Singha Park Chiang Rai สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร
บางสถานที่ถ้าไม่ลองไปสัมผัส ก็คงไม่รู้ซึ้งถึงแก่นแท้ ที่อาจซ่อนไว้ซึ่งความสุข ความประทับใจมากมาย เฉกเช่นเดียวกับการเดินทางในทริปนี้ ทริปที่เรามีโอกาสได้ไปสัมผัสความอุดมสมบูรณ์ และความสวยงามของ Singha Park Chiang Rai สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเชียงราย
Singha Park Chiang Rai เที่ยวจริงๆ วันเดียวก็เที่ยวได้ แต่เที่ยวเท่าไรก็ไม่มีเบื่อ และอาจจะเที่ยวไม่ทั่ว เพราะคุณจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ จนไม่อยากจะมูฟตัวไปมุมอื่นเลย และในพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ ซึ่งถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเต็มรูปแบบ ผ่านการทำเกษตรแบบผสมผสาน ที่ยังคงความสมดุลทั้งกับธรรมชาติและชุมชน มีอะไรที่น่าค้นหามากมาย
ใน 1 วัน ได้เที่ยวอะไรบ้าง ลองมาดูกันเลย
จริงๆ แล้วการมา Singha Park Chiang Rai คุณสามารถกำหนดกิจกรรมได้หลากหลายมาก เพราะภายในมีมุมน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชมไร่ชาอู่หลง ไร่สตรอว์เบอร์รี ชมชีวิตสัตว์ ปั่นจักรยาน ทำกิจกรรม Adventure ชมวิว ชิมอาหารอร่อยๆ ที่ภูภิรมย์ และชิลล์ๆ ในมุมจิบชา ชอปของฝาก
สำหรับทริปที่เราจะเอามาฝาก ขอบอกเลยว่าตามรอยเราไปแล้ว คุณจะเข้าถึงทุกความสุขหลากอารมณ์ที่ Singha Park Chiang Rai จริงๆ และถ้าพร้อมจะเดินทางไปค้นหาความสุขร่วมกับเราแล้ว กระโดดขึ้นรถชมฟาร์มกันเลยค่ะ
สถานีแรก มาแล้วต้องเช็กอินเลยก็คือ รูปปั้นสิงห์ทอง จุดแลนด์มาร์คโดดเด่นหน้า Singha Park Chiang Rai ช่วงจังหวะที่ท้องฟ้าเปิด สีทองของรูปปั้นสิงห์ จะตัดกับสีเขียวขจีของสนามหญ้า มีฉากหลังเป็นภูเขาและท้องฟ้า จะถ่ายกี่ภาพ หรือแชะแบบ 360 องศาก็ได้มุมที่สวยสมใจค่ะ
ต่อด้วยจุดแชะภาพเบาๆ ในวันที่ท้องฟ้าเปิดแบบนี้ ทุงดอกปอเทืองก็ดูจะเป็นไฮไลต์อันสวยงามที่สามารถพบเจอได้ตั้งแต่หน้าไร่
ขยับขบวนมาอีกนิด เป็นไร่พุทราพันธุ์ซื่อหมี่ อีกหนึ่งผลไม้อร่อยๆ ประจำไร่ ความโดดเด่นของพุทธาพันธุ์นี้ก็คือ หอม กรอบ อร่อย สัมผัสได้ในคำเดียว
ถ้าจัดทริปตั้งแต่ช่วงเช้าๆ จังหวะที่แดดไม่ร้อนมาก หลายคนอาจเลือกนั่งรถฟาร์มทัวร์ชมไร่ เพื่อความสะดวกสบาย หรือจะเลือกวิธีที่เราแนะนำก็คือขอให้รถฟาร์มทัวร์ไปส่งที่บ้านแดง จากนั้นก็เช่าจักรยานปั่นชมไร่ก็ได้ค่ะ
ได้จักรยานคู่ใจ เช็กความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ปั่นไปตามเส้นทางสวยๆ ลัดเลาะรอบไร่กันเลยค่ะ
อารมณ์ของความสุขและชิลล์จากกิจกรรมปั่นจักรยาน บอกเลยว่าหลากหลายมาก อาจจะมีเหนื่อยบ้าง ร้อนบ้างแต่ในความเหนื่อยนั้นก็มีความงามซ่อนอยู่ และอากาศเย็นๆ ช่วงเช้าบวกกับวิวแต่ละมุมนั้น ก็ยังทำให้เราเพลิดเพลินได้ไม่เบื่อ
ไร่ชายามเช้า ความเขียวขจีนับร้อยๆ ไร่ แต่ละมุมเด่นๆ จุดสวยๆ สำคัญๆ จักรยานสามารถเข้าถึง ที่นี้ก็เลือกถ่ายภาพได้ตามสบายเลยค่ะ จะถ่ายมุมกว้าง หรือมุมแคบ จะถ่ายเฉพาะไร่ชา หรือวิถีชาวเก็บชา ก็สวยทุกมุมมองค่ะ
ไฮไลต์ยามเช้า ที่เราชื่นชอบมากเลยก็คือ ทุ่งดอกคอสมอสที่เสกให้ภูเขาลูกเล็กๆ กลางไร่ กลายเป็นภูเขาดอกไม้ที่สวยหวานน่าประทับใจ
ในสองฟากฝั่งถนน ฝั่งหนึ่งคือไร่ชา ฝั่งหนึ่งคือทุ่งดอกคอสมอส ทำเอาคนปั่นจักรยานเลือกไม่ถูกว่าจะโฟกัสไปฝั่งไหน เพราะสวยมากทุกมุม
เปลี่ยนจากชมดอกไม้ มาชมชีวิตสัตว์กันบ้าง ที่นี่มียีราฟทั้งหมด 9 ตัว ม้าลาย 10 ตัว อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันอย่างสงบสุข
ในจุดนี้มีบริการอาหารสำหรับยีราฟและม้าลาย ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับความน่ารักของสองสัตว์อย่างใกล้ชิด
ส่วนที่แยกไปอีกโซนท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เป็นที่อยู่ของวัววาตูซี่ 10 ตัว ช่วงเช้าๆ จะออกมาอาบแดด โชว์ตัวให้เราเห็นกันชัดๆ โดยวัวสายพันธุ์นี้มีความโดดเด่นที่เขา ซึ่งแค่มองไปไกลๆ ก็เห็นเขาสวยงามนั้นโดดเด่นขึ้นมาเลย
วกกลับมาที่บ้านแดง เราขอเบรกกับของอร่อย เครื่องดื่มเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวรอให้แดดร่มลมตก จะพาไปทัวร์แบบ Adventure กันบ้าง ระหว่างนี้ ชมวิวใกล้ๆ ทำใจสักครู่ค่ะ
แสงกำลังสวย ใจกำลังพร้อม ทีนี้ก็ได้เวลาของกิจกรรมไฮไลต์สำหรับวันนี้แล้วค่ะ เป้าหมายของเราคือไร่ชาอีกโซนหนึ่ง ที่ถือเป็นมุมชมวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม และมุมแห่งกิจกรรมเด็ดๆ ที่น่าสนใจมาก
กิจกรรม Adventure ที่เราจะมาทดสอบความกล้าในครั้งนี้ก็คือ ซิปไลน์ เตรียมใจให้พร้อมแล้วเหินเวหา ท้าความมันกันเลยค่ะ
บางอย่าง ยากแค่จุดเริ่มต้น นี่คือคำที่ผุดขึ้นมาในหัวของคนกลัวความสูงอย่างเราในช่วงที่ยืนอยู่บนหอคอยสูง ก่อนจะยอมจำนนตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายทิ้งตัวเหินเวหากลางไร่ชา
แต่ใครจะรู้ว่าการตัดสินใจลอง จะทำให้เราสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ความสวยงามมุมใหม่ๆ ถ้าไม่ทำก็ไม่มีโอกาสได้เห็นแบบนี้
กิจกรรมซิปไลน์มีทั้งหมด 4 จุดหลัก แต่ละจุดเชื่อมต่อกันเป็นสี่เหลี่ยม และแต่ละจุดก็มีความท้าทายของความสูงที่ต่างกัน แน่นอนว่า ความสวยงามของวิวทิวทัศน์แต่ละมุมก็ต่างกันด้วย
ปิดท้ายทริปด้วยแสงสุดท้ายของวัน มัวแต่เล่นซิปไลน์เพลิน หันมาอีกที พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าแล้วค่ะ ช่วงอากาศเย็นๆ เริ่มปกคลุม แสงที่ค่อยๆ จางลับขอบฟ้า ยิ่งทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นมุมที่สวยงามและโรแมนติกสุดๆ
และอีกหนึ่งทางเลือกหลังโบกมือลาแสงสุดท้ายของวันแล้ว ลองมาต่ออีกมุมโรแมนติกที่ ร้านอาหารภูภิรมย์ กับมุมสวยๆ รับลมเย็นๆ ยามค่ำคืน เลือกนั่งมุมเทอเรสจะได้ฟิลล์ที่สดชื่น ผ่อนคลายมาก
ภายในร้านยังบริการอาหารหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ของคาว ของหวาน อาหารจากผลผลิตในไร่ และเครื่องดื่มหลากชนิด อยากรู้ว่าเยอะและน่าทานขนาดไหน ลองดูเมนูแนะนำเลยค่ะ
ค้นหาความสุข สนุก พบเจอความสวยงามแบบ 360 องศาที่ Singha Park Chiang Rai แล้ว บอกเลยว่า 1 วัน สำหรับทริปนี้ คุ้มค่าจริงๆ ใครสนใจตามรอยเราไปเที่ยวแบบนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 09 1576 0374 หรือเดินทางไปเที่ยวชมได้ที่ Singha Park Chiang Rai ตั้งอยู่ริมถนนสายเด่นห้า – ดงมะดะ ห่างจากชุมชนเมืองเชียงรายประมาณ 9 กิโลเมตร
