Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

3 วัน 2 คืน เที่ยว พัทลุง 4 มิติ ทั้ง เขา-ป่า-นา-เล

3 วัน 2 คืน เที่ยว พัทลุง 4 มิติ ทั้ง เขา-ป่า-นา-เล


นานๆ จะได้ลงใต้กับเค้าสักที พอมีโอกาสแวะไปหาเพื่อนที่พัทลุง ก็เลยวางแผนเที่ยวเต็มที่ ตั้งใจว่ารอบนี้ขอหนีรถติด หนีความวุ่นวายในกรุงเทพฯ ไปเที่ยว ไปพักสมอง ไปพักผ่อนกันแบบจริงๆ จังๆ กับเค้าสักที

เพื่อนลิสต์ที่เที่ยวเด่นๆ มาให้แล้วบอกว่า ไปเที่ยวพัทลุงรอบนี้มีอะไรเด็ดๆ เพียบ เดี๋ยวจะพาไปใกล้ชิดธรรมชาติ ไปสัมผัสวิถีชาวนา ไปดูนก เข้าป่า ไปล่องเรือออกทะเล...โอ้โห...ไม่น่าเชื่อเลยว่า พัทลุงจังหวัดเดียวจะมีที่เที่ยวครบทุกแนวขนาดนี้ และนี่คือ ที่เที่ยวที่เราแวะไป ที่แรกคือ บ้านขาม...สายน้ำมีชีวิต แวะไปคั่วกาแฟในสวนยางที่โรงคั่วบ้านป่า ไปดูสะพานที่ยาวที่สุดในเมืองไทย สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 
ออกไปล่องเรือ ดูยอยักษ์และทุ่งบัวแดง ที่คลองปากประ-ทะเลน้อย
ไปชิมเปียกสาคู ที่ทำมาจากสาคูต้น ของดีเมืองพัทลุง ที่ร้านขนมหวานป้ากี้ ไปสัมผัสวิถีชาวนาที่นาโปแกไปเดินเล่น เดินช้อป ตลาดป่าไผ่ สร้างสุข ตลาดชุมชน ลดสิ่งแวดล้อม เราจะค่อยๆ เล่าให้ฟังว่า แต่ละที่มีอะไรน่าสนใจบ้าง...3 วัน 2 คืน หลังจากนี้ ขอพักเรื่องเครียดๆ มาเน้นกิน เน้นเที่ยว ให้ครบทั้ง เขา ป่า นา เล...เตรียมตัวมาพร้อมมาก ลงเครื่องปุ๊บ ก็พร้อมเที่ยวทันที การเดินทางมาพัทลุงมาได้หลายเส้นทาง ทั้งจากหาดใหญ่ (สงขลา), นครศรีธรรมราช หรือจะมาจากจังหวัดตรังก็ได้ พวกเราเดินทางจากกรุงเทพฯ สะดวกสุดก็ลงเครื่องที่สนามบินตรัง ขับรถต่อไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เข้าเขตจังหวัดพัทลุง 
 

DAY 1


เราเดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง 10.05 น. ถึงสนามบินตรัง 11.40 น. ตรงเวลาเป๊ะ พอลงเครื่องปุ๊บ รับกระเป๋า ก็เดินตรงไปที่เคาท์เตอร์รถเช่า AVIS ทันที (เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา) รับรถเสร็จ ระหว่างหาข้าวกลางวันกินกันง่ายๆ แล้วมุ่งหน้าไปที่ บ้านขาม...สายน้ำมีชีวิต ซึ่งตั้งอยู่ที่ ม.7 บ้านขาม ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง น้ำใสๆ ที่ไหลผ่านมายังหมู่บ้านมีแหล่งต้นน้ำมาจากเทือกเขาบรรทัด ชาวบ้านเค้าก็เลยพร้อมใจกันอนุรักษ์สายน้ำแห่งนี้ แล้วปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว...ต้นไม้ใหญ่และป่าไผ่ แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาไปทั่วบริเวณ...จะเดินลุยน้ำเล่น จะนั่งชิงช้า นั่งห้อยขา นั่งตรงไหนก็เย็นสบาย แวะมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อาจจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวกันในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ พอเราแวะมาวันธรรมดาแบบนี้ ก็เลยทำให้รู้สึกว่า สายน้ำแห่งนี้เป็นของเรา...พอได้แช่ขาในน้ำเย็นๆ นั่งฟังเสียงน้ำ เสียงนก...เราก็เลยชิลล์กันตั้งแต่ที่แรก จาก บ้านขาม...สายน้ำมีชีวิต แวะไปจิบกาแฟกันต่อที่ โรงคั่วบ้านป่า จะไป #คั่วกาแฟแลป่ายาง ตามสโลแกนของร้าน ขับรถตรงไปที่ตำบลบ้านนา เข้าซอยไปประมาณกิโลกว่าๆ ก็จะถึงร้านกาแฟเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนยาง การแวะมาจิบกาแฟที่โรงคั่วบ้านป่า ไม่ใช่แค่สั่งกาแฟแล้วมีคนนำมาเสิร์ฟ แต่เราจะได้ลงมือคั่วเมล็ดกาแฟแบบ DIY ทางร้านจะเตรียมเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าเอาไว้ให้ ส่วนเราก็ค่อยๆ คั่วเมล็ดกาแฟช้าๆ แบบสโลว์ไลฟ์ เมล็ดกาแฟจะค่อยๆ เปลี่ยนสี ค่อยๆ เข้มขึ้นทีละน้อยๆ จากนั้นก็นำไปบด แล้วชงด้วยเครื่องชง Moka Pot รอแค่อึดใจเดียวก็จะได้กาแฟดำ...หอมกรุ่น...คนรักกาแฟส่วนใหญ่ชอบมาที่นี่เพราะได้ลงมือทำเอง นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คั่วกาแฟ บดเอง ชงเอง มันรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าใครไม่ดื่มกาแฟก็แวะมาได้นะ เค้าก็มีชาเชียว ชาเย็น และชาร้อนจากดอกกาแฟ เอาไว้ทานคู่กับหมั่นโถวทอดจิ้มนมข้นหวาน แต่ถ้ามาเสาร์-อาทิตย์ จะมีขนมไทยมาเสริมทัพด้วย เจ้าของร้านบอกว่า นอกจากจะมีโซนจิบกาแฟหน้าบ้านแล้ว หลังบ้านมีที่จิบกาแฟริมน้ำตก พอเดินไปถึงก็เซอร์ไพรส์กับวิวริมน้ำ เพราะนอกจากจะมีลมเย็นๆ มาปะทะหน้าแล้ว ยังได้ยินเสียงธารน้ำที่ไหลผ่าน เหล่าฝูงนกก็พร้อมใจกันส่งเสียงทักทาย สมกับเป็นโรงคั่วบ้านป่าจริงๆโรงคั่วบ้านป่า
ที่อยู่ : 21/3 ม.9 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
เปิดเวลา 09.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
โทร. 0 8108 24387
Facebook : โรงคั่วบ้านป่า
GPS : https://goo.gl/WQoUqb

หลังจากปล่อยใจให้สโลว์ไลฟ์ไปกับโรงคั่วบ้านป่า ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อไปยัง สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ความยาวประมาณ 5.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 เชื่อมการเดินทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา โปรเจค "เขาเล่าว่า" ของ ททท. บอกไว้ว่า ที่นี่คือ “ สะพานแห่งความสุข เพราะสองข้างทางเราจะได้เห็นความงดงามของธรรมชาติอันสมบูรณ์ ได้เห็นวิถีชาวประมง ฝูงควายออกมาอาบน้ำ-กินหญ้า ฝูงนกออกมาหาอาหาร และการได้ยืนมองธรรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ ความเหนื่อยล้าที่มีจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความสุข ” พอเราได้มายืน ณ จุดนี้ มันก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ...ดูเหมือนว่าเราจะตกหลุมรักเมืองเล็กๆ อย่างพัทลุงเข้าแล้วล่ะสิ บนสะพานที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา มีจุดพักรถให้เราแวะเก็บภาพและซึมซับไปกับธรรมชาติ เราจะได้เห็นบรรยากาศการล่องเรือท่องเที่ยว ได้เห็นฝูงนก และได้เห็นชาวประมงออกเรือหาปลายามเย็น นอกจากจะมีจุดชมวิว ยังมีเลนสำหรับจักรยานไว้เอาใจนักปั่นให้ได้ออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับการชื่นชมธรรมชาติสองข้างทางวิวบนสะพานนับเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง แต่ต้องลุ้นกับฟ้าฝนกันสักนิดนึง ถ้าโชคดีเจอวันฟ้าเปิด ก็จะได้ภาพฟ้าสลับสี แต่เราได้มาแค่นี้เพราะฝนกำลังจะตกในอีกไม่ช้า หลังจากเที่ยวกันมาทั้งวัน ก็ได้เวลากลับเข้าที่พัก คืนแรกเรานอนกันที่ My Resort By Larn Ta Chu (มายรีสอร์ท บาย หลานตาชู) บ้านพักส่วนตัว ริมยอยักษ์แห่งปากประ แอบเสียดายนิดหน่อย เพราะตอนที่เราไปถึงฝนตกลงมาค่อนข้างหนัก ภาพวิวยอกับฟ้าสีส้มๆ ที่หวังไว้ก็เลยไม่ได้เห็น บ้านพักหลังนี้มี 2 ห้องนอน เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย มีพื้นที่ส่วนกลาง มีห้องครัว หรูหราด้วยอ่างอาบน้ำจากุสซี่ รอบๆ บ้านตกแต่งด้วยระจกบานทำใหญ่ให้เราได้มองวิวยอจากห้องนอน นี่ถ้าเมื่อวานเราได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็คงจะดี มาเที่ยวหน้าฝนแบบนี้ก็เลยต้องทำใจ (ฝนตกแทบทุกวัน)


 

DAY 2


เช้าวันที่ 2 พวกเรามีนัดกับคนขับเรือตอนหกโมงเช้า ไปล่องเรือดูยอยักษ์ ไปดูนก ไปเที่ยวทุ่งบัวแดง...คนขับเรือบอกว่า เราจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง อยากแวะถ่ายรูปตรงไหนก็บอกได้นะคร๊าบ 
จุดแรก...แวะไปดูยอยักษ์แห่งคลองปากประ ไปสัมผัสวิถีชาวประมงที่ยังคงหาปลาด้วยการยกยอแบบโบราณ ยอที่เรียงรายอยู่นั้นเหมือนเป็นศิลปะกลางสายน้ำ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก วันไหนฟ้าเป็นใจก็จะได้เห็นฟ้าสลับสี ซึ่งเสน่ห์เหล่านี้นับเป็นความสวยงามตามธรรมชาติที่โด่งดังไกลจนใครๆ ก็อยากแวะมา จากคลองปากประ แวะดูต้นลำพูที่เด่นเป็นสง่าอยู่กลางสายน้ำ แล้วก็มุ่งหน้าไปดูควายน้ำ แต่น่าเสียดาย! ตอนเราไปถึงควายกลับขึ้นฝั่งไปแล้ว (โอ๊ย! รู้สึกพลาดเป็นครั้งที่ 2) แต่ก็ไม่เป็นไร ออกล่องเรือกันต่อ ไปดูทุ่งบัวแดงกัน ถ้าจะถามว่าความแตกต่างของทุ่งบัวแดงทะเลน้อย พัทลุง แตกต่างจากทุ่งบัวแดงที่อื่นตรงไหน บอกได้เลยว่า ระหว่างการล่องเรือ เราจะได้เห็นชาวประมงยกยอและออกเรือไปหาปลา ได้เห็นธรรมชาติของนกชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นกอีโก้ง, นกยางเปีย, นกเป็ดน้ำ, นกกาน้ำ, นกกระสา ที่ออกมาบินหาอาหาร บางตัวก็ยืนกางปีกผึ่งลมอย่างสบายใจ ภาพเหล่านี้นี่แหละที่เป็นเสน่ห์ของทะเลน้อย...ที่บ่งบอกว่าธรรมชาติของที่นี่ยังคงอุดมสมบูรณ์ หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศของทะเลน้อย กินอาหารเช้าง่ายๆ แถวชุมชนใกล้ๆ จากนั้นก็ได้เวลาเก็บของออกเดินทางไปชิมขนมไทยเจ้าดังแห่งพัทลุงร้านขนมหวานป้ากี้ อยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 4048 ไม่ไกลจากเทศบาลมะกอกเหนือ ห่างจากทะเลน้อยประมาณ 8 กม. มาร้านนี้ต้องไม่พลาด สาคูเปียก ที่ทำมาจากสาคูต้น เป็นสาคูแท้ของเด็ดเมืองพัทลุง มีที่นี่ที่เดียว นอกจากสาคูเปียกอันเป็นไฮไลท์แล้วยังมี เปียกเหนียวดำ กะทิสด, ข้าวโพดเปียก, รวมมิตร, แกงบวดข้าวโพด, แกงบวดลูกเดือย, กล้วยเชื่อม, มันเชื่อม, พุทราเชื่อม ราคามิตรภาพ แค่ถ้วยละ 10 บาท ขนมหวานที่นี่ อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆร้านขนมหวานป้ากี้ 
ที่อยู่ : ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
เปิดทุกวัน 10.00-17.00 น. 
โทร. 0 7467 2352, 08 5893 8739

จากร้านขนมหวาน เปลี่ยนอารมณ์มาแวะเที่ยว “นาโปแก” จุดเช็คอินแห่งใหม่ ที่จะพาเราย้อนวัยไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวนาแบบโบราณ“นาโปแก” แปลว่า นาของปู่ เป็นที่เที่ยวที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ มีมุมถ่ายภาพวิวทุ่งนาเก๋ๆ มีโซนสาธิตการทำข้าวซ้อมมือโบราณ และในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะมีการสาธิตการทำนา การไถนาด้วยควาย นอกจากจะเหมาะกับแวะมาเดินเล่นบนสะพานไม้ นั่งชิลล์กระท่อมปลายนา เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เค้ายังมีบ้านพักสไตล์กระท่องปลายนา ไว้ให้เราได้ซึมซับวิถีชาวนาอย่างลึกซึ้ง

นาโปแก
ที่อยู่ : ถนนควนขนุน-ทะเลน้อย ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ. พัทลุง 
ราคาห้องพัก : 1500 บาท / ต่อห้อง
เปิดทุกวัน : เวลา 08.30-18.30 น.
โทร. 06 2591 6632 
Facebook : นาโปแก
พิกัด : https://goo.gl/RN95vW 

จากนาโปแกมุ่งหน้าไป ล่องแก่งชมดาว เก็บของเข้าที่พัก แล้วเตรียมตัวไปล่องแก่งกัน ทางรีสอร์ทจะเตรียมเรือคายัค เสื้อชูชีพและหมวกกันน็อคไว้ให้ แล้วพาเราขึ้นรถกระบะไปยังจุดสตาร์ท บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส จากนั้นค่อยๆ ปล่อยตัว ล่องไปตามคลองห้วยน้ำใส ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เรือคายัคนั่งได้ 2 คน แม้เราจะต้องพายเอง แต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะแต่ละจุดมีสตาฟคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จุดเด่นของการล่องแก่งในเขตอำเภอป่าพะยอม คือ การล่องไปตามคลองธรรมชาติ น้ำใสสะอาด ป่าไม้สองข้างทางอุดมสมบูรณ์ น้ำไม่แรง ไม่อันตราย เด็ก 7 ขวบขึ้นไปเล่นได้สบายๆ และถ้ายังไม่จุใจยังกลับมาเล่นน้ำมาเล่นสไลเดอร์กันต่อที่หลังรีสอร์ทก็ยังได้ วันนี้ทั้งล่องเรือ ทั้งล่องแก่ง ทั้งเล่นน้ำ เหนื่อยกันมาทั้งวัน มื้อค่ำเลยไม่มีแรงออกไปไหน ก็เลยสั่งอาหารง่ายๆ กินกันที่ครัวชมดาวอ่านรีวิวฉบับเต็ม ล่องแก่งชมดาว คลิก! https://goo.gl/kFoi7q 

ล่องแก่งชมดาว
ที่อยู่ : 61/1 ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
ครัวชมดาว เปิดทุกวัน 09.00-18.00 น.
โทร. 08 08677619, 08 3399 8910
Facebook : ล่องแก่งชมดาว พัทลุง
GPS : https://goo.gl/SaNoyj


 

DAY 3

ออกจากที่พักตั้งแต่เช้า ไปเดิน ตลาดป่าไผ่ สร้างสุข ตลาดชุมชนที่เปิดเฉพาะวันเสาร์ ชาวบ้านจะพร้อมใจกันนำอาหารคาว หวาน ผัก ผลไม้ และของฝาก มาวางขายกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารถิ่น และขนมโบราณ และมีการแสดงพื้นบ้านจากน้องๆ นักเรียน ทั้งการแสดงดนตรีและการแสดงมโนราห์
3 ไฮไลท์ที่จะพบได้ในตลาดแห่งนี้ ก็คือ 
- น้ำผลไม้ จะเสิร์ฟมาในกระบอกไม้ไผ่ เน้นวัฒนธรรมน้ำยกซดลดหลอด เพื่อเป็นการลดขยะ
- ของคาว ของหวาน แต่ละร้านจะใช้ใบตอง-ใบบัว ใช้จาน-ชาม งดใช้กล่องโฟม
- ไม่มีถังขยะวางตามจุดต่างๆ แต่จะใช้วัฒนธรรมคืนขยะให้กับร้านผู้ผลิต กินเสร็จก็เดินกลับไปคืนให้แม่ค้า (ฝากทิ้งขยะได้ทุกร้าน)ทุกๆ ครั้งที่เราไปต่างจังหวัดก็จะชอบไปเดินตลาดชุมชนแบบนี้ เพราะเราจะได้เห็นวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งเรื่องอาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ จะรู้สึกได้เลยว่าเงินร้อยบาทซื้ออะไรได้หลายอย่าง แม่ค้าก็ดูมีความสุข ลูกค้าก็ซื้อของกันสนุกสนานตลาดป่าไผ่ สร้างสุข
ที่อยู่ : 58 หมู่ที่ 10 ต ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
เปิดเฉพาะวันเสาร์ เวลา 08.00-17.00 น.
โทร. 08 5065 4480
Facebook : ป่าไผ่สร้างสุข โดยเครือข่ายกินดีมีสุข จ.พัทลุง

หลังจากที่เที่ยวมาอย่างจุใจ ก่อนกลับขอแวะชิมร้านดังประจำจังหวัด อย่างร้านหลานตาชูกันสักหน่อย เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง 
หลานตาชูสเต็กเฮ้าส์ เปิดมานานกว่า 20 ปี ที่นี่มีทั้งสเต็ก อาหารใต้ อาหารญี่ปุ่น และเค้ก มีโซนทานอาหารทั้งอินดอร์ เอาท์ดอร์ และโซนจัดเลี้ยง พร้อมที่จอดรถอันแสนสะดวกสบายเมนูแนะนำ ก็คือ ปลาตะเพียนไร้ก้างทอดราดน้ำปลา ทอดมาแบบหนังกรอบ ทานคู่กับน้ำยำมะม่วง หมดกังวลเรื่องก้างปลาตะเพียนไปได้เลยขาหมูหลานตาชูทอด ขาหมูเนื้อแน่น ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน สูตรเฉพาะของร้านหลานตาชูแกงส้มปลานวลจันทร์มันขี้หนู อาหารถิ่นรสจัดจ้าน อร่อยถึงเครื่องพริกแกงใต้ สัมผัสได้ถึงความสดของเนื้อปลาชิ้นโตไส้กรอกเยอรมันย่างรวม 4 แบบ มาพร้อมมันบดและซอส 2 รสชาติบาร์บีคิวหมูพริกไทยดำ โดดเด่นด้วยรสชาติความนุ่มของเนื้อหมูที่อร่อยแบบเข้าเนื้อ และดีไซน์การแต่งจานที่ตื่นตาตื่นใจหลานตาชู สาขา ควนขนุน
ที่อยู่ : 221 ม.9 ต.โตนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 
เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 07.00-22.00 น.
โทร. 08 0869 8175
Facebook : หลานตาชูสเต็กเฮ้าส์ - Larn Ta Chu Steakhouse
GPS : https://goo.gl/2i1a9U

ทริป 3 วัน 2 คืน ในการมาเยือนพัทลุงครั้งแรกทำให้เรารู้สึกอินไปกับธรรมชาติและสายน้ำ ทั้งบ้านขาม...สายน้ำมีชีวิต, โรงคั่วบ้านป่า, สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, ทะเลน้อย, นาโปแก, ล่องแก่งชมดาว และตลาดป่าไผ่ 

การได้ชิมสาคูต้นครั้งแรกที่ร้านป้ากี้ ก็รู้สึกประทับใจจนต้องซื้อสาคูต้นติดมือมากลับมาด้วย แต่จะทำออกมาอร่อยเหมือนที่ป้ากี้ทำหรือเปล่า อันนี้ต้องมาลุ้นกัน 

พัทลุง ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะ ทั้งหลาดใต้โหนด, ธารน้ำหูแร่, ถ้ำน้ำเย็น-บ่อน้ำร้อน เขาชัยสน, เขาอกทะลุ, สถานีกงหรา, จุดชมวิวควนนกเต้น รวมถึงร้านกาแฟวิวดีอย่างร้าน ขนำคอฟฟี่ และยังมีน้ำตกที่น่าสนใจอีกหลายที่...แน่นอนว่า มาครั้งเดียวจะเที่ยวให้ครบก็คงต้องเวลาเยอะกว่านี้ เอาเป็นว่ารอบนี้ขอเที่ยวพอเป็นน้ำจิ้มก่อน แล้วเราค่อยหาโอกาสกลับมาใหม่...
ยิ่งตอนนี้ การวางแผนเที่ยวของเราง่ายขึ้น เพราะนอกจากจะเดินทางง่ายด้วยเครื่องบินแล้ว ยังมีรถเช่าไว้เป็นตัวช่วย ลงจากสนามบินปุ๊บก็รับรถเช่า AVIS ปั๊บ ขั้นตอนการรับรถก็ไม่ยุ่งยาก ทั้งสะดวกและประหยัดเวลา 
การมาเที่ยวภาคใต้มีรถเช่า AVIS หลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น สนามบินตรัง, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, สมุย, ภูเก็ต, ระนอง, และหาดใหญ่ (สงขลา) เวลาคืนรถก็ไม่ต้องกังวล เพราะเค้ายืดหยุ่นให้เราคืนรถช้าได้ 4 ชั่วโมง ถ้าอยากเที่ยวง่าย สะดวกสบายเหมือนเราก็ตามไปอ่านรายละเอียดรถเช่า AVIS ได้ที่ http://www.avisthailand.com/EN/index.php                                                                                                                                                     






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED