธรรมราช ผู้ทรงความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ริเริ่มจัดสร้าง “หมู่บ้านภูมิปัญญา” บนพื้นที่ 12 ไร่ของตนเอง เพื่อเป็นศูนย์บ่มเพาะ ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์รวมภูมิปัญญาท้องถิ่นเมืองนครศรีธรรมราช โดยคิดรวบรวมและสร้างกิจกรรมวัฒนธรรมให้เห็นถึงวิถีของอดีต เห็นความเป็นปัจจุบัน และสามารถสืบสานต่ออย่างมีอนาคต ภายใต้แนวคิด “ตลาดเที่ยวได้ ... สไตล์ไทยๆ” โดยมี ครกสียักษ์ ซึ่งทำจากเครื่องจักสานเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่
สินค้าที่มาขายในตลาดกรีน ภูมิปัญญา เป็นฝีมือการผลิตของคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าจากภูมิปัญญา งานศิลปหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ผ้าทอ เครื่องจักสาน เครื่องประดับจากกะลามะพร้าว สินค้ากระจูดมีทั้งกระเป๋า และเสื่อ
ยิ่งในด้านอาหารการกิน หลาดแห่งนี้มีของหรอยๆ ไม่แพ้ที่อื่น ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยโบราณสูตรเด็ด ขนมจีนแกงเคย น้ำยาต่างๆ ข้าวแกงรสเด็ด ผัดหมี่ กล้วยทอด ข้าวเม่า ข้าวต้มมัด ผักสด ขนมพื้นบ้าน ภาชนะที่ใช้คงคอนเซ็ปต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หลาดกรีน : หมู่บ้านภูมิปัญญา ถือว่าเป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีครบทั้ง ความอร่อย สวยงาม ประณีต ราคาไม่แพง มีกิจกรรมดนตรี การละเล่นพื้นบ้านให้ชม มีมุมสบายๆ ให้เลือกนั่งพัก ท่ามกลางธรรมชาติ สระน้ำ ต้นไม้เขียวขจี ลมพัดเย็นสบาย เหมือนนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้าน
ตลาดกรีน : ซอยบ้านวัดลาว ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรี
เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
ตลาดย้อนยุค @ ปากพนัง
ในอดีตอำเภอปากพนัง เป็นเมืองท่าเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของทะเลฝั่งตะวันออก จึงมีการสร้างตลาดย้อนยุคขึ้นเพื่อสะท้อนวิถีชีวิตชาวใต้
ตลาดย้อนยุค @ ปากพนัง ตั้งอยู่ติดเรือนจำปากพนัง ริมคลองบางฉลากที่เชื่อมต่อจากแม่น้ำปากพนัง มีสองฟากขนานกับลำคลอง อีกฝั่งเป็นตลาดที่ติดเลียบกำแพงของเรือนจำ อีกส่วนจะเป็นบ้านที่อยู่อาศัยที่เปิดเป็นร้านขายของ
ร้านค้าถูกสร้างเป็นซุ้มสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ ส่วนที่นั่งทานอาหารจะอยู่ริมคลอง มีของอร่อยให้เลือกเกือบ 40 ร้าน ของดีของเด็ดประจำหลาดนี้ ได้แก่ ผัดหมี่แดงเมืองนังสูตรดั้งเดิม, ขนมจีนเส้นสด ที่ลูกค้าตักน้ำยาได้เอง มีทั้งแกงเผ็ด กะทิ น้ำพริก ถ้าผสมทั้ง 3 น้ำยาก็จะอร่อยอีกแบบ, ข้าวยำห่อใบบัว หลากสีสัน รสชาติเข้มข้น อาหารพื้นเมืองชื่อแปลกอย่างผักบุ้งไต่ราวก็น่าลอง เพราะมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น ข้าวผัดสีแดงโบราณ บ๊ะจ่างใบตองใส่ไส้ 9 อย่าง กุ้งส้มนึ่ง โจ๊กกะลา ก็หาชิมได้ที่นี่เช่นกัน ของที่นี่ ส่วนใหญ่ราคาไม่แพง จนหลายคนบอกว่า มาหลาดปากนัง...ไม่ถึงร้อย ก็หรอยได้
ขนมพื้นบ้านชื่อแปลกที่ต้องลอง ก็คือ ขนมจู้จุน ขนมขี้หมาพองเช (คล้ายข้าวตู) ขนมจากใส่ไส้ลูกชิด-มะพร้าวอ่อน ขนมขี้มัน ขนมกระโดน ขนมกวน ขนมตาบอด ขนมด้วง ขนมทอด นอกจากนี้ยังมีงานศิลปหัตถกรรม ที่เป็นของใช้ หรือของฝากอย่าง ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกะลามะพร้าว หมวกเปี้ยว หมาจากภาชนะใส่ของ ซึ่งอันหลังนั้นใครอยากรู้ว่าทำอย่างไรต้องมาดูเพราะเขานั่งสานให้เห็นๆกันเลย ส่วนกิจกรรมบนเวทีบริเวณเชิงสะพาน ก็สร้างสีสันได้ดี มีทั้งเพลงพื้นบ้านเพลงแนวอื่นๆ การแสดงต่างๆ จากทุกรุ่นทุกวัย
ตลาดย้อนยุค @ ปากพนัง
เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 15.00 - 20.00 น.
หลังจากที่ได้ไปเที่ยวครบทั้ง 4 ตลาด บอกได้เลยว่า ทุกตลาดล้วนมีจุดแข็งและเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ทั้งในเรื่องสถานที่ ความแตกต่างในเรื่องอาหารการกิน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ พอเราได้มาเที่ยว ได้มาเรียนรู้ ได้มาสัมผัสกับวิถีคนเมืองคอนในหลายๆ ด้าน ทั้งศิลปวัฒนธรรม อาหาร ผลผลิตจากชุมชน และทุกตลาดต่างพร้อมใจกันใช้วัสดุจากธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ใครๆ ก็อยากมาเที่ยวนครศรีธรรมราช ยิ่งได้มาเห็นความร่วมมือร่วมใจของคนชุมชน มันยิ่งทำให้เราอยากกลับมาเยือนในครั้งต่อๆ ไป นี่แหละเค้าถึงบอกว่า นครศรีดี๊ดี ดีอย่างนี้นี่เอง...
