Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

backpack โหดมันฮา สวัสดีกัมพูชา ฉันจะพาไปทะเล

backpack โหดมันฮา สวัสดีกัมพูชา ฉันจะพาไปทะเล


ถ้าพูดถึงเขมร คงจะนึกถึงนครวัด-นครธม หรือ พนมเปญแต่ทริปนี้เราไม่มีนะ เราอยากไปทะเลเราแค่อยากไปดู ไปเห็นกับตาว่าทะเลประเทศเพื่อนบ้านจะหน้าตาเป็นยังไง
เป็นครั้งที่สองที่มาประเทศกัมพูชาและก็มาช่วงปีใหม่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าติดใจอะไรทริปนี้เลยจะเอาทะเลเขมรอย่างเดียว
เป้าหมายของเราคือเกาะรง(koh rong)จังหวัดสีหนุวิลล์ (Sihanoukville)ประเทศกัมพูชา (Cambodia)

จากการหาข้อมูลแล้วกรุงเทพ ไป ทะเลเกาะรง ประเทศกัมพูชา หาไม่ได้เลยจ้าาาาาาไม่รู้ว่าไม่มีใครไปเพราะไม่สวยหรือไม่รู้จัก หรือเราหาไม่เจอ หรือยังไง (เราหาก่อนไป3วัน) - -“ มันเลยไม่ใช่ทริปชิกๆคูลๆ เป็นไกด์เดินทางสำหรับใครๆก็ไม่ได้ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้นเราก็มั่วมาเหมือนกัน โดนหลอกมาก็เยอะ คิดเงินก็ไม่ทัน ตกรถ กลับบ้านไม่ได้ แถมยังมาเจอคนแปลกๆอีกมีการเดินทางที่ง่ายกว่านี้ แต่เราก็เลือกที่จะมาแบบนี้ โอเคนะ แต่มันก็น่าจะมีประโยชน์กับใครๆบ้างแหละ เนอะๆ
------------------------------
ก่อนไป เราหลอกน้องที่ออฟฟิศมาได้คนนึง เอาไปเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม 555สรุปทริปนี้มี 2 ชะนีปกติปีใหม่ต้องกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ ขอหนีพ่อแม่ไปปีใหม่ที่แคมโบเดียนะคะ

เราชื่อต้นอ้อ แต่ถูกเรียกว่า พี่ต้น - -"ส่วนอีกนางชื่อเม็ดนุ่น แต่เรียกนางว่าเม็ดก็พอ:}

เรากะไปแค่ 5 วัน (28DEC14-1JAN15) (แต่ทำไม่ได้ เพราะอะไรเดี๋ยวค่อยเล่านะ)โดยจะแบ่งเป็น 5 ภารกิจ 2 ตอน
ไม่เคยไปมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องไปยังไง ความรู้น้อยมากรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมส์ เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ เมล็ดค่อยๆผ่านด่านไปเรื่อยๆ หรือมันคือ ไปตายเอาดาบหน้า 555
ตอน 1 “ON THE WAY"mission 1 : กรุงเทพ ไป ตราดmission 2 : ตราด ไป เกาะกงmission 3 : เกาะกง ไป สีหนุวิลล์(Sihanouk Ville) http://pantip.com/topic/33340443/comment1
ตอน 2 “ KOH RONG HERE WE ARE"mission 4 : สีหนุวิลล์ ไปเกาะรง - COUNTDOWN ปีใหม่ที่นี่แหละmission 5 : เกาะรง กลับ กรุงเทพ อย่างปลอดภัย (หราาาาา) http://pantip.com/topic/33340443/comment74

ตอนนี้รวมตอน 1-2 ไว้ในกระทู้เดียวกันค่ะขี้เกียจเปลี่ยนหน้าไปมา แหะๆขอเตือนไว้ก่อนนะ ว่ากระทู้นี้ยาววววววว 555

-002 mission 1 : กรุงเทพ ไป ตราด
โหยย ภารกิจแรกนี้โคตรง่ายเลยเมื่อคืนมีงานไม่ได้นอนหรอ มันไม่ใช่ปัญหาค่ะไว้ไปหลับบนรถเอาแล้วกัน
เรานัดกันที่ท่ารถตู้อนุสเสาวรีย์ 7 โมงเช้าซื้อตั๋ว ละก็ขึ้นรถตรงไป บขส ตราดเลย
จบด่านแรกสบ๊ายยย
-003 mission 2 : ตราด ไป เกาะกง
พอถึงบขส ตราด ก็สบายใจเฉิบ เดินถามหารถไปด่านชายแดนเค้าบอกว่า ให้รอที่ชานชาลา13 ได้เลยย ไปด่านตรวจคนเข้าเมืองบ้านหาดเล็กพอรู้ว่ามีรถตู้ออกตลอดเท่านั้นแหละ เมล็ด ผู้ที่เอากล้องฟิล์มมาแต่นางลืมซื้อฟิล์มเลยนั่งพี่วินมอไซด์ไปโลตัสใกล้ๆปรากฎว่าก็ไม่มีฟิล์มอีก นางเลยได้ซื้อ GoPro ปลอมมาแทน (มันแทนกันได้จริงๆหรอ)แถมชิลสลัด ตากแอร์ เดินชอป กินเคเอฟซี ในโลตัสนั้นแหละ
“เมล็ดคะ ไปกันได้รึยังวะคะเดี๋ยวตกรถที่เกาะกง”
แล้วเรากับเม็ด ก็รีบนั่งพี่วินกลับไปบขสและขึ้นรถตู้ไปด่านชายแดน ประมาณ 1 ชม

บ้านหาดเล็ก เป็นจุดที่แคบที่สุดของประเทศไทยและเป็นเมืองสุดท้ายในภาคตะวันออกคือถ้ามองจากแผนที่เนี่ย เหมือนกับเมืองนี้อยู่ในเขตกัมพูชาแล้วเพราะเป็นติ่งสุดท้ายของประเทศไทยพอดี

-004 ณ ด่านชายแดน ไทย-กัมพูชา
พอไปถึงนะ โอ้โหวววววชอตแรก ยังไม่ทันเปิดประตูรถตู้ ก็มีคนข้างนอกมารุมเกาะกระจกส่องๆเข้ามาแล้วอารมณ์ประมาณวันสงกรานแล้วเรานั่งอยู่ในรถที่มีคนข้างนอกพยามจะส่องเข้ามาปะแป้ง นึกออกใช่มั้ย ตอนลงไม่ต้องพูดถึง พี่แกหยิบกระเป๋าออกจากมือ เอาไปวางบนรถเข็นพี่แกเลยคือน่ากลัวมาก พี่แกจะเข็นของไปส่งที่ด่านให้ แต่ไม่ต้องก็ได้มั้งคะ กระเป๋าใบเดียวเอง สะพายได้ค่ะพี่เราสองคนหยิบกะเป๋าจากรถเข็น แล้วก็รีบเดินจั้มออกมา มุ่งไปที่ตม.
ทำเรื่องยื่นพาสปอตข้ามประเทศตม. เขมร ขอเก็บค่าอะไรก็ไม่รู้ คนละ 200โหย น้องไม่มีเงินค่ะพี่ "อ๊อดเมียนโร้ยๆ" (ภาษาเขมรแปลว่าไม่มีตัง)และจากการเข้าเสียมเรียบครั้งที่แล้วเราโดนเก็บแค่ 100 นึงก็เลยหยิบแบงค์ร้อยวางแล้วเดินดุ่มออกมาเลย(เดาว่าเงินเข้ากระเป๋าตม.ค่ะ)
นี่เราเหยียบแผ่นดินประเทศเขมรอย่างเต็มตัวแล้วสินะการเดินทางของจริงมันกำลังจะเริ่มขึ้นภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่องเมืองที่เราไม่รู้จักเราจะเอ๋ออยู่ในเขมรถึง 5 วันหลังจากนี้ นึกภาพตัวเองไม่ออกเลยแต่ก็ลุยว๊อยยย!
-005 mission 3 : เกาะกง ไป สีหนุวิวล์
ก่อนอื่น เราต้องหารถเข้าเมือง เพราะจากด่านเข้าเกาะกงค่อนข้างไกลหลังจากทำเรื่องเสร็จ เดินลงบันไดออกมาเท่านั้นแหละกลุ่มชายฉกรรประมาณ 5-6 เข้ามารุม"ไปรถยนต์มั้ย แอร์เย็นๆ"พอไม่เอารถยนต์ ปฏิเสธไปว่ามันแพงดันมีมอไซด์มาขายอีก คนละร้อยเราว่ามันไม่น่าแพงขนาดนั้น เคยอ่านมามันแค่50บาทหลังจากโดนวินมอไซด์รุมก็มีพี่วินขี่ม้าขาว ขี่มอไซด์แทรกเข้ามาบอกว่า 100นึง 2 คนเราสองคนเลยรีบขึ้นไปซ้อน 3 แล้วบึ่งออกไปเลยจังหวะนั้น ดีใจมากค่ะ หลุดออกจากดรงนั้นได้ซักที
ระหว่างทาง มีคาสิโนและโรงแรมหรูหรามากมายและยังมีซาฟารีด้วย แต่เราไม่ได้เข้าไปหรอก จุดหมายเราไม่ได้อยู่ที่นี่(ถ้ามากับแม่ว่าไปอย่าง จะพาแม่เข้าคาสิโน ฮ่าๆๆ)ก่อนจะเข้าเมืองเกาะกงนั้น จะได้ข้ามสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศกัมพูชาประมาน 2 กิโลเมตร สร้างโดยบริษัทเอกชน เค้าเก็บตังค่าข้ามด้วยนะเออแต่พี่มอไซด์เราจ่ายให้
เกาะกง เป็นชื่อจังหวัดของกัมพูชา ไม่ใช่เกาะอย่างที่เคยเข้าใจแต่ในจังหวัดเกาะกงจะมีเกาะกงจริงๆอยู่ เรียกว่า เกาะกง Islandเกาะกงเคยเป็นเมืองหนึ่งของประเทศไทยด้วยนะแต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศไทย กัมพูชา ฝรั่งเศษทำให้พื้นที่นี้เป็นของกัมพูชา ณ ปัจจุบัน (ข้อมูลไม่แน่นค่ะ)
-006 เราบอกพี่วินไปส่งที่ท่าขึ้นรถไปสีหนุวิวล์ แต่ที่เค้ามาส่ง ไม่ใช่ที่ บขส นะ เหมือนเป็นบริษัทรถทัวร์
พอมาถึง ก็จ่ายแบงค์ร้อยไป พี่วินบอกเอามาอีกร้อยนึง (พูดไทยได้)อ้าววว อีนี่พี่บอกว่า 2 คน 100 นี่ ป่าว พี่แกบอกคนละ 100 นึง 2 คน 200!!!!
รู้งี้กุมาคนละคันดีกว่ามั้ย ไม่ต้องอัด 3 จนอิเม็ดแบนเป็นแซนด์วิชอย่างนี้แต่คนนี้เถียงไม่ได้ ยิ้มไม่ไปซักที เพราะจอดรถลงมารอเอาเงินเลยเลยจ่ายๆไป จากพี่วินขี่ม้าขาว กลายเป็นอีพี่วินหน้าเลือดในทันใด ชริ

หลังจากจ่ายเงินค่าอิพี่วินไป นางก็ขับออกไปเลยเราเดินเข้ามาถามที่ขายตั๋ว จะไปสีหนุห์วิลล์ หรือที่คนเขมรเรียกว่า กัมโปงสม
“โนแฮฟ ทูเดย์ โนแฮฟ” “ทูมอโร่หละ?”“ทูเดย์ โนแฮฟ ทูมอโร่ โนแฮฟ"
เอ่อ ตั๋วหมด"เค้าบอกว่าโนแฮฟตั๋วหวะ เอาไงดีวะกุว่าลองไป บขส ดูมั้ย มันน่าจะมีอีกหลายๆบริษัทอยู่ที่นั่นนะ"พูดแล้วก็แค้นอิพี่วินที่เอาเราสองคนมาทิ้งร้านที่ตั๋วหมด เพื่อออ....
"แล้วไปยังไงวะพี่????"
คือ เราก็ปริ้นแต่ลายแทงของสีหนุวิลล์มาไงแต่เกาะกงนี้ไม่คิดจะอยู่ เลยไม่ได้ปริ๊นหวะ

2 ชะนียืนเอ๋ออยู่ซักพักก็ออกเดินไม่รู้เดินไปไหน อะไรยังไง รู้แต่ตอนนี้อยู่แถวตลาดมีวินมอไซด์อยู่เป็นระยะมีตุ๊กๆขับผ่านไปมาตลอดมีคันนึงมาจอดข้างๆเราสองคน แล้วถามว่า
“ Where’re you going? Hotel? “เหนเราเงียบๆ ไม่ตอบอะไร ฮีเลยถามต่อ
“คนไท้ย?”
“YES!”
เราตอบเป็นภาษาอังกฤษ - -“แต่คนขับตุ๊กๆคันนี้พูดไทยได้ค่ะเราเลยตัดสินใจไป ถึงแม้จะเข็ดจากพี่วินคนก่อน แต่ทำไงได้อะโดยพี่เค้าบอกว่า ค่าโดยสารอะ แล้วแต่จะให้เลย
พี่ตุ๊กตุ๊กคันนี้ พาไป บขส เกาะกง ที่ซึ่งร้างและปล่าวเปลี่ยวมาก มีแต่หมานอนอยู่ตัวนึงจริงๆ พี่เค้าก็บอกก่อนแล้วแหละว่าตอนนี้มันไม่มีรถแล้วบ่าย 3 แล้ว แต่เราดันไม่เชื่อเค้าบอก ถ้าไปสีหนุวิลล์มีรอบสุดท้ายคือบ่ายโมง(ซึ่งตอนบ่ายโมงกำลังนั่งกินเคเอฟซีเพลินที่ตราดอยู่เลย 555 ใครมันชวนกินวะ ตกรถเลยเนี่ย)เค้าเลยพาไปซื้อตั๋วที่ท่ารถเจ้าอื่น เจ้าอื่นๆก็พากันโนแฮฟตั๋วหมดจนมาเจ้าสุดท้าย ได้รอบ 8โมงเช้าพรุ่งนี้ 400 บาทเจ้านี้เค้าบอกว่าแพงกว่าเจ้าอื่นๆนะ เพราะเป็นรถ "VIP"

หลังจากนั้นพี่ตุ๊กๆ ก็พาเราไปหาโรงแรม
-007 ที่หน้าโรงแรม APEX HOTELเรายื่นเงินให้พี่ตุ๊กๆ 50 บาทฮีทำหน้านอยด์ใส่ แล้วขอเพิ่มอีกอ้าว อีนี่ ไหนบอกว่าให้เท่าไหร่ก็ได้ไงเถียงกันไปมา พี่โรงแรมมาเคลียให้เราจ่ายเพิ่มอีก 20 บาทแล้วก็โบกมือลาไปซึ่งจริงๆแล้วมันจะเอาร้อยนึงทำไมเราต้องเป็นคนแพ้ตลอดฟะ!ทำไมนะ ทำไม
โรงแรมนี้ พี่ตุ๊กๆแนะนำว่าดีนะ ไวไฟแรง มีสระว่ายน้ำด้วยคือจริงๆก็ไม่รู้จะเอาสระว่ายน้ำทำไม กะพักแค่คืนเดียวเป็นทางผ่านเฉยๆแต่ก็โอนะ 400 บาทเอง (ขอจ่ายเป็นเงินไทย เพราะยังไม่แลกเงินมา)ห้องสะอาด เตียงนุ่ม บรรยากาศดี
หารู้ไม่ว่า หลังจากนี้จะต้องพบกับอะไรบ้าง ณ โรงแรมแห่งนี้!!!หึหึหึ

-008 พักผ่อนตามอัธยาศัยเราเอาของเข้าเก็บ แล้วออกมาเดินเล่นหาอะไรกินเดินไปจนสุดซอยจะเป็นถนนเรียบแม่น้ำมีสวนสาธารณะ สนามเด้กเล่น และร้านค้ามากมาย
ที่นี่ก็เป็นเหมือนแลนด์มาร์คริมน้ำ คล้ายๆริมโขงบ้านเรามีนักท่องเที่ยวบ้าง มีคนออกกำลังกายเด็กสะก๊อยและแว๊นเยอะหน่อย กำลังนั่งกินเบียอยู่ริมทางเป็นที่จีบกันของคู่รักแห่งเกาะกงเลย เราคิดว่างั้นนะบรรยากาศดี๊ดี

-009 อยากกินอาหารพื้นถิ่นเราสองคนตัดสินใจเข้าร้านอาหารหนึ่งริมแม่น้ำเพราะเห็นร้านนี้คนเยอะดี มีหม้อไฟตั้งอยู่กลางโต๊ะ น่าลองนะแก
เดินเข้าไปด้วยความเอ๋อ พูดภาษาอังกฤษก็ไม่มีใครเข้าใจภาษาไทยเค้าก็งงๆ กัน แล้วเข้าไปเรียกเด็กเสริฟคนนึงมาเค้าพูดไทยได้นิดหน่อยโล่งละ แต่ก็ไม่รู้จะสั่งยังไงอยู่ดีเลยชี้ไปว่า เอาแบบโต๊ะข้างๆ 1 ชุด
เราถามว่า ไอ้นี่มันชื่ออะไรชายเขมรพูดไทยได้นิดหน่อย พูดสั้นๆว่า 
“ซุป" 

โอ้โหววมาเต็ม จะเรียกจิ้มจุ่มก็ไม่เชิง แจ่วฮ้อนก็ไม่ใช่ แต่รสใกล้ๆกับเฝออยู่นะเม็ดบอกมีจานเนื้อตอกไข่ จานเกี๊ยวและเส้นบะหมี่ และจานผักมาให้ส่วนที่แปลกหน่อยคือน้ำซุปในหม้อนั่นแหละ ของดีเลยเราเป็นคนชอบกินเนื้ออยู่แล้ว เลยแยกออกว่าทั้งหมดเนี่ย คือเนื้อวัวนะในซุปเป็นเหมือนเนื้อตุ๋น เอ็นตุ๋น ลูกชิ้น ถูกปรุงมาแบบถูกปากเจ๊มากซดแค่น้ำอย่างเดียวก็ฟินแล้ว ยิ่งเอาเนื้อเข้าไปลวกด้วยแล้วจิ้มน้ำจิ้ม เข้าปาก แซบบบอย่าบอกใคร ไม่ได้ค่าโฆษณา
พูดถึงน้ำจิ้มซักหน่อย มีขวดฉลากภาษาเขมรวางอยู่บนโต๊ะ 3 ขวดอันนึงเป็นซอสพริกธรรมดาอีกอัน LYLY beancurd ไม่รู้อะไร รสเหมือนน้ำพริกเผาแม่ประนอมอีกอันเขียนว่า hoisin sauce อันนี้เค็มๆหวานๆ เอามาปรุงกับพริกมะนาว อร่อยมากไม่รู้เค้ากินกันแบบนี้รึป่าว แต่มื้อแรกของที่นี่ ถือว่าดีงามสามโลก 

“กึ๊ดโรย”แปลว่าคิดตังเลยค่าาาา
บิลออกมา 48500 รีล เราขอเค้าจ่ายเป็นเงินไทย เค้าคำนวนมาให้ 400 บาทเออ แพงใช้ได้นะมื้อนี้ 

**กึ๊ดไทบานเต๊ = ลดได้มั้ย?**อ๊อดเมียนโร๊ยยย = ไม่มีเงินคิดไงไม่รู้เตรียมแต่ศัพทฺแบบนี้ไปแม่ค้าตอบกลับมาที ไปไม่เป็นเลยจ้าสรุปว่าไม่ได้ลดนะเออ555
-010 คลับเขมรด้วยความซ่าของเราสองคนมาถึงเกาะกงทั้งที สร้างแลนด์มากด้วยการไปนั่งบาร์จิบเบียพื้นถิ่นกันเถอะเลยไปถามพี่รีเซฟชั่นของโรงแรม เค้าก็แนะนำมา พร้อมบอกทางเรียบร้อย
เราว่าเราก็บอกชัดแล้วนะว่าจะไปบาร์ไม่ใช่คลับตื๊ด (คือคลับเพลงแด๊น ตี๊ดๆ มั่วๆ)แต่แถวนี้ก็ไม่มีเลยนอกจาก pussy bar ข้างโรงแรมแค่ชื่อเราก็ไม่กล้าเข้าอะค่ะ ข้างหน้ามีผู้หญิงเอ็กนั่งอยู่เอาวะแก ไปคลับตื๊ดก็ตื๊ดวะเรารู้ว่ามันอาจจะอันตราย อาจจะน่ากลัว และอาจจะไม่จรรโลงจิตใจแต่เราคิดว่า เรามีกัน 2 คน ดูแลกันน่าจะได้ ไม่ต้องไปยุ่งกับใครก็พอเรากะไปเต้นมันๆรั่วๆกันสองคนอยู่แล้วผ่าน WiP กทม มาได้ ที่นี่ก็ไม่น่าจะมีอะไรหรอก**แต่ไม่แนะนำให้ไปเลยค่ะ
“Pun Pun Club”
ในนี้เปิดเพลงไทยด้วยหวะแกรบางเพลงก็ดนตรีนี่มาเลย นึกว่าจะไทเท แต่เนื้อร้องดันเป็นขแมร์ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นดีเจเปิดเพลงตื๊ดแบบ RCA แหละ ตื๊ดๆ ไป 
แต่มีสิ่งนึงที่แปลกกว่าบ้านเราคือ เค้าจะเต้นเพลงช้ากันด้วยตอนแรกได้ยินเปิดเพลงช้า นึกว่าผับจะปิด ถ้าอยู่ไทยนี่เดินออกไปแระแต่ที่นี่ เพลงช้าขึ้นปุ๊ป จูงมือมากันเป็นคู่เลย เต้นกอดกันซบกัน ช/ญ หรือ ญ/ญ ก็มี(เออลืมบอกที่นี่เค้าจะเดินไปเต้นกันบนฟลอนะ)เรากับเม็ดก็เอากับเค้าด้วย ออกไปเต้น 555เพลงช้าจบก็เพลงเร็วต่อ สนุกสนานกันไป ถึงตี 2แล้วก็กลับมาโรงแรม

ปล.ชนคระรวยยย แปลว่า ชนแก้ว!!ได้ยินอย่างนี้จริงๆ ไม่รู้ถูกรึป่าวนะไม่ได้ตั้งใจจะพูดไม่เพราะ แต่มัน ชนคระรวยยยยกันดังจริงๆ
-011 เหตุการณ์ ณ โรงแรมหลังจากกลับห้องเรียบร้อยปลอดภัยไม่เมาซักพักได้ยินเสียงมีคนมาเคาะประตูเราส่องตรงตาแมวประตูก็เห็นว่า เป็นผู้ชายสองคน ที่เจอที่คลับ!!!
"เอาแล้วไงแก มันตามมาถึงนี่เลยหรอวะ!"(คือตอนอยู่คลับจะมีคนมาชนแก้วเรื่อยๆค่ะ แต่สองคนนี้จะเข้ามาบ่อย)
มันเคาะเสียงดังมาก เหมือนเมามาจากเคาะประตู ก็ย้ายมาเคาะหน้าต่างลองย้อนกลับไปดูภาพภายในห้องนะ มีหน้าต่างบานใหญ่เท่าบ้าน อยู่ติดประตูเลยหนักไปกว่านั้น หน้าต่างห้องเราเสือ กล็อกไม่ได้! แต่มีเหล็กดัดกันอยู่คือเอามือยื่นเข้ามาง่ายมาก แขนยาวๆนี่เปิดประตูห้องได้เลยได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมันกำลังจะเลื่อนหน้าต่าง (แต่เราปิดม่านอยู่)
เรากับเม็ดมองหน้ากันคือดูหน้าก็รู้แล้วว่ามันกลัวสุดๆเราก็กลัวสุดๆเหมือนกันบวกกับรู้สึกผิดมาก เพราะเราเป็นคนชวนมันมาวันแรกของทริปเขมรก็มีเรื่องแล้วหรอวะเนี่ยยยยย
ต้องทำอะไรซักอย่างหวะ
เรากับเม็ดตัดสินใจเปิดม่านไปเจรจากับมันจะเอาไง เคาะทำไม คนจะนอน (พูดภาษาอังกฤษนะ)มันบอกว่า ขอเข้ามานั่งกินเหล้าต่อด้วย เพราะเพื่อนไม่เปิดห้องให้
เห ี้ยๆๆ!!ไม่เคยเห็นอะไร ยิ้มขนาดนี้ ขออภัยหากพูดคำหยาบ
เม็ดบอกมันไปว่า พวกเรากำลังจะนอน กลับไปได้แล้ว อย่ามารบกวน เราปิดม่าน ปิดหน้าต่าง ปิดไฟทั้งหมด ให้ข้างในมืดสุดๆ ส่วนจุดเสียบคีการ์ดจะอยู่ใกล้หน้าต่าง มือล้วงถึงเราเลยต้องเอากุญแจออกจากคีการ์ดมาเก็บไว้แล้วเข้ามาอยู่หลบในห้องน้ำกันสองคน กลัวมันจะเปิดหน้าต่างมาเห็น
เหมือนมันจะเดินออกไปแล้วนะ แต่สักพักมันก็กลับมาเคาะอีกแต่เราไม่คิดจะไปเปิดอีกแล้ว ทำเหมือนนอนกันแล้วพอเสียงเงียบ เราผลัดกันไปส่องตาแมวดูลาดเลาว่ามันยังอยู่มั้ย มันยกเก้าอี้มานั่งปักหลักหน้าห้องเลยจ้ายันตี4 มันก็กลับแต่เรานอนไม่หลับทั้งคืน
ถ้าถามว่าทำไมไม่โทรหารีเซฟชั่นคือหนึ่งในคนที่มาเคาะห้องคืนนั้นก็คือรีเซฟชั่นที่แนะนำเราไปคลับนั้นนั่นเอง!
ฮือๆ นี่แค่ mission 3 เองนะ จะรอดมั้ยเรา T_T
-012 เสียงเคาะห้องอีกครั้งดังขึ้นในเวลา 7 โมงเช้าแต่เสียงนี้ไม่เหมือนเมื่อคืนเป็นรีเซฟชั่นอีกคน มาปลุกให้เตรียมตัวไปขึ้นรถไปสีหนุวิลล์โดยเมื่อวานเราได้ฝากคนนี้เรียกตุ๊กตุ๊กไป bus station แล้วก็ฝากปลุกด้วยที่เค้าเตอร์หน้าโรงแรม เราไม่เห็นรีเซฟชั่นคนเมื่อคืนแล้วน่าจะไม่ใช่กะเวลาทำงานของมันอยากจะหนีโรงแรมนี้ไปให้เร็วที่สุดไม่ประทับใจเกาะกงเลยจริงๆ (นอกจากซุปมื้อนั้น)
ลาก่อนนะเกาะกง 
เหมือนเราสองคนกำลังเสียศูนย์วันแรกยังเจอขนาดนี้ แล้ววันต่อๆไปจะขนาดไหนแต่ไม่ว่าจะยังไง เราก็จะยังเดินทางไปต่อรีบเคลีย mission นี้ให้จบ จะได้ไปถึงจุดหมายสักทีเก็บไว้เป็นบทเรียน อย่าซ่ามาก มันไม่ใช่ถิ่นเราจำไว้!

ก่อนไป bus station เราให้พี่ตุ๊กตุ๊กจอดร้านแลกเงินเราเปนคนที่ช้าเรื่องตัวเลขมาก อย่าให้คำนวนเชียวจำไม่ได้ด้วย ว่าได้เรทเท่าไหร่มารู้แต่ว่าขาดทุนมากกกกกคิดไม่ทัน ต่อรองไม่ทันคิดง่ายๆสำหรับเราคือ1000 รีล = 10 บาท4000 รีล = 1 Dollar 40 บาท = 1 Dollar
**ถ้าเราซื้อของราคาเป็น dollar แต่เราจะจ่าย รีล เค้าจะคูณ 4000แต่พอซื้อของ 3000 รีล จะจ่ายดอลล่า คิดเรา 1 ดอลเฉยเลย ***แต่ละร้านก้คิดไม่เหมือนกันอีกงง อย่าพูดถึงตัวเลขกับเราเลย เราสงสัยจนขี้เกียจสงสัยแล้ว ลืมเรื่องนี้ไป ชีวิตจะอยู่ง่ายขึ้น เชื่อเรา
-013 รถบัส VIPบขส วันนี้คึกคักกว่าเมื่อวาน มีรถบัสจอดเรียงกันหลายคันพี่ตุ๊กๆพาเราไปส่งที่รถบัส VIP ที่ซื้อตั๋วไว้ซึ่งดูๆแล้ว มันก็ไม่ได้ต่างจากคันอื่นๆซักเท่าไหร่มองได้หลายแบบว่าใน บขส นี้ทุกคันคือรถ VIP หรืออีกมุมนึงคือ กุโดนหลอกให้ซื้อ VIP แล้วไงหละ 5555
บรรยากาศบนรถมีฝรั่งหัวทองประปราย แต่ส่วนใหญ่เป็นหัวดำเค้าบอกว่าใช้เวลา 5 ชั่วโมง ถึงจังหวัดกำโปงสม หรือสีหนุวิลล์ระยะทางจริงๆไม่ไกลมาก แต่ทางเป็นทางลูกรังและขึ้นเขา ทำให้ช้าแต่ไม่เป็นไร บนรถมีทีวีเปิด MV เพลงลูกทุ่งเขมรกล่อมประสาทตลอดทางนี่ละมั้ง VIP (กุอยากนอนนนนน)
2 ชม ผ่านไปกำลังจะหลับแล้วรถก็แวะจอดที่จุดพักรถระหว่างทางให้ลงไปเข้าห้องน้ำ และทานอาหารอย่างด่วนๆ และรีบกลับมาขึ้นรถต่อ
นั่งไปได้ซักพัก จนเกือบจะหลับอีกรอบรถก็จอดอีกครั้ง และมีพนักงานเดินมาที่เราสองคน
“Kam pong som x?X@#@$@#$@??““yes….”(กวักมือเรียก)
เขาเรียกเราสองคนลงจากรถ เอากระเป๋าออกจากใต้ท้องรถพูดอะไรซักอย่างที่ไม่รู้เรื่อง ละรถก็จากไปงงดิทิ้งเราไว้กลางทางสามแพร่งยืนเอ๋อเลยย มองหน้าอิเม็ดแล้วนึกในใจเอาอีกแล้วสินะ ประสบการณ์ระทึกของ 2 ชะนีในแคมโบเดีย

แต่ยืนเอ๋อไม่ถึง 1 นาที มีรถบัสจากอีกทาง มาจอดข้างๆ มีคนโผล่ออกมาจากรถมาถามว่า กำโปงสมใช่มั้ย? และ เซย์ yes สเตปเดิมเขาเรียกขึ้นไปบนบัสคันไหม่
อ่อนี่คือเปลี่ยนรถสินะมิน่าหละ แอบงงในตั๋วบอกไป พนมเปญ แล้วขีดฆ่าที่แท้คันมะกี้คือจากเกาะกง ไปพนมเปญและคันที่เรากำลังนั่งอยู่นี่ คือรถจากพนมเปญเข้าสีหนุวิลล์
และที่เด็ดไปกว่านั้นคือที่นั่ง VIP ของเราแปรสภาพเป็นเก้าอี้แดงสุดพิเศษดังเช่นนี้แล T_T
นอกจากจะอดนอนมาทั้งคืนยังต้องมาเจอเก้าอี้ minimal นี่อีกไม่กล้าเล่าให้เพื่อนฟังเลยหวะ ว่ากุไปเจออะไรมาความชิกๆคูลๆ หาไม่ได้ในทริปนี้ 5555

-014 ถึงเมืองสีหนุวิลล์เรียบร้อยใช้เวลาถึง 2 วัน กว่าจะผ่านภารกิจนี้มาได้เราว่าจะพักที่นี่ก่อน 1 คืน แล้วค่อยเข้าเกาะไป countdown
เป็นธรรมดาของ bus station เมื่อลงจากรถมาแล้วจะมีกลุ่มชายฉกรรย์ลงพุงมารุมล้อม ยังกะเราเป็นดาราจากการหาข้อมูลมาอย่างน้อยนิด เมืองสีหนุวิลล์แห่งนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของกัมพูชาพอๆกับเสียมเรียบ พนมเปญแหละ นักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะ แต่พวกเราไม่ค่อยรู้กันมีคนนึงเล่าว่า ถ้าไปทะเลไทยมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาทะเลเขมรเลย - -“
เราจะไปเริ่มที่หาด Serendipity ก่อน เพราะท่าเรือไปเกาะอยู่ที่นี่ไม่ว่าวินพี่หนวดจะแนะนำอะไรมา เราจะไม่ไหลตามน้ำเด็ดขาดเนื่องจากว่า หาดนี่เป็นหาดที่อยู่กลางเมืองเลยโรงแรมจิ๊กจก โฮสเทล เกสเฮ้ากะโหลกกะลา อะไรถูกๆอยู่โซนนี้หมดแต่ความหลากหลายพวกนี้มันมาพร้อมกับ ชายหาดพัทยาหวะ(ก่อนปรับปรุงไหม่)นึกภาพออกนะ ที่ๆมีแม้ค้าเดินขายปลาหมึกย่าง กุ้งย่าง ขายแว่นตาบาร์มากมายกับเก้าอี้ชายหาด ที่วางเรียงรายจนแทบมองไม่เห็นพื้นทรายแต่ก็ไม่ใข่สายโหดอะโกโก้โคโยตี้พัทยาขนาดนั้น แต่อนาคตก็ไม่แน่มากสุดก็บารากุ ประทัด และกัญชา แค่นั้นเอง หึหึหึ
-015 เราไปเช่ามอไซด์แล้วหาพักหาดที่สงบๆกว่านี้ดีกว่าสีหนุวิลล์มีตั้ง 4-5 หาดแหนะ
เราขับมอไซด์เล่นไปเรื่อยๆ แวะหาดโน้นนี่นั่นลงไปเดิน ถ่ายรูปเล่น พร้อมทั้งหาที่พักไปด้วย
ชิลดีหวะ พอภารกิจสำเร็จ ทุกอย่างมันก็โล่งอกโล่งใจอยากพักเราก็พัก อยากกินเราก็กิน อยากนอนเราก็นอน

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน โดนคลื่นทะเลพัดไปแล้ว







-016 การทำความรู้จักเมืองในแบบของเราคือการขับมอไซด์เที่ยวเองอะถนนที่นี่ถือว่าดีเลย ถนนใหญ่ลาดยางสบ๊ายยยแต่ถนนเรียบหาดก็ยังเป็นลูกรังอยู่นะ ยังได้ฟีลความพื้นบ้านอยู่ ชอบๆ
แต่ถ้าขับตอนกลางคืนนี่อีกเรื่องเลยมองไม่เห็นทาง มืดแบบสุดๆข้างทางมีศาลพระภูมิเรื่อยๆ บ้างใหญ่ บ้างเล็กทำให้เรานึกถึงพวกไสยศาสตร์ขึ้นมาอีกก็เขมรขึ้นชื่อเรื่องนี้นี่นา นึกแล้วก็กลัวเปลี่ยนเรื่องเถอะ x.x

-017 ที่พักเราอยู่ในหาดสุดท้ายของเมืองสีหนุวิลล์เลย
“Otres Beach”ขับออกมาจากเมืองประมาณกี่โลไม่รู้แต่ขับไป-กลับ น้ำมันก็เกือบหมดถังอะ จากเติมมาเต็ม 555ไม่รู้น้ำมันปลอมหรือถังน้ำมันมอไซด์จุได้น้อยกันแน่อะนะ
“FootPrint Backpaker hostel"ที่นี่มีห้อง Dorm และ Private room แต่ขายเป็นเตียงเหมือนกัน เตียงละ $9อุส่าตื่นเต้นจะได้เจอรูมเมทใหม่ โถ่ ดันได้อยู่ private room กับอิเม็ด 2 คน เพราะ dorm เต็มส่วนด้านหน้า เป้น beach bar ติดทะเล เอาไว้นั่งเล่นคูลๆ
-018 ใกล้จะพรบค่ำเราออกมาเดินเล่นริมชายหาดนึกว่าอยู่ในฮิปปี้แลนด์คนแต่งตัวกันชิลสลัด ฝรั่งไว้หนวด ผมยาวมาเต็มอยู่กันง่ายๆ มีแค่เบาะนอน และมุ้งก็อยู่ได้แล้วไม่ต้องมีแผงกันห้องไดๆ รับลมทะเลแบบเต็มๆทั้งคืนพวกที่พักที่เน้นการตกแต่งแบบธรรมชาติมีแค่โซนนี้นะ เท่าที่เห็นแล้วก็เหมือนเค้าจะอยู่ยาวกันเป็นอาทิตย์กันเลยถ้าหาดอื่นจะเป็นโรงแรมหรูก่อปูนสีขาวสร้างเป็นวังไปเลย
เราว่าเราคิดถูกหวะ ที่มาอยู่โซนนี่ ชอบบบอยากมาอยู่นานๆบ้างซักวันนะ
ตอนเย็นที่ footprint bar มีโปร เบียร์สดลด 50% ก่อน 2 ทุ่ม ก็เลยจัดซักหน่อยปกติแก้วนึงก็ $1 อยู่แล้ว นี่ลดครึ่งนึงอีก โอ้ ถูกสุดๆเลย
-019 ขับรถเข้าเมืองอีกครั้ง ไปซื้อตั๋วเรือสำหรับวันพรุ่งนี้ แล้วก็กินข้าวด้วยที่ท่าเรือทางเข้าหาด serendipity มีบูทขายตั๋วรถ เรือ ที่พัก และทัวร์ครบ all in oneเราจัดแจงซื้อตั๋วไปกลับ koh rong ($20) และตั๋วกลับกทมได้จากที่นี่เลย
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่เราเพิ่งรู้ คือมีรถจาก กทม มาถึงนี่ด้วยยยย!!โดยไม่ต้องแต่ติดแหงกอยู่ที่เกาะกง(แต่เราคิดว่า มันอาจจะต้องเปลี่ยนรถเหมือนเรานี่แหละ แต่แค่เวลามันชัวกว่า)
ที่เมืองสีหนุวิลล์ไม่ได้มีแค่ Koh Rongแต่ยังมี Koh Rong Sanloem , Koh Ta kiab และอีก 2-3 เกาะ จำไม่ได้ละ แต่เราเลือกเกาะรงเพราะมีอะไรทำมากกว่า 555
หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่น walking street ริมหาด Serendipity กันบรรยากาศริมหาดนั้น ให้นึกถึงพัทยาสิบปีก่อนเลยไม่ก็ภูเก็ตตรงที่บาร์เยอะๆแล้วมีผู้หญิงนั่งเรียกแขกอยู่ข้างหน้า
อาหารมื้อนี้เลือกกินง่ายๆ ที่หน้าร้านริมทะเลส่วนใหญ่จะมีตู้กระจกใส่อาหารทะเลสดๆ ไว้ให้เราเลือกโดยเค้าจะย่างเป็นแบบ BBQ มาให้ จานละ 5 dollar เลือกกี่อย่างก็ได้เราเลือกเนื้อวัว หอยเชล และปลาหมึก เค้าเสริฟมาพร้อมสลัด ขนมปัง มันฝรั่งส่วนน้ำจิ้มซีฟู๊ดนั้น ปะแล่มๆ เป็นส่วนผสมของผงสำเร็จรูปอะไรไม่รู้+มะนาว+พริกไทย จบ
หลังจากกินข้าว จิบเบียร์ ละก็กลับไปนอนสบายใจ หลังจากเหนื่อยมา 2 วันเตรียมตัวสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของทริปนี้ ในวันถัดไป ตื่นเต้นจัง
-020 วันที่ 30 ธันวาคม
10โมงเช้าแล้วเราตื่นก่อนเมล็ดแหละ รู้สึกชนะ 555นอนเต็มที่จริงๆ (10 กว่าชั่วโมง)
เรือไปเกาะรงที่เราจองไว้ ออกรอบบ่าย2 (รอบเช้าเต็ม ซื้อไม่ทัน)เพราะฉะนั้นเราจะมีเวลานอนอืด นั่งอืดอยู่บนพื้นแผ่นดินสีหนุวิลล์อีก 4 ชม
เราออกมานอนเล่นบนเก้าอี้ชายหาดหน้า beach bar อ่านหนังสือ และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียวซักพักก็มีป้าคนนึงถือตะกร้าเดินเข้ามา (เผลอสบตาป้าแกไง)
“เฮ้! ยู ว้อน แฮรีมูฟเว่อ? 8 ดอลล่า” (ถอนขนขา)
ชีเข้ามานั่งข้าง พร้อมกับเอามือมาลูบขนขาแข็งๆของเรา 555เรานี่รีบเซย์ โน โน โน เลยนางบอกต่อประมาณว่า เนี่ยขนขาเยอะแล้วนะ หยาบด้วย ไม่ดีเลย ไม่สวยอ่าว อีนี่ นอนอยู่ดีๆก็โดนด่าแต่นางหยิบเส้นด้ายขาวๆออกมาละ เหมือนเป็นเทคนิคการถอนขนแบบใช้ด้ายอะค่ะ
เรา “ no no no”ป้า “ free free free just try"
แหมป้า หนูรู้เกมส์ค่ะถ้าลอง เดาว่าป้าแกจะถอนแค่ 3 ตารางเซตติเมตรแล้วหยุดขนหน้าแข้งหนูก็จะแหว่งหนะสิแล้วป้าจะมาหลอกด่าหนูอีก 
"ว๊ายๆๆ ขนแหว่งนะ น่าเกลียดมาก ให้ป้าถอนให้หมดมั้ย”
เกมส์นี้หนูทันค่ะป้า ป้าไปถอนคนอื่นเถอะ5555
-021 หลังจากเราสองคนทำภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อยก็ออกมากินข้าว คืนมอไซด์ และเตรียมตัวขึ้นเรือไปเกาะรง
'f u * king pizza'เป็นพิซซ่าสูตรพิเศษของ ร้าน mushroom guesthouse ที่ Otres beachที่เข้านี่เพราะเห็นคนขายหล่อนะ 555ชื่อพิซซ่าโหด ไม่ได้คิขุเหมือนหน้าตาพิซซ่าเลยน่ารัก งุงิ อิอิ ฮ่าฮ่าฮ่า (หมายถึงคนขายนะ)
ส่วนท่าเรือจะอยู่ทางเข้าหลักของ Serendipity beach speed boat เราใช้เวลา 45 นาทีถึงเกาะรงค่ะบนเรือนี่ฝรั่งหัวทองล้วนเลย งานดี >.<
ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว ตื่นเต้ลลลลล
Chapter 2 : KOH RONG! HERE WE ARE
รวม chapter 1 กับ 2 ไว้ในอันเดียวนะเพราะว่าเราไม่ชอบกดหน้าไปมาแต่พลาดที่ตั้งกระทู้บอก chapter ไปแล้ว 555

เอาหละ

ก้าวเท้าแรกออกมาจากเรือสัมผัสได้ถึงเสม็ดเบาๆเหมือนเราข้ามน้ำข้ามประเทศหลายวันมาเจอหาดทรายแก้วเกาะเสม็ดเราหมายถึงมีร้านริมหาดเยอะๆเหมือนกัน แต่น้ำใสกว่า สะอาดกว่าที่นี่ไม่มีถนน ไม่มีรถ มีแต่เดินกับเรือเท่านั้นและจะปั่นไฟให้ใช้แค่ตอน 6โมงเย็น - 4 ทุ่มยกเว้นวันปีใหม่ จะปั่นไฟให้ทั้งคืน
พอออกจากท่าเรือ เลี้ยวซ้ายเป็นโซนหมู่บ้านชาวเกาะ เลี้ยวขวาเป็นโซนที่พักต่างๆมีที่พักราคาตั้งแต่ $7-$70คนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวฝรั่ง และหาดนี้ก็ดูเล็กกว่าทรายแก้วเยอะเดินแปปเดียว ก็สุดหาดละ
-023 แต่นั่นแหละ ปัญหาของเราต่อมา
หาดเล็กๆ ทำให้มีที่พักไม่เยอะด้วยเราไม่ได้จองที่พักมาก่อนไง จองไม่ทันเพราะช่วงนี้เป็นเทศกาลปีไหม่ โคตรจะ High Seasonที่พักใน booking / agoda เต็มแน่นอน
นึกเสียดายอยู่ในใจว่าทำไมไม่เอาเต๊นท์มาว๊าาาเราว่าเราก็ไม่ซีเรียสกับที่นอนละนะ แต่เม็ดหนักกว่า ชีบอกว่า
“เอางี้มั้ยพี่ต้น ไปยืมเสื่อชาวบ้านมานอนกลางหาดกันเลย?ไหนๆ countdown ก็ทั้งคืนไม่ได้นอนอยู่แล้ว”
“…เอ่อ....เมล็ดคะ เมิ งก็โหดป๊ายยยย"
แต่เราสองคนก็ลองเดินหา ที่เช่าเต้นท์/เสื่อนะ แต่หาไม่ได้ 555สุดท้ายก็มาได้เกสเฮ้าชาวบ้าน ที่ไม่มีใน agoda หรือ bookingเป็นห้องพัดลม เล็กๆ ไม่มีหน้าต่าง ห้องละ $15ต่อคืน ห้องน้ำรวมเป็นเกสเฮ้าที่ได้ยินทุกเสียงที่คนคุยกัน ทุกฝีก้าว ทุกการขยับแม้กระทั่งนอนก็ได้ยินเสียงเตียงเอียดออด ของห้องข้างๆ (อย่าคิดลึก)
-024 ช่วงเวลา Free timeคือช่วงที่เราชอบมากที่สุดเวลาได้อยู่ต่างถิ่นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ มันจะไม่อยู่ใน Planซึ่งเวลาวางแผนทริปเที่ยวต่างๆ เราจะเว้นช่องว่างใน plan แบบนี้อยู่บ่อยๆ(บางทีก็เว้นเยอะไป บางทีก็ขี้เกียจ 555)เราจะไม่รีบ เราจะไม่เร็ว เราจะไม่กำหนดว่าเราต้องทำอะไร 

ให้ความรู้สึกในตอนนั้น มันบอกเราเอง

หลังจากนี้ เราจะใช้เวลาบนเกาะนี้ 2 คืน แบบ freetime

“ ออกไปเดินเล่นกันมั้ย แก"
“หิวหวะพี่ ซื้อกล้วยแพร๊บบบบ~”“แถมแหนมให้ชิมด้วยได้มั้ยคะ"
“ขี้เกียจเดินแล้วหวะแก ไปนั่งชิลริมหาดปะ"“เออๆ ซื้อเบียร์ไปด้วยเนอะ"
“เออแก แอบเห็นป้ายร้าน CoCoBar มีโปรโมชั่น cocktail ซื้อ 1 แถม 1 พอดี ไปมะ”
“รีบเลยพี่ หมดโปร 2 ทุ่มนะ”
“งั้นสั่งตุนไว้เลยแก Cocktail Mijito 4 / long island 4 หมดเวลาเดี๋ยวไม่คุ้ม”

(คำนวนเป็นเงินไทยจะเหลือประมาณแก้วละ 20 บาทเองงง)
“ ไม่ไหวๆๆๆ วันนี้น้องไม่ไหวละพี่ ขอตัวไปนอนนะ ”“ ใครบอกให้สั่งเยอะขนาดเน๊ฟระ ”

สรุปว่า กินเสร็จกลับห้องนอน ตั้งแต่ 4 ทุ่มค่ะง่วงไม่ไหวแล้ว ดื่มคุ้มเกินไปหน่อย - -“
ไม่เจียมไง

แต่ก็ดีนะไฟตัดตอน 4 ทุ่ม ก็ไม่รู้จะทำอะไร นอนดีกว่า

-025 วันที่ 31 ธันวาคม 2557
วันนี้ว่าจะไปทัวร์หาดอื่นบ้างเพราะจากการ Surway เมื่อวานเห็นป้ายบอกทางไป หาด Long Beachก็เลยถามคนแถวนั้นดูเค้าบอกเป็นหาดทรายที่ยาวมากกกก ถึง 7 กิโลเมตรแหนะและต้อง trekking ข้ามเขาลูกนี้ไป เดี๋ยวก็ถึงแล้ว
เรา ผู้ที่ไม่ได้เดินป่ามานานหลายปี ล่าสุดน่าจะตอนเรียนเนตรนารีมองภูเขาลูกนี้แล้วก็ท้อใจ
“ซื้อทัวร์รอบเกาะแทนมั้ยแก เห็นละเหนื่อยยยย - -““ไม่ได้พี่! backpackเที่ยวไม่ง้อทัวร์ มาขนาดนี้แล้ว แค่เขาลูกเดียวกลัวอะไร”
น่านง่ะ มาบิ๊วกุอิ๊กกกก"เออๆ เดินก็เดินวะ"
ความจริงคือนางลืมกดเงินมาไง ไม่มีตังซื้อทริปเรือ 555 ทำเป็นบิ๊ว โถ่บนเกาะไม่มีตู้เอทีเอ็มนะ แต่มีโต๊ะกู้เงิน!!!ใครไม่มีเงินก็คุยกับพี่หนวดเฝ้าโต๊ะกู้ได้ แต่ต้องคืนตอนถึงฝั่งนะ

ณ ปากซอยทางไป long beach เลี้ยวขวาไปเลย
ระหว่างทางช่วงแรก เป็นทางขึ้นหินเล็กเบาๆ ต่อด้วยทางเดินเล็กๆในป่าทึบและจะมีป้ายเตือนเป็นระยะๆห้ามเดินคนเดียวเด็ดขาด / ระวังลูกมะพร้าวตกใส่ / ระวังงู / ระวังสัตว์ป่า
เรากับเม็ดเดินกันอยู่สองคนก็เริ่มหลอนๆละถ้าเป็นไรขึ้นมาจะทำไงวะทำไมชอบเอาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยงอันตรายด้วยเนี่ย ไม่เข้าใจถ้าหกล้มนี่เบาะๆ แต่ถ้าเจอสัตว์เลื้อยคลานมานี่คงตกใจตาย ก่อนโดนกัดในหัวนี่นึกภาพการปฐมพยาบาลเบื้องต้นตลอดทางมันคงเป็นวิธีการตั้งสติมาปัญญาเกิด ที่มีประโยชน์กว่าการท่องบทสวดมนต์ต้องรอด ณ เวลานี้
พอเดินได้ประมาณครึ่งชม ก็เจอทางแยกยืนเอ๋อเลย แล้วไปทางไหนวะเนี่ยเหมือนจะเป็นส่วนเนินสุดของเขาพอดีด้วยเราสองคนเลยตัดสินใจนั่งพักเหนื่อยก่อนเพราะเดินขึ้นเขามาตลอด และเหนื่อยมากบวกกับใส่รองเท้าแตะเดินกันด้วย ยิ่งเมื่อยและปวดทีน
ใครบอกว่าแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็ถึงฟระเหนื่อยแล้วพาลมากตอนนี้ บ่นๆ
ซักพัก ก็มีผู้ชายฝรั่งสองคนเดินขึ้นมาเราได้ที เลยขอเดินไปด้วยกัน ค่อยรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาหน่อยที่ทางแยกนี้ เค้าบอกทางนึงเป็นทางที่เดินง่ายๆแต่ไกลกว่ากับอีกทาง เป็นทางยาก ชัน สูง ปีน แต่ถือว่าลัดกว่ามากแน่นอนว่า ผู้ชายสองคนนั้น เลือกทางที่สองและเราก็ตามน้ำไปด้วย เพราะถ้าเจองู สองคนนั้นคงช่วยอะไรเราได้บ้าง

……………..

ถัดจากป้ายนี่คือ ของจริง!!! "Welcome to windy stone"ปีน เกาะ คลาน ไต่เชือก โดดหิน โหนต้นไม้ ก็งานนี้แหละ
รองเท้าแตะขาดดดดดดจนได้!!!(ของเม็ด)
-026 จากความพยาม 1 ชม.กว่ากับการเดินป่าปีนหินและแล้วก็ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย โปรดเข้าใจความเหนื่อยของคนไม่ค่อยออกกำลังกายด้วยค่ะ 555แค่ 1 ชม ก็เหนื่อยมากแล้ว
LONG BEACH
เรามาถึงทะเลแคมโบเดีย ลองบีช เกาะรง อย่างที่ตั้งใจไว้ได้แล้วนะMISSION COMPLETE!!!
น้ำทะเลใสมวากกกกกถ้าเทียบกับหาดที่ท่าเรือนี่คนละเรื่องเลยของท่าเรือจะสีฟ้าเขียวเข้มๆ แต่ที่นี่จะออกฟ้า Turquoise สว่างตา ฟรุ๊งฟริ๊งเราว่า long beach เทียบกับสิมิลัน ตาชัยได้เลยนะ (มั้ง)ทรายที่ยิ่งกว่าความขาว คือความละเอียดละเอียดขนาดที่ว่า เดินแล้วมีเสียงเอี๊ยดๆอะ อันนี้เราอึ้งมาก ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนคือเดินยากมาก มันนิ่มจนเท้าจมลงไปในทรายเกือบถึงข้ออะต้องไปเดินใกล้ๆน้ำทะเล ทรายจะแน่นขึ้นละเดินง่ายหน่อย
เป็นหาดที่ยาวมากๆ สงบมากๆ เราออกมาจากป่าที่สุดชายหาดฝั่งนึง แต่ที่สุดปลายหาดอีกฝั่งห่างไป 7 กิโลเป็นหมูบ้านชาวเกาะได้ยินมาว่าหลังหมู่บ้านจะมีน้ำตกและ lagoon ด้วย 
พอออกจากป่ามาแล้วจะเจอบาร์นึง ของที่พักแห่งเดียวใน long beach (นอกนั้นป่าตลอดหาด)เป็นบาร์ขายเบียร์และน้ำเปล่า ซึ่งก็ชาร์ทราคาเพิ่มอีกเท่านึงแต่ก็มีทางเลือกให้ คือแบบน้ำเปล่ารีฟิวเอาขวดไปเติม 25centนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังลดขยะได้ด้วยการกำจัดขยะบนเกาะ มีแค่วิธีเผาจะเร็วสุด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายใครจะมาเก็บขยะในที่ที่ไกลสุดหาดขนาดนี้ เอาขวดที่หมดแล้วมาเติมใหม่ และเก็บขวดไว้ไปทิ้งที่ฝั่งจะดีกว่า
-027 เรา เมล็ด และเพื่อนฝรั่งสองคนที่พาเรามาจนถึงที่นี่(จำชื่อไม่ได้ แต่คนนึงมาจาก New york มืดๆหน่อยอีกคนมาจากไหนก็จำไม่ได้ เคยมาแลกเปลี่ยนที่ไทยแต่พูดไทยไม่ได้ หน้าเหมือนจัสตินบีเบอร์เลย แอร๊ย >.<)
เราจัดแจงเตรียมพื้นที่ นั่งล้อมวงกันฮีนิวยอร์คเรียกจัสตินมา "complete the circle” กัน (ชอบศัพท์นี้)
ต้องขอขอบคุณ เม็ดนุ่น สวยทุกเมล็ด ผู้ยอมสละรองเท้าแตะเพื่อแบกกล้วยหวีที่ซื้อเมื่อวาน ฝ่าด่านขึ้นเขามาด้วยชีกะจะเอามาเป็นพร๊อพถ่ายรูปริมหาดแต่ตอนนี้ กล้วยนั่นได้เป็นทูตสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและชาวต่างประเทศแทนการขอบคุณที่พาชะนีมาถึงจุดหมายและต่อมาวงเราก็กลายเป็นปาร์ตี้กล้วย เพราะเราแบ่งให้คนแก๊งอื่นๆด้วยเรารู้ว่า ถ้าเค้าเดินมาถึงนี่ได้ ต้องเหนื่อยและหิวมากแน่ๆสวยไปอี๊กกกกก
(แต่เอ๊ะ หลายคนมันก็นั่งเรือมาได้นี่หว่า ไม่ได้ฟิตเดินข้ามเขามาแบบเรา 555)กลับมานึกอีกที น่าจะเอากล้วยมาขายเนอะ ซักลูกละ $1 เห็นขอกันจังอะ
หลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมต่างๆ ที่คนมาทะเลเค้าจะทำกันนอนริมหาด อาบแดด(ในร่ม) เล่นน้ำ ถ่ายรูป อะไรก็ว่าไปชิลสลัสเลยหละ เหมือนหาดส่วนตัว ไม่มีร้านค้าหรือป้าถอนขนอะไรทั้งนั้น
เป็นช่วงที่รู้สึกว่าผิวแทนแล้วเท่มาก 
ถ่ายรูปกันมันส์ จากโกโปรปลอมของเมล็ดเอาขึ้นมาถ่ายบนบกไม่ได้เลย อย่างเบลอ
-028 หลังจากนิวยอร์คและจัสติน ทนหิวไม่ไหวพวกฮีเลยขอตัวเดินกลับเข้าป่าไปหาอาหารที่หาดท่าเรือเรากับเม็ด เลยคุยกันว่าอยากเดินไปหมู่บ้านสุดหาดหวะ อยากดูน้ำตกคำว่า 7 กิโลตอนนั้นดูไม่ไกลเลยเพราะมันเห็นหมู่บ้านอยู่ลิบๆ เหมือนจะเดินเรียบหาดไปง่ายๆ
ก็เลยเดิน...
ข้างทางจะมีคนมาสร้างกะต๊อบไม้อยู่ด้วย เป็นระยะ ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเหมือนเค้ามาเพื่ออยู่แบบ castaway จริงจังมาก ไม่มีอินเตอร์เนต ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีคนวุ่นวายบางกระต๊อบถึงกับ Naked ไม่ใส่อะไรกันเลยทีเดียวมีฟ้าเป็นมุ้ง มียุงเป็นเพื่อน เค้าดูมีความสุขกับที่นี่มาก
อะไรทำให้เค้าคิดจะมาอยู่แบบนี้วะ?ชีวิตจริงๆที่ไม่ใช่ที่นี่ เค้าเป็นยังไงคงจะมีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้วหรือปล่าวหรือเค้าไม่ได้มีอะไรเลย
-029 1 ชั่วโมงผ่านไป....
"แก ทำไมมันไกลอย่างนี้วะ"

7กิโล ถ้าจะเทียบให้เห็นภาพคือเหมือนเดินจากพารากอนไปจตุจักรอะแล้วยิ่งเดินบนทรายเอี๊ยดๆ นี่ยิ่งเหนื่อยไปอีกทำไมตอนนั้นเราไม่ได้คิดเรื่องนี้ !!!กล้วยก็หมด แรงก็ไม่มี แดดก็ร้อนแผดเผา เหนื่อยแล้วอะแกรรเราเดินมาได้ประมาณ 60% แล้ว จะกลับก็เสียดายเดินมาเกินครึ่งทางถ้าจะเดินไปต่อ เดี๋ยวก็ต้องเดินกลับทางเดิมอีก จะมีแรงมั้ยเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก

แต่เราก็ตัดสินใจเดินต่อ
ที่ระยะทาง 70% ของหาดเราเห็นร้านอาหารร้านนึงเป็นซุ้มไม้เล็กๆ และมีที่นั่งชายหาดประมาณ 3-4 ตัวมีเรือมาจอดกิน แต่ไม่มีคนเค้าเดินมากินหรอกนะ ยกเว้นเรา555ก็เลยตัดสินใจหยุดพักที่นี่ก่อน
ตอนแรกก็อยากเดินไปให้ถึงหมู่บ้านอยู่นะพอได้นั่งพักเท่านั้นแหละขี้เกียจทันที555
จำได้ว่าเรานั่งๆนอนๆกินข้าวกินเบียละอ่านหนังสือ อยู่ตรงนั้นนานมากจนหลับไปตอนไหนไม่รู้

ไม่ได้พูดเล่น หลับเว้ย หลับจริงๆ!

ใครจะคิดว่ามาเที่ยวแล้วต้องตื่นเช้า อย่านอนเยอะ ต้องใช้เวลาให้คุ้มฉันได้ทำลายกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นในหัวตัวเองทิ้งไปนอนฝันกลางวันเฉยเลยจ้าาา
-030 รู้สึกตัวอีกทีคือ ได้ยินเพลง “home” ของ Edward Sharpe & The Maganetic Zeros
“Ho~home... let me come homehome is wherever I’m with you ~~~”
เพลงโปรดเลย นึกว่าฝันไป
มีชายคนนึง เล่นอูคูเลเล่ ร้องเพลง เดินมาแถวนี้ใส่เสื้อเล กางกางเล ผมหยิกมีหนวดรุงรังคือ ถ้าไม่เห็นว่าเค้าเดินมาสั่งอาหารที่นี่คงจะคิดว่าเค้าเป็น homeless หรือคนบ้าหละ
เราทักทาย พูดคุยกับหนุ่มอูคูเลเล่คนนี้เค้าเลยมานั่งกินข้าวโต๊ะเราเลย 555ฮีมาจาก California แดนฮิปปี้ตั้งเต๊นอยุ่คนเดียวที่หาดนี้ประมาณกิโลเมตรที่ 3 จากฝั่งป่า

เราขอให้เค้าสอนอูคูเลเล่ เพลง “home" ซึ่งมีอยู่ 2 คอร์ด ง่ายจุงพอเราเล่นพอได้ รู้จังหวะปุ๊ป ฮีก็ไปหยิบขลุ่ยมาจากไหนไม่รู้ขึ้นมาแล้วก็เป่าคลอเป็นเพลงไปด้วยกันส่วนเม็ดเป็นคนร้อง 555
เห้ย มันเป็นเพลงเว้ย!
ตื่นเต้นและดีใจมากเราทำงานอยู่ค่ายเพลงก็จริงแต่เราเล่นดนตรีไม่เป็น ฮ่าๆๆมันเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง มันเหมือนเราคุยกันอยู่แต่เปล่า เราไม่ได้คุย ดนตรีกำลังคุยกันถึงจะคนละภาษา แต่ดนตรีมันเป็นตัวเชื่อมทำให้เป็นภาษาเดียวกันได้
-031 พระอาทิตย์กำลังจะตกดินเรา 3 คน กำลังเดินกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ Long beach ที่ที่เราเดินจากมาแต่ครั้งนี้ เรามีเสียงเพลงคลอตลอดทางทำไมรู้สึกเหมือนมันใกล้กว่าขามาเยอะเลย
พระอาทิตย์ตกวันนี้สวยมากไม่รู้ว่าสวยเพราะฤดูนี้เป็นช่วงฟ้าเปิดหรือว่าสวยเพราะความสุขของเราในตอนนี้กันแน่เป็นแสงอาทิตย์สุดท้ายของปีเป็นเหมือนภาพในฝันเป็นความทรงจำดีๆที่ไม่มีวันลืม


เราขอให้เค้าร้องเพลงตัวเองให้ฟัง ละก็อัดไว้ชอบที่มีเสียงคลื่นทะเลเป็นแบกกราวคลอเบาๆปล. เราก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่ฟิลลิ่งมันมาาา 555

-032 เมื่อเดินกลับมาที่สุดหาดปากทางเข้าป่าถ้าจะปีนเขากลับทางเดิมคงไม่ได้แน่ๆ มืดแล้ว เดี๋ยวจะได้เจอยิ่งกว่าสัตว์ป่าเราเลยขอติดเรือหางยาวของนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นกลับหาดด้วยด้วยราคา 2 คน 5 ดอลล่าต่อราคามาจากคนละ 5 ดอล
แต่จุดนี้ คำว่า "อ๊อดเมียนโร๊ย”(ไม่มีตังค์) ช่วยเราไว้ได้ 555
-033 กลับมาที่หาดท่าเรือมืดแล้ว เข้าห้องไปอาบน้ำ แต่งตัว เพื่อเตรียมตัว countdown ปีใหม่ในคืนนี้โดยตั้งปฏิญาณไว้ว่า จะต้องอยู่รอดให้พ้นเที่ยงคืนให้ได้
เราบังเอิญค้นพบร้านอาหารหนึ่งอยู่ในซอยทางเข้าป่า long beach เริ่มต้นที่ $1 เลยจัดเป็น dinner ซะหน่อยเบอร์เกอร์ มาม่าผัด ผัดไท ข้าวผัด อร่อยสไตล์แคมโบเดียถือเป็นมื้อที่ถูกมาก ภูมิใจนำเสนอเลยหลังจากดินเนอร์เสร็จตอนนี้ก็เลยเวลาโปรโมชั่นเครื่องดื่มร้านต่างๆแล้วเราเลยต้องจัดแบบราคาเต็มกันหน่อย

บรรยากาศก่อนปีใหม่ของที่นี่ เราว่าไม่ต่างจากพะงันเท่าไหร่เป็นที่รวมฝรั่ง ปาร์ตี้ รั่ว มั่ว ขี้เมา จริงๆ แต่แค่เล็กกว่าพะงันมาก มีหลายบาร์นะ แต่คนเยอะอยู่แค่บาร์เดียวแน่นอนว่า เราก็อยู่ที่นั้นแหละ เพราะมันเป็นบาร์ข้างที่พักเรา
นับถอยหลังสู่ปีไหม่นะ54321
แล้วพี่ดีเจก็ยื่นไมค์มาให้เราเฉยเลย!!!!
เพราะเราดันยืนอยู่หน้าบูธดีเจ - -"เห้ยยย ไมค์มาแล้วต้องพูดใช่มั้ยตั้งสติไม่ทัน เลยพรวดออกมาว่า

"HAPPY NEW YEAR สองพันสิบห้าาาาาา"

เวรละ ภาษาไทยหนิฝรั่งงงแน่ๆ อายชิหาย แต่ไม่ทันจะได้แก้อะไร มีฝรั่งหยิบไมค์จากมือเราไปแล้วพูดต่อ แบบบิ๊วๆ อวยพรๆคือมันก็ไม่ได้มีใครสนใจคนพูดออกไมค์ขนาดนั้นหรอก (หวังว่าจะอย่างนั้น)หลังจากนั้นก็ เฮฮาครึกครื้น ทุกคนมากอด มาหอมแก้ม แล้วบอก happy new year แก๊งที่เจอกันที่ long beach ก็มาที่นี่กัน และ พวกเราก็ Let’s party กันต่อเลย
แล้วก็นึกถึงพวกที่อยู่ที่ long beachเงียบๆ มืดๆ แต่ละเต้นท์ตั้งไกลกันมาก
จะเป็นยังไงบ้างนะพวกเค้าจะตื่นเต้นว่าเป็นวันปีไหม่เหมือนเรามั้ยเค้าจะนับเค้าดาวน์กันมั้ยเค้าทำอะไรกันอยู่

-034 วันสุดท้าย
วันนี้เป็นวันเดินทางกลับแล้วต้องตื่นเร็วหน่อยเพื่อไปขึ้นเรือกลับฝั่งสีหนุวิลล์รอบ 10 โมงแต่แล้ว ขณะกำลังจะเดินออกจากที่พัก

“รองเท้าแตะหายไปไหน?!?!?!?!”

แกจำได้มั้ย ว่าเมื่อคืนถอดรองเท้าไว้ไหนโอ้ยยยย จำไม่ได้ๆๆๆๆรองเท้าแตะคู่ใจสีส้มเขียวของช๊านนนนเป็นพร๊อพถ่ายรูปมาตลอดทั้งทริป เซงงงอ่ะแต่ทำไรไม่ได้แล้วหละ เดี๋ยวจะขึ้นเรือไม่ทัน

ฝากไว้ก่อนนะ! รองเท้าแตะของต้นอ้อและเมล็ดนุ่น 
-035 กลับมาที่สีหนุวิวล์อีกครั้งเพื่อไปขึ้นบัส 12.30 ไปต่อรถกลับไทยที่เกาะกงและต้องข้ามไปขึ้นรถตู้ไปตราดที่ด่านก่อน 6 โมงต่อรถตู้จากตราดกลับ กทมพรุ่งนี้เช้าจองตั๋วเครื่องบินไว้กทม.กลับบ้านขอนแก่น

แต่เหตุการณ์มันก็ไม่ได้เป็นดังที่วางแผนไว้เมื่อรถบัสมาเลท เกือบ 2 ชั่วโมง!!!
และพอออกมาได้ซักพักครอบครัวชาวอินเดียก็ดันลืมกระเป๋าไว้ที่สถานีรถบัสเค้าก็นั่งวินมอไซด์กลับไปเอา อีก 1 ชั่วโมง!!
คุณพระสถานการณ์เริ่มแย่ แผนที่วางไว้อาจจะต้องล่มได้แต่ภาวนาให้ไปเกาะกงให้ทันก่อนด่านปิดเราไม่ต่างอะไรไปกับนักท่องเที่ยวคนอื่นบนรถ ที่นั่งเซงเหมือนกัน

(เราไม่ได้ซื้อตั๋วแบบยิงยาวเข้ากรุงเทพนะคะเพราะมันจะมีรอบ 5 ทุ่ม ถึง 5 โมงเย็นวันถัดไปแค่รอบเดียวเราเลยเลือกต้องไปต่อรถเอง กลัวจะไม่ทันขึ้นเครื่องวันถัดมา)
เด็กคนนี้คือลูกของชาวอินเดียที่ลืมกระเป๋านางนั่งงอแงอยู่หลังเบาะเราเลยก็เลยโผล่ไปเล่นถ่ายรูปด้วย จะได้เงียบๆซักที
ขนตาฟรุ๊งฟริ๊งอะ >.<
-036 รถบัสมาถึงเกาะกงเวลา 2 ทุ่มครึ่งเรามั่นใจแล้วว่า ยังไงก็ไม่ได้กลับประเทศแล้วหละด่านปิด และ รถเข้าตราดคงหมดไปนานแล้วตกเครื่องที่จองไว้พรุ่งนี้แน่นอน ไม่น่าจองเลย เสียดายตังประเทศไทยอยู่ใกล้แค่นี้เอง แต่กลับเข้าไม่ได้ น่าเสียใจยิ่งนักแถมยังต้องกลับมาอยู่เมืองที่ไม่ประทับใจเอาซะเลยอีก
เกลียดอะไร ได้อย่างนั้นสินะ T_T

ครั้งนี้เรามีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 6 คน ที่จะเข้าประเทศไทย(คู่รักจากเยอรมัน ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวจากไอร์แลนด์ และหนุ่มฝรั่งเศษหน้าเมา555)พวกเขาก็เพิ่งออกมาจากเกาะรงเหมือนกันแล้วก็ผิดหวังกับรถเลท และครอบครัวอินเดียลืมกระเป๋าทำให้ต้องมาติดแหงกอยู๋ที่นี่ T_T
ด้วยความที่เราสองคน ชินสถานที่ยังกะเป็นคนจังหวัดเกาะกง - -"เราพาเดอะแก๊งไปหาที่ซุกหัวนอนในคืนนี้ด้วยกันแน่นอนว่า ไม่ใช่ที่ APEX ที่เดิมแน่ๆและจะไม่เดินผ่านด้วย!
koh kong guesthouse ห้องละ $5(เราได้จ่าย 150บาท เงินไทย ค่าเงินไม่เหมือนในสีหนุเลย)ถูกบรรไล แต่บรรยากาศสุดแสนจะชิว เพราะเป็นเกสเฮ้ามีเทอเรส ติดแม่น้ำเลยไม่จำเป็นต้องมีสระว่ายน้ำ ไม่จำเป็นต้องมีรีเซฟชั่น ขอแค่มีเตียงก็พอแล้ว(ซึ่งก็มีแต่เตียงจริงๆ มีห้องน้ำที่ไม่มีประตู และฝักบัวแตกเปิดน้ำออกมาเปียกทั้งห้องเลย ยกเว้นตัวเรา555)
พวกเรา 6 คน นั่งกินเบียร์เม้ามอยเรื่องราวทริปของแต่ละคนว่าผ่านอะไรกันมาบ้างถึงวันนี้จะเป็นวันที่ผิดหวังแต่มันก็น่ายินดีนะ ที่เราได้มารู้จักกันเพราะหลังจากนี้ เราก็ชวนไปเที่ยวกัน ที่ กทม อีกครั้ง 555
เช้าวันที่ 2 มกราคมเราทั้ง 6 แชร์ค่าตุ๊กๆไปด่านชายแดนหาดเล็กต่อรถตู้จากด่านไปตราด ต่อรถตู้จากตราดไปกทมและกลับบ้านอย่างปลอดภัย

สวัสดีประเทศไทย คิดถึงจัง 
ถ้าจะให้เราเขียนทริปสุดเขียม 5 วัน 5 ประเทศ ภายใน 5000 บาท เราคงเขียนไม่ได้นะจะได้ก็แค่ 5 วัน 5 เพื่อนใหม่ จาก 5 ประเทศ 555เพราะเรื่องเงินก็ไม่รู้จะคำนวนให้ยังไงดีใช้เงินมั่วมาก แลกกับประสบการณ์และความสนุกอะเนอะที่ได้มานอกจากการเห็นได้ทะเลประเทศเพื่อนบ้าน ก็คือได้เพื่อนเพิ่มนี่แหละความสวยงาม ไม่ใช่จุดหมายปลายทางเลย
เราว่าเส้นทางที่เราเลือกใช้ครั้งนี้เป็นสิ่งที่เครื่องบินให้ไม่ได้และถ้ามาคนเดียวก็ทำแบบนี้ไม่ได้(ถ้ามาธรรมดาๆก็ได้แหละ แต่ต้องไม่ใช่คนแบบเรา555)
เกาะกง ไม่ได้น่ากลัว ถ้าเราไม่ซ่าเอง เรื่องนี้สมน้ำหน้าได้ค่ะสีหนุวิวล์ รองรับนักท่องเที่ยวได้ดี มีคนไปคนเดียวเยอะ และมันอาจจะกำลังเป็นพัทยาเกาะรง ถ้าจะไปเพื่อดูความสวยงาม เราว่าไปเที่ยวที่ไทยก็ได้ สวยกว่าแต่การเดินทางของเรา ปลายทางไม่ต้องสวยก็ได้ เราแค่อยากสัมผัสมันมากกว่า


บ๊ายบาย เกาะรง เกาะกง สีหนุวิลล์ แคมโบเดียบ๊ายบาย นิวยอร์คและจัสตินบ๊ายบาย Ukulele guyบ๊ายบาย เดอะแก๊งตกรถที่ Koh kong guest house เลิฟยูนะ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกบ๊ายบาย รีเซฟชั่น APEX HOTEL และเพื่อน หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกบ๊ายบาย รองเท้าแตะของเราสองคนขอบคุณเม็ดนุ่น สวยทุกเมล็ด ขาดคนนี้ไม่ได้เลย ไม่งั้นไม่รอดกลับมา แถมเป็นโชเฟ่อมอไซด์ให้ตลอดทริป อิอิขอบคุณทุกคน ทุกแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเดินทางไปเรื่อยๆ อยากเขียนไปเรื่อยๆ

"ออ กุน" (ขอบคุณค่าา)

ถ้าอ่านจนจบมาถึงนี่แล้วเผื่ออยากสอบถาม ปรึกษา แนะนำ ติชม เม้ามอย เรายินดีนะคะ
เราก็เขียนเรื่อยเปื่อย วนเวียนอยู่ใน blog เรานี่แหละ www.highondreams.com และ http://www.facebook.com/highondreams

____________________________________

ขอบคุณภาพและเรื่องราวจากคุณ high on dreams สมาชิกพันธุ์ทิพย์ดอทคอม






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED