แอ่วเหนือเมื่อไหร่ก็ไม่เบื่อ “เชียงใหม่” ยังไงก็ว้าว
สวัสดีเจ้า วันนี้ เราขอพาทุกคนไปแอ่วเหนือกับทริป 3วัน 2คืน ให้ม่วนอกม่วนใจ๋กันที่เจียงใหม่กันเจ้า^^ ด้วย จ.เชียงใหม่ เปิดตัวแบรนด์ “ We Love Chaingmai” หรือ “เรารักเชียงใหม่” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน เที่ยวได้สบายใจ แอ่วเชียงใหม่แบบคูลๆได้เลยค่ะ ฮ่าๆ นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “Refreshing Chiangmai เชียงใหม่สดใส สุขภาพปลอดภัย” ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา แหล่งท่องเที่ยว รถตู้ รถเช่า จัดโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลดสูงสุดถึง50% ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย เริ่ดดดดนะ
ไปค่ะ ไปแอ่วเชียงใหม่กัน ~
กองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ ที่แรกที่เราไปกันก็คือ Stay Wild & café มาทาง อ.แม่แตง ที่นี่เป็นรีสอร์ทและร้านอาหารที่บรรยากาศดีมากๆ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ขุนเขาเขียวชอุ่ม ติดลำธาร อากาศก็เย็นๆ กำลังดีเลย ให้อารมณ์ผ่อนคลาย สบายๆ อาหารอร่อย มาแล้วจะได้รูปสวยๆ เยอะแน่นอนค่ะ
แถมที่นี่เค้ายังมีกิจกรรมให้เล่นมากมาย เช่น โหนสลิง ชมช้าง ล่องแก่งแพยาง อีกด้วยน้า
หลังจากเติมพลัง อิ่มท้องแล้ว ก็พร้อมไปลุยต่อแล้วจ้า สถานีต่อไปของเราก็คือ ปางช้าง แม่แตง แต่ที่เราจะไปทำกิจกรรมกับน้องช้างกันนั้น เป็นในส่วนของ โครงการฮักช้าง ซึ่งเค้ามีบริการรถรับ - ส่ง จากปางช้างเข้าไป อยู่ไม่ไกลกันเลย
ที่นี่เปิดมาได้ประมาน 2 ปีแล้ว มีจุดประสงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติทุกคนได้เข้ามาทำความรู้จักกับช้างแบบใกล้ชิด ได้รับความรู้ต่างๆเกี่ยวกับช้าง ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และร่วมอนุรักษ์ช้างไทย
เข้ามาด้านในเค้าจะให้เราเปลี่ยนชุด รับบทเป็นควานช้างกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็ไปเริ่มทำกิจกรรมสนุกๆกันเลยจ้า อันดับแรก ฟังความรู้เกี่ยวกับน้องช้างกันก่อน ให้อารมณ์ Back to school เหมือนกันนะ ที่นี่เค้าให้ความรู้เกี่ยวกับช้างแบบละเอียดยิบ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ช้าง ร่างกายของช้าง การดูแล รักษาโรคให้ช้าง อาหาร สมุนไพรต่างๆ ที่ช้างกิน คุณลุงก็น่ารักใจดีมากๆ สนุกสนานกันไป
เสร็จแล้วก็มาลงมือทำอาหารเสริมและสปาให้น้องกันค่า เราจะใช้มะขามเปียก ดินธรรมชาติ เกลือทะเล และวิตามิน แร่ธาติ ผสมเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า "โป่งเทียม" ซึ่งช้างขาดไม่ได้เลยนะ
สปาของน้อง ที่ใช้ขัดตัว อาบน้ำให้ ก็มาจากธรรมชาติ ใช้ "เคลือสะบ้า" มาทุบให้แบน แล้วชุบน้ำ เวลาขัดตัวช้างจะเกิดฟองเหมือนสบู่เลย ช่วยกำจัดแมลง เห็บต่างๆ ที่มาเกาะผิวตัวน้อง อเมซิ่งไทยแลนด์สุด
แต่ก่อนจะไปเล่นและอาบน้ำให้กับน้องช้าง คุณลุงบอกว่าต้องสร้างความประทับใจ คุ้นเคย ระหว่างเราและน้องกันก่อนนะคะ ด้วยการให้อาหาร ช้างทุกเชือกที่นี่เชื่องและน่ารัก ขี้เล่นมากๆ เข้าไปใกล้ๆได้เลย
ได้เวลาอาบน้ำก็จะร่าเริง สดใสประมานนี้แหละ เอ็นดู ~
เราเชื่อนะว่าใครที่มาที่นี่ จะต้องรักช้างมากขึ้นแน่นอน... ที่นี่เค้าเข้าร่วมกับ we love Chiang Mai ด้วยนะ ได้รับส่วนลดจาก 1750 เหลือ 699 บาท เท่านั้น ถึงสิ้นปี 2563 เลย
ตกเย็นแล้ว ใช้พลังงานไปเยอะก็ต้องกินค่ะ มื้อเย็นเราอยู่ที่ร้าน The House By Ginger ร้านตกแต่งแบบคลาสสิค และที่สำคัญ เค้ามีเมนูที่ได้มิชลินไกด์จังหวัดเชียงใหม่ด้วย อย่างเมนู อาหารว่างรวม และเนื้อต้มกะทิ
เริ่มต้นวันที่2 ที่ศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมสันกำแพง ภายในของพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดโชว์ผ้า วิวัฒนาการผ้าไหมของเชียงใหม่ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบันให้ได้ชมกัน
มีกิจกรรมน่ารักๆ สนุกๆ ให้ได้ทำ อย่างการเพ้นท์ร่ม กระเป๋าผ้า หรือพัด วัดฝีมือด้านศิลปะกันไปเลยจ้า ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้มานานมาก ล่าสุดก็ตอนเรียนประถม สนุกเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ
ทำเสร็จเค้าก็ให้เอากลับบ้านได้เลย เรียกได้ว่ามีชิ้นเดียวในโลกเลยน้า ได้ถุงผ้าใช้ลดโลกร้อนด้วย ดีงาม
ไปต่อกันที่ Thai Silk Village ภายในโรงงานจะมีให้เราดูตั้งแต่วัฎจักรหนอนไหม กำลังเดินกระดิ๊บๆ กันยั๊วเยี๊ยเต็มไปหมด การสาวไหม ไปจนถึงกระบวนการทอผ้าไหมไทยแบบโบราณ การตัดเย็บแบบครบวงจรเลย
ได้ทำผ้ามัดย้อมเองด้วย ได้ผ้าพันคอ ผ้าคลุมที่เป็นฝีมือของตัวเองอ่ะเนอะ เก๋ๆ
ส่วนของ shop ขายสินค้า มีงานผ้าไหมหลายรูปแบบมากให้เลือกช้อปกัน
หลังจากทำกิจกรรมที่โรงงานผ้าไหม ก็มาพักจิบชา ทานเบเกอรี่ฝรั่งเศสยามบ่ายซักหน่อย ที่ร้าน Chez Nous คำว่า " Chez Nous "เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า บ้านเรา เชฟบอกว่าอยากให้ลูกค้าที่มาที่ร้านรู้สึกเหมือนนั่งทานอยู่ที่บ้าน สบายๆ การตกแต่งของร้านจึงตกแต่งให้รู้สึกเหมือนกับว่าเราอยู่ในบ้านขนมปังเล็กๆแบบชนบท ซึ่งสิ่งที่พิเศษก็คือ เค้าเป็นเบอเกอร์รี่แบบโฮมเมด เมนูซิกเนเจอร์ของร้านเลยก็คือ " Thousand layers croissant " ครัวซองแบบฉบับฝรั่งเศสแท้ๆ กรอบนอกนุ่มใน อร่อยฟินมาก
และที่เราชอบที่สุดเลยก็คือ "Almond Croissant" ที่เป็นเมนู best selling ของทางร้าน ข้างในสอดใส้อัลด์มอนด์ครีม อร่อยมากๆ เข้าใจเลยว่าทำไมถึงขายดีที่สุด พูดแล้วก็อยากินอีก ฮ่าๆ
และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ไปนู่นไปนี่มาเยอะก็ปวดเมื่อยตัวกันบ้าง… ใช่ค่ะ เราจะไปนวดกันต่อ ซึ่งที่ๆเราจะไปนั้นก็คือ Zira Spa ที่นี่เค้าเป็นสปาที่ให้บริการในรูปแบบสปาล้านนา ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพอย่าง "รางวัลกินรีทอง"
และโปรแกรมนวดของเราวันนี้คือการ "นวดฟ้อนเล็บ" ซึ่งเป็นการฟ้อนรำอย่างหนึ่งที่ทางศิรา สปา นำการฟ้อนเล็บนี้มาประยุกต์เป็นท่านวด ซึ่งการนวดฟ้อนเล็บนั้นจะช่วยคลายการยึดของกล้ามเนื้อนิ้ว อาการนิ้วล็อค ท่าทางการร่ายรำถูกใช้เป็นท่าตรวจสอบความสมดุลของร่างกายก่อนเริ่มการนวด
พอได้เริ่มทำนั่นรู้สึกเลยว่าเลือดเดินมากๆ นวดเสร็จรู้สึกดี พี่ที่มานวดให้ก็นวดและการบริการดีมากๆ เรารู้สึกได้ผ่อนคลายแบบจริงๆ ใครไปเชียงใหม่แล้วหาที่นวดควรไปลองดูนะ
นอกจากนี้ Zira Spa ยังเข้าร่วมโครงการของ “We Love Chiang Mai” ด้วยนะ มีโปรโมชั่น Buy1 Get1 Free จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563
เริ่มต้นเช้าของวันสุดท้ายที่เชียงใหม่แล้ว ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปเที่ยวเบาๆอีกซักที่สองที่เนอะ เอาใจเหล่าสาวๆเป็นพิเศษ ขึ้นเหนือทั้งที ก็ต้องได้ถ่ายรูปกับสวนดอกไม้นิดนึงอ่ะเนอะ ฟิลสดใสในทุ่งดอกไม้ ที่นี่เลย I love Flower Farm
จะถ่ายกับแปลงดอก Celosia หลากสี สดใส ซาบซ่า ร้อนแรง
หรือจะละมุนๆ กับดอกมากาเร็ตสีม่วง และดอกคัตเตอร์สีขาว
ยังมีเวลาก่อนจะถึงเวลาขึ้นเครื่อง ไปช้อปปิ้งต่อกันที่ ตลาดจริงใจ มีมุมอาหารคาว หวาน ของทานเล่น มาอิ่มมื้อเข้าที่นี่ได้เลย เลือกช็อป เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของประดับตกแต่ง ของขวัญ งานแฮนด์เมดของชาวลานนา สวยงามราคาไม่แพง มีดนตรีสดบรรเลงให้ฟังฟินๆ บรรยากาศน่ารักๆ คึกคัก และความดีงามอีกอย่างคือ ที่นี่เค้างดใช้ถุงพลาสติกด้วยนะ
เราว่าเชียงใหม่ เป็นเมืองที่สวยงามทั้งวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว และผู้คน ทริปนี้ทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่ดีมากๆ ได้ทั้งความสุข ความสนุก รอยยิ้มจากที่นี่ เราเชื่อว่าใครมาก็จะต้องตกหลุกรักเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน และพูดได้เต็มปากเลยว่า"เรารักเชียงใหม่" ถ้ามีโอกาสก็ไปเที่ยวเชียงใหม่กันได้นะคะ นึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ก็ตามรอยทริปนี้โลด ไม่ผิดหวังแน่นอน
