อาณาจักรของเหล่าสัตว์น้ำนานาพันธุ์ SEA LIFE Bangkok Ocean World
SEA LIFE Bangkok Ocean World ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอกว่า สยาม โอเชียน เวิร์ล คงรู้จักกันดีในนามโลกสีครามใต้ท้องทะเล ที่เป็นอาณาจักรของเหล่าสัตว์น้ำนานาพันธุ์ หลังจากที่ซุ่มปรับโฉมมานานได้เวลาเปิดบ้านใหม่ต้อนรับแฟนๆ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 ภายใต้ชื่อใหม่ SEA LIFE Bangkok Ocean World ซึ่งมาพร้อมกับแนวความคิดรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่าง การเพาะพันธุ์ ปกป้องและช่วยเหลือ (Breed Rescue Protect) และประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด กับพื้นที่กิจกรรมปรับโฉมใหม่ทั้ง 13 โซน โดยเฉพาะโซนเด่นดังครั้งแรกในประเทศไทย อย่าง “เพนกวินสุขสันต์ มหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง”(Penguin Ice Adventure) บ้านหลังใหม่ของเจ้า “เจนทูเพนกวิน”
โดยหลังจากการริเริ่มประสบการณ์การเรียนรู้ครั้งใหม่มาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การเปิดโซน “Shark Walk” พื้นที่กิจกรรมที่นำเสนอมุมมองใหม่และน่าตื่นเต้นในการชมฉลามทั้ง 5 สายพันธุ์ กว่า 40 ตัว อย่างใกล้ชิดที่สุด ไปจนถึงการค้นหา “เจนทูเพนกวินแอมบาสเดอร์” เพื่อรอต้อนรับเจ้าเพนกวินครั้งแรกของประเทศไทย วันนี้ SEA LIFE Bangkok Ocean World ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว พื้นที่กิจกรรมใหม่ทั้ง 13 โซนอย่างเป็นทางการ ซึ่งแต่ละโซนน่าสนใจมากๆ ได้แก่
1.โพรงหินอำพราง (Rocky Hideout)
ถ้ำใต้ทะเลเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตที่น่ามหัศจรรย์หลากหลายชนิดที่ปรับตัวได้เก่ง เช่น ปูแมงมุมยักษ์และหมึกยักษ์โพรงหินจึงเป็นที่ซ่อนตัวจากผู้ล่า รวมทั้งเป็นที่พรางตัวเมื่อต้องการล่าเหยื่อ
2.ภารกิจใกล้ชิดฉลาม (Shark Walk)
เผชิญหน้ากับปลาฉลามที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าผ่านทางเดินใสแจ๋ว พร้อมกับร่วมเรียนรู้เชิงตอบโต้เกี่ยวกับปลาฉลามได้ที่จุดนี้
3.แนวปะการัง (Coral Reef)
แนวปะการังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ปะการังจะปกคลุมพื้นที่ท้องทะเลอยู่เพียงส่วนน้อยแต่กลับเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลถึงหนึ่งในสี่ เรียนรู้เกี่ยวกับปะการังชนิดต่างๆรวมถึงภัยคุกคามที่มีต่อปะการังได้ที่โซนนี้
4.อาณาจักรม้าน้ำ (Seahorse Kingdom)
เรียนรู้ความพิเศษของม้าน้ำสง่างามหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงโครงการผสมพันธุ์ม้าน้ำเพื่อการอนุรักษ์
5.ป่าดิบชื้น (Tropical Rainforest)
ป่าดิบชื้นที่มีระบบนิเวศที่หลากหลายที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยพืชและสัตว์พันธุ์ต่างๆมากกว่าระบบนิเวศอื่นๆทั่วโลกรวมกัน ที่นี่ได้สร้างสรรค์บรรยากาศของสายน้ำที่ควบคู่ไปกับสิ่งมีชีวิตภายใต้พันธุ์ไม้ทึบ และจะได้พบกับสัตว์ที่อยู่ในป่าดิบชื้นจากทุกมุมโลก
6.แอ่งหินเรียนรู้ (Rockpools)
แอ่งหินจะปรากฏเมื่อน้ำลดลง การมีชีวิตอาศัยอยู่บริเวณแอ่งหินมีความยากลำบากเพราะต้องทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิปริมาณออกซิเจนและระดับความเค็มของทะเล พบกับกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณแอ่งหินและสัมผัสมุมมองใหม่ๆในการจัดแสดงได้ในโซนนี้
7.หาดหิน (Rocky Shore)
เรียนรู้ชีวิตของสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่บริเวณที่ผืนดินและผืนน้ำบรรจบกันอย่างเพนกวินแจคแอสและกระเบน พร้อมชมการแสดงการให้อาหารที่โซนนี้ได้ทุกวัน
8.มหาสมุทรเขตร้อน (Tropical Ocean)
ตื่นตาตื่นใจไปกับการป้อนอาหารปลาและเรียนรู้เกี่ยวกับปลาหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในบริเวณมหาสมุทรเขตร้อน ไม่ว่าจะอยู่ด้านใดของเส้นศูนย์สูตร ทะเลเขตร้อนก็รายล้อมโลกอยู่ และยังเป็นบ้านของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น พะยูน เต่ามะเฟือง และฉลามหัวค้อน ที่พลาดไม่ได้คือ ปลานโปเลียน พร้อมกิจกรรมพูดคุยกับนักประดาน้ำของเราไปพร้อมๆกัน
9.อุโมงค์ใต้ทะเล (Ocean Tunnel)
เดินผ่านอุโมงค์ยักษ์ และชื่นชมความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำเหนืออุโมงค์และประติมากรรมรูปปั้นที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากวรรณคดีไทยในตำนานที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีจากเรื่อง พระอภัยมณี เรื่องราวของนางยักษ์กับพระอภัยมณีและปี่วิเศษ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวรรณคดีท้องถิ่นอีกด้วย
10.ฉลามกับซากเรือ (Shark Shipwreck)
เมื่อเดินเข้าสู่จุดเรือจม จะได้พบกับบรรยากาศใต้ท้องเรือที่เต็มไปด้วยกรวดหิน ปะการังที่เติบโตและเกาะติดอยู่กับซากเรือ สามารถนั่งพักผ่อนชื่นชมปลา ฉลาม กระเบน และปลาเขตร้อนชนิดอื่นๆที่มักซ่อนตัวอยู่ตามซากเรือได้
11. แมงกะพรุน (Jellies)
พบสิ่งมีชีวิตสุดลึกลับแห่งท้องทะเล ที่จะทำให้เคลิ้มไปกับลีลาพลิ้วไหว เพิ่มเติมแสงสีในทุกจังหวะการเต้นรำของพวกเขาใต้ท้องทะเล
12. เพนกวินสุขสันต์ มหัศจรรย์โลกน้ำแข็ง (Penguin Ice Adventure)
ร่วมผจญภัยในดินแดนแห่งอาณาจักรน้ำแข็งแอนตาร์กติกา ที่ที่สิ่งมีชีวิตต่างต่อสู้กับสภาพอากาศที่โหดร้าย เพลิดเพลินไปกับการว่ายน้ำอย่างร่าเริงของเจนทูเพนกวิน และพฤติกรรมขี้เล่นที่ทุกคนจะต้องหลงรัก ก่อนที่จะไปสัมผัสความน่ารักของเพนกวินเจนทู มีข้อเท็จจริงน่ารู้เกี่ยวกับเจ้าตัวนี้มาฝากกันด้วย
- เพนกวินเจนทูสามารถสูงได้ถึง 90 ซม. และยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในบรรดาเพนกวินกว่า 17 สายพันธุ์
- เพนกวินเจนทูมีลักษณะเด่นง่ายต่อการจดจำอยู่ที่แถบสีขาวกว้างบริเวณศีรษะและหางที่มีลักษณะยาวและแข็ง
- เจ้าเพนกวินชนิดนี้ยังมีความโรแมนติกมากกว่าชนิดอื่นๆโดยมักอยู่กับคู่ของตัวเองที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ปีก่อนหน้า
- เพนกวินเจนทูโปรดปรานการเคี้ยวเส้นผมมนุษย์
- เพนกวินเจนทูมีขน 2 ชั้นคือชั้นที่เป็นขนอ่อนนุ่มเพื่อให้ความอบอุ่นกับตัวเองและชั้นที่มีคุณสมบัติกันน้ำซึ่งอยู่เหนือชั้นแรกเพื่อช่วยให้เจ้าเพนกวินตัวแห้ง
- เพนกวินเจนทูอาศัยอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกาหนึ่งในสถานที่หนาวเย็นที่สุดของโลก
- เพนกวินเจนทูอาศัยอยู่ตามชายฝั่งที่มีหินขรุขระเป็นหลักจึงเป็นที่รู้จักจากท่ากระโดดอันเป็นเอกลักษณ์
- มูลของเจ้าเพนกวินเรียกว่า "กวาโน" (guano)
- เพนกวินเจนทูเป็นนักสร้างรังโดยจะสร้างจากใบมอสส์กิ่งไม้เล็กๆและกรวดก้อนเล็กๆ
- เมื่อเพนกวินรวมตัวกันเป็นกลุ่มภาษาอังกฤษเรียกว่า "Colony"
- เพนกวินเจนทูเป็นสัตว์สังคมตัวยง ดังนั้น โครงสร้างสังคมจึงสำคัญต่อพวกเขามาก
- เพนกวินเจนทูนั้นเป็นสายพันธุ์รักสนุกและมีเสน่ห์กว่าเพนกวินหลายๆสายพันธุ์
- แม่เพนกวินเจนทูวางไข่ทีละ 2 ฟอง และใช้เวลากก 1 เดือน
- หลังจากเพนกวินเจนทูตัวน้อยถือกำเนิด พวกเขาจะมีขนาดตัวใหญ่ขึ้นถึง 3 เท่า คือ จากน้ำหนักตัว 100 กรัม เป็น 300 กรัม ภายในสัปดาห์เดียว
- เพนกวินเจนทูเป็นเพนกวินที่ว่ายน้ำเร็วที่สุด โดยสามารถว่ายเร็วได้ถึง 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และดำน้ำได้ลึกถึง 170 เมตร
- นอกจากนั้น เจ้าเพนกวินชนิดนี้ยังดำน้ำได้บ่อยถึง 450 ครั้งต่อวัน !
- เพนกวินเจนทูมีเสียงร้องเหมือนแตรที่เด่นชัด ออกจะคล้ายกับเสียงร้องของลาอยู่สักหน่อย เสียงร้องเหมือนแตรนั้นดังมากถึงระดับ 80 เดซิเบล เทียบเท่าได้กับระดับความดังของรถไฟดีเซลที่วิ่งด้วยความเร็ว 45 ไมล์ (ประมาณ 73 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
และโซนสุดท้าย มุมแห่งการอนุรักษ์ (Breed Recue Protect Conservation Cove)
เดินเข้าสู่มุมแห่งการเรียนรู้เกี่ยวกับความพยายามในการอนุรักษ์ของ SEA LIFE ทั่วโลก และการมีส่วนร่วมของแต่ละท้องถิ่น
สัมผัส SEA LIFE Bangkok Ocean World โฉมใหม่ก่อนใคร ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป ที่SEA LIFE Bangkok Ocean World อะควาเรี่ยมมาตรฐาน ระดับโลก ชั้น บี1 สยามพารากอน ราคาบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 490 บาท เด็ก (อายุ 3 – 11ปี) 350 บาท