Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

3 วัน 2 คืน @ จันทบุรี-ระยอง กินปู ดูน้ำตก แวะชุมชนจันทบูร

3 วัน 2 คืน @ จันทบุรี-ระยอง กินปู ดูน้ำตก แวะชุมชนจันทบูร


ทริปจันทบุรี-ระยอง 3 วัน 2 คืน ของพวกเรา เกิดขึ้นด้วยเหตุผลง่ายๆ จากการที่พวกเราคุยกันตลอดมาว่า อยากไปเที่ยวจันทบุรี แต่ก็มัวแต่ยุ่งๆ หน้าผลไม้ก็ไม่ได้ไป ช่วงปีใหม่ที่มีทุ่งดอกไม้ก็พลาดอีก พอว่างพร้อมกันก็เลยขอไปสัมผัสบรรยากาศบ้านพักริมน้ำตก และจัดทริปกินปู-ดูดอกไม้ แล้วแวะเที่ยวจุดไฮไลท์อย่าง โบสถ์คริสต์และชุมชมจันทบูร

เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าจังหวัดระยอง รับรถเช่า Avis ที่สนามบินดอนเมือง นัดพบกับเพื่อนโซนรามอินทรา แล้วก็มุ่งหน้าถนนมอเตอร์เวย์ จุดแรกแวะสวนละไมก่อนเลย กะว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีทุ่งดอกไม้ให้ได้ดูบ้าง อ่านเจอในเฟสเค้าบอกว่า ณ ตอนนั้น สวนละไม มีไร่สตรอเบอร์รี่ก็เลยแวะกันแบบไม่ต้องคิดนาน (ตอนนั้นเราไปช่วงกลางเดือน ม.ค.)
การนั่งรถชมสวนละไม ใช้เวลา2-3 ชั่วโมงพอสมควร ซื้อบัตร 150 บาท เค้าจะพาเที่ยวชมทุ่งดอกไม้ ตอนนั้นมีดอกซัลเวียสีม่วงๆ สลับกับดอกไม้อื่นๆ รถรางจะจอดให้เราแวะถ่ายรูป แล้วพาไปดูไร่สตรอเบอร์รี่ ซึ่งระหว่างทางจะมีสวนลำไยเต็มไปหมด ตอนที่ไปยังแก่ไม่เต็มที่ ไม่งั้นคงได้ชิมกันแบบสดๆ จากต้น ด้วยความที่เรามาถึงที่นี่ตอนสายๆ เที่ยวสักพัก ก็ได้เวลาทานมื้อกลางวัน เลยฝากท้องกันที่ร้านอาหารในสวนละไมที่อยู่บนเนินเขา กับเมนูสเต็กและอาหารจานใหญ่ที่สั่งคนละเมนูเยอะจนแทบกินไม่หมด เมนูที่สั่งก็คือ สเต็กหมู สเต็กเนื้อ สลัดไก่ทอด สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล จานใหญ่จริงอันนี้เราคอนเฟิร์ม พอกลับลงมาจากการนั่งรถชมสวน ก็ขอแวะร้านกาแฟเปิดใหม่ซะหน่อย เค้าว่ากันว่าเพิ่งเปิดได้ไม่นาน แถมยังมีมุมเท่ๆ หลังร้านให้ได้นั่งกินลมชมวิวด้วย ที่นี่จะเน้นบริการเครื่องดื่ม ร้อน-เย็น รสชาติดีเชียวละ ราคาก็ไม่แพงด้วย ค่าบัตรเข้าชม สวนละไม 
ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาทเด็กความสูงไม่เกิน 100 เซ็นติเมตร เข้าชมฟรี!
เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.

สวนละไม
ที่อยู่ : 19/9 ถ.บ้านบึง-แกลง (สาย 344) ต.ป่ายุบใบ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง
ติดต่อสอบถามข้อมูล Call Center : 09-8737-4983 , 09-8737-4984 , 09-8737-4985
Facebook : สวนละไม / Suan Lamai ออกจากสวนละไมตอนบ่ายๆ ก็ตรงดิ่งเข้าที่พัก กับบ้านพักริมน้ำตก ชื่อจำได้ง่าย บ้านป่าริมธารโฮมสเตย์ อยู่ในเขตอำเภอทุ่งเพล จันทบุรี เจ้าของบ้านก็คือคุณพ่อของพี่โป้ โยคีเพลย์บอย ตอนแรกเจ้าของบ้านจะเปิดที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศ แต่ไปๆ มาก็กลายเป็นบ้านพักริมน้ำตกที่วิวดีที่สุดในย่านนี้ จะว่าไป การขับรถจากกรุงเทพฯ ไประยอง-จันทบุรี นี่ก็ใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมง แวะเที่ยวมาตลอดทาง ถึงที่พักก็เย็นพอดีเลย แค่ก้าวแรกที่เข้ามาก็ได้ยินเสียงน้ำตกตลอดเวลา บ่งบอกถึงความใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้านพักก็ได้ยินเสียงน้ำ เดินเล่นเก็บภาพนิดหน่อยก็มีอาหารเย็นมื้อใหญ่มาเสิร์ฟ
แน่นอนว่า มาจันทบุรีก็มีต้องได้ชิมเมนูท้องถิ่นอย่าง แกงหมูชะมวง รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ หวานๆ หอมกลิ่นเครื่องแกง เสิร์ฟคู่มากับ ผัดผัก ชุดน้ำพริกกะปิ ไก่ต้มกระวาน และไข่เจียวหมูสับ มากัน 4 คน อาหารชุดนี้กำลังพอดีเลย และนี่คือ อาหารเช้าเบาๆ ไข่กระทะและข้าวต้ม ที่จริงคนมาที่นี่มักจะเล่นน้ำตก แต่เราต้องไปเที่ยวต่อก็เลยเดินลงไปที่โขดหิน ไปสัมผัสน้ำใสๆ เย็นๆ พอได้เวลากลับแต่ก็อยากอยู่ต่ออีกแล้ว (มาเที่ยวทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเลย)บ้านป่าริมธารโฮมสเตย์ - ทุ่งเพล จันทบุรี
ที่อยู่ : ต.ทุ่งเพล อ.มะขาม จ.จันทบุรี
โทร. 081 858 1232
Facebook : บ้านป่าริมธารโฮมสเตย์ - ทุ่งเพล จันทบุรี 

ค่าที่พักบ้านป่าริมธารโฮมสเตย์ รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า
กระท่อมพริกไท 3-5 คน 1,000 บาท/คน 
บ้านเรไรเขียว 6-8 คน 1,100 บาท/คน 
บ้านเถาวัลย์ยักษ์ 8-12 คน 1,100 บาท/คน 
บ้านมังคุด 8-12 คน 1,100 บาท/คน 
บ้านทะลอกใหญ่ 10-14 คน 1,100 บาท/คน 
บ้านปีกไม้ 20-30 คน 800 บาท/คน 
บ้านเงาะ 30-40 คน 900 บาท/คน 
บ้านกระจก 1 4-5 คน 1,200 บาท/คนบ้านกระจก 2-4 1,200 บาท/คน

วันที่สอง : ออกจาก บ้านป่าริมธารโฮมสเตย์ มุ่งหน้าไป อำเภอขลุง ไปกินปู นอนโฮมสเตย์
เมื่อวานตอนที่ขับรถเข้าไปที่พัก เห็นร้านกาแฟเปิดใหม่ ก็เลยเล็งๆ เอาไว้ว่า ตอนสายๆ ขากลับจะมาแวะซื้อกาแฟ ที่ร้าน For-Rest ร้านกาแฟท่ามกลางสวนผลไม้ ตอนแรกก็นึกว่าจะมีแค่กาแฟ แต่ร้านนี้มีเมนูอาหารเยอะเชียว ขอสั่งมาชิมหน่อยละกัน ไหนๆ ก็มาแล้ว เริ่มกันที่ ออร์เดิร์ฟอย่าง หมูสะเต๊ะจานนี้ เนื้อหมูนุ่ม น้ำจิ้มอร่อย 
เจ้าของร้านบอกว่า หมูชะมวงของที่นี่ เลือกใช้หมูสันนอก แต่ที่อื่นๆ ทั่วไปจะใช้หมูสามชั้น ตอนชิมเมนูนี้ก็เลยลืมภาพมันหนาๆ ในหมูสามชั้นกันไปเลย ยำผักกูด เมนูพื้นบ้านอีกอย่างหนึ่งที่ได้ลอง โดนใจสุดๆ ด้วยรสชาติของน้ำยำและความสดกรอบของผักกูด ไข่เจียวที่ว่าธรรมดาแต่ร้านนี้เค้าไม่ธรรมดานะ มีให้เลือกทั้งไข่เจียว หมู-กุ้ง-ปู (ไข่เจียวที่นี่น่ากินขนาดไหน ภาพก็จะบอกได้...ใช่ป่ะล่ะ?) ยิ่งได้ทานคู่กับต้มยำไก่ใส่เห็ดและใบกระวานก็ยิ่งเข้ากัน น้ำต้มยำจัดจ้านกำลังดี นั่งเล่นกันสักพัก ทั้งที่อิ่มแล้วแต่ก็ยังอดไม่ได้ ซื้อเครื่องดื่มเย็นติดมือกลับกันคนละแก้ว ทั้งพีชโซดา, ชาเขียวนม, ชามะนาว, ช็อกโกแลตเย็นFor-Rest Coffee & Eatery 
ที่อยู่: 32/4 หมู่ 7 ต.ฉมัน อ.มะขาม จ.จันทบุรี
เปิดเวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) 
โทร. 09 7237 2617
Facebook : For-Rest Coffee & Eatery ออกจากอำเภอมะขาม เราก็มุ่งหน้าไปที่อำเภอขลุง ไปกินปูกันตอนเย็น รอบนี้ไม่ได้แวะที่ไหนเพราะกลัวจะถึงรีสอร์ทเย็นเกินไป เราไปถึงท่าเรือประมาณ บ่าย 3 นั่งเรือเข้าไป 15 นาที จากนั้นก็พักผ่อน เล่นกิจกรรมใน Aloha Sunset Homestay ที่นี่จะสร้างที่พักอยู่รอบๆ มีสวนน้ำ มีเจ็ตสกี มีบานาน่าโบ๊ท พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ ที่เราจะต้องลุ้นกันว่า วันนี้ฟ้าจะสลับสีเหมือนอย่างที่เราตั้งใจไหม ภาพที่ได้ก็จะประมาณนี้ ฟ้าเป็นสีส้มแค่แป๊บเดียวเอง (เสียดายจัง) นี่เกือบตั้งกล้องไม่ทันเลยทีเดียว เล่นกิจกรรมทางน้ำกันสักพักก็แยกย้ายไปอาบน้ำอาบท่า รอกินปูมื้อเย็นอย่างใจจดใจจ่อ และนี่คือความอลังการของปูมื้อเย็น โอ้โห! ตัวเท่าหน้าเลย เจ้าของบ้านบอกว่า เรื่องความสดวางใจได้ ขึ้นจากทะเลปุ๊บก็ส่งตรงมาที่นี่เลย ปูตัวใหญ่วางเรียงรายรอให้ลูกค้าได้กินกันอย่างไม่อั้น คนมาพักที่นี่ก็จะฟินกับปูเนื้อแน่นๆ ทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ เมนูอาหารเค้าไม่ได้มีแค่ปูนึ่งกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเท่านั้นนะ อาหารที่เสิร์ฟมาคู่กันก็จัดเต็มอย่างที่เห็น ทั้งปลากะพงทอด, กุ้ง(นึ่ง), กุ้งแช่น้ำปลา, ทอดมันปลา, กุ้งอบวุ้นเส้น, หอยนางรมสด, หมูชะมวง อาหารถิ่นที่รวมอยู่ในเซ็ตอาหารเย็นด้วย รู้สึกว่าเราจะเจอเมนูหมูชะมวงติดกันมา 3 ร้านละ มื้อนี้แทบไม่ได้ชิมเลย กุ้งตัวโตก้ามใหญ่ ที่นี่มีให้กินไม่อั้น

Aloha Sunset Homestay
ที่อยู่ : 61 หมู่ 5 ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี
08 1835 7687, 08 6032 7943
Facebook : Aloha Sunset Homestay

ราคาที่พักและอาหาร 1,800 บาท/ท่าน รวมอาหารเช้าและซีฟู้ดมื้อเย็น
วันที่สาม : ตื่นมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้า แล้วออกเดินทางไปเที่ยวในเมืองจันทบุรีกันต่อ เช้านี้ก็เลยกินอะไรเบาๆ รองท้อง เมนูอาหารเช้าของที่นี่ คือ ข้าวต้มปลากะพง ที่ให้ปลาเยอะมากกกก ออกจากที่พัก Aloha Sunset Homestay ประมาณ 8 โมงเช้า จากนั้นก็ขับรถเข้าเมือง จุดหมายของเราก็คือ ร้าน Kays ที่หลายคนรู้จักกันดี ร้านนี้คือร้านกาแฟใจกลางเมือง แม้ไม่ใช่ร้านใหม่ แต่เพิ่งเพิ่มโซนใหม่พอดี ตอนแรกว่าจะแวะมาจิบกาแฟเบาๆ นั่นไง (บานปลายอีกแล้ว) ไปๆมาๆ ก็สั่งอาหารมากินกันซะจริงจัง ประหนึ่งไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า โซนใหม่ของที่นี่ บริการอาหารเช้า ประเภทไข่กระทะ ไปจนถึงอาหารจานหลัก สาวๆ อยากชิมขนมกับเครื่องดื่ม ส่วนหนุ่มๆ ก็อยากกินเนื้อย่างแซ่บ สั่งไปสั่งมาก็เลยเยอะอย่างที่เห็นเดินเล่นรอบๆ ก็ไปสะดุดตากับห้องน้ำ ที่นอกจากจะใหม่แล้วยังใหญ่บิ๊กบึ้ม ส่วนด้านนอกก็มีชิงช้าให้นั่งเล่นกันแบบนี้ ถ้าครอบครัวไหนมีเด็กๆ ก็มีโซนสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยให้เด็กๆ ถ่ายภาพกันด้วย
ออกจากร้าน Kays ก็แวะแลนด์มาร์ค จันทบุรี ทั้งโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล และชุมชนจันทบูร โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน จันทร์-เสาร์ เวลา 08.30-16.30 น. (พักเที่ยง 12.00-13.00 น.) วันอาทิตย์ เปิดเวลา 12.00-16.30 น. ไม่เสียค่าเข้าชม แต่ต้องแต่งกายสุภาพ และโพสต์ท่าถ่ายภาพด้วยกิริยาสำรวม เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เดินเก็บภาพด้านหน้าโบสถ์เสร็จแล้ว ก็ข้ามสะพานปูนที่อยู่ใกล้กัน ข้ามไปยังชุมชนริมน้ำจันทบูร เพื่อไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนแถวนี้กันที่นี่มีร้านดังหลายร้าน อย่างร้าน เจ๊อี๊ด ที่มีเมนูฮอตอย่าง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล แต่ด้วยความที่เรามาถึงเกือบสี่โมงเย็น ร้านก็เลยปิดไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เดินเล่นหาซื้อขนมโบราณกันดีกว่า อาคารบ้านเรือน บ้านไม้โบราณที่ยังคงมีเสน่ห์ เราเชื่อว่าสายฮิปหลายคนคงจะชอบมุมถ่ายภาพเก๋ๆ ของชุมชนนี้ ขนมของชุมชนนี้ที่เด่นๆ ก็คือ ขนมไข่กรอบ และ ขนมโก๋ ที่อยู่คู่กับตลาดแห่งนี้มายาวนาน
มองเข้าไปในร้าน At Rimnam Chan เราว่ามันน่าจะมีมุมดีๆ ของโบสถ์และสะพาน ก็เลยขอเข้าไปถ่ายภาพสวยๆ จะกินข้าว ท้องก็ยังอิ่มอยู่ เจ้าของร้านก็ใจดี ให้เราแวะไปถ่ายภาพสวยๆ ได้ตามสบาย และนี่คือ วิวสุดว้าวด้านหลังร้าน นี่ถ้าไม่ติดว่ายังอิ่มอยู่คงนั่งเล่น นั่งกินข้าวที่ร้านนี้
เดินเล่นถ่ายรูปมุมสตรีทอาร์ตจนถึงช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็น แวะเติมพลังก่อนกลับ กรุงเทพฯ กันที่ร้าน ต้มยำเส้น เพราะแน่ใจว่ารถติดแน่นอน สั่ง 4 อย่างไม่ซ้ำกัน ทั้ง ข้าวราดไข่ข้นต้มยำทะเล, มาม่าทะเลไข่ตอก, ข้าวหน้าทะเล+ไข่+น้ำจิ้มพริกเกลือ, มาม่าหมูลอยไข่ตอก

กว่าจะได้ออกจากจันทบุรีก็เกือบจะมืด จะว่าเหนื่อยก็เหนื่อย จะว่าสนุกก็สนุก และที่แน่ๆ กินกันทั้งทริปแบบไม่กลัวอ้วนกันเลย กลับไปแล้วค่อยลดก็แล้วกันนะ (มุกนี้พวกเราใช้บ่อย 555) ทริป 3 วัน 2 คืน ของพวกเราหมดไปอย่างรวดเร็ว ตลอดทางมีวีรกรรมความฮาให้เราได้หัวเราะกัน ช่วงเวลาของการท่องเที่ยวมันก็จะมีความสุขแบบนี้ทุกที ทริปต่อไปค่อยมาคิดกันใหม่ว่า รอบหน้าจะไปเที่ยวไหนกันดี! ต้องขอบคุณน้องๆ เพื่อนร่วมทางที่ไปเที่ยวด้วยกันแบบไม่เหน็ดไม่เหนื่อย โดยเฉพาะตอนกินก็เต็มที่แบบไม่มีใครห้ามใคร และต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทางอย่าง รถเช่า AVIS ที่ไปกับเราทุกที่ หลังจากใช้บริการมาหลายครั้งก็ยิ่งสะดวกสบาย รับรถก็ง่าย โทร.จองไว้ก่อน จะยกเลิกก็ไม่เสียตังค์ เจ๋งป่ะล่ะ! ใครอยากเช่ารถไปเที่ยวแบบเรา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AVIS Thailand แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าจ้า





Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED